รีวิวค่ายม. ปลายจากเสื้อ ผ่านมุมมองเด็กมหา’ลัยคนหนึ่ง | Part 1/2

Pattranit Kongsaenkam
4 min readJan 29, 2020

--

รีวิวค่ายจากเสื้อ part 1/2

หลาย ๆ คนอาจเคยเข้าค่ายมัธยมที่ส่วนใหญ่จัดโดยคณะใดคณะหนึ่งตามมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ด้วยหลายจุดประสงค์ ไม่ว่าจะเป็นการหาผลงานกิจกรรมนอกห้องเรียนเพื่อใช้ในการยื่นเข้ามหาวิทยาลัย หาเพื่อนใหม่ อยากได้ประสบการณ์ใหม่ อยากค้นพบตัวเอง หรือรวมถึงการอยากได้รับความสนุก ความผ่อนคลายจากกิจกรรมสันทนาการที่ไม่มีในห้องเรียนด้วยก็ตาม

ปัดเป็นหนึ่งในบุคคลหนึ่งที่ตอน ม. ปลายนั้นได้มีการล่าค่ายเยอะมากกก ปัดยอมรับเลยว่าในตอนแรก ปัดหาเข้าค่ายที่มหาวิทยาลัยต่าง ๆ จัดนั้นเป็นเพราะว่าอยากยื่นรอบพอร์ต จึงทำการหาเข้ากิจกรรมนอกห้องเรียน หาสมัครค่าย เพื่อเติมเต็มพอร์ตของปัด แต่หลังจากที่ได้เข้าค่ายไปเรื่อย ๆ ปัดก็พบว่าสิ่งที่ค่ายให้นั้นคือ เพื่อนฝูง คอนเน็กชัน ความสนุก ประสบการณ์ที่ดีและรวมไปถึงความรู้ที่ดีมากมาย เลยกลายเป็นว่าปัดโหยหาประสบการณ์ที่ดีใหม่ ๆ เหล่านี้จนกลายเป็นคนล่าค่ายไป

และในแต่ละครั้งที่จบค่ายมาใหม่หมาด มักจะมีความคิดถึงและไม่อยากให้ค่ายจบเสมอ (ถ้าค่ายดี) จดจำนู่นนี่นั่นได้มากมายไม่ว่าจะเป็นชื่อพี่ค่าย เพื่อนค่ายหรือแม้แต่ของที่ได้กินในค่าย แต่การที่เราจำได้นั้น อาจเป็นเพราะค่ายเหล่านั้นมันเพิ่งจบลงไปต่างหาก สิ่งที่เราวัดได้จริง ๆ ว่าเราได้อะไรจากค่าย จะดูได้จากการที่กาลเวลาผ่านพ้นไปนานสักระยะแล้วลองมองย้อนกลับมาดูว่าเรายังคงจดจำอะไรได้บ้าง ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่ดีหรือไม่ดี แต่หากเรายังคงจำสิ่งเหล่านั้นได้อยู่ นั่นแสดงให้เห็นว่าค่ายเหล่านั้นได้ให้สิ่งนั้นกับเราจริง ๆ

ปัดอยากเล่าประสบการณ์ที่ได้รับมาทั้งหมดจากค่ายต่าง ๆ ที่เคยเข้า ผ่านมุมมองของปัดที่ตอนนี้ก็เรียนปี 1 แล้ว ในขณะที่แต่ก่อนเราบอกว่าค่ายนั้นดี ค่ายนี้ดี อาจเกิดจากความเห่อหรือการสร้างความเอนเอียงขึ้นมามากเกินไป แต่หากมองย้อนจากตอนนี้ล่ะ เราจะยังเหลือความทรงจำอะไรอยู่บ้าง สิ่งที่เคยป่าวประกาศว่าดี มันดีจริงไหม เราเคยได้รับบาดแผลอะไรบ้างรึเปล่า เรามาเริ่มดำดิ่งย้อนเวลากลับไปตอนที่ปัดกำลังม. 5 — ม. 6 กันค่ะ :)

บทความนี้ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง

ปัดขอแบ่งเป็นสองพาร์ทนะคะ ตอนแรกกะจะพาร์ทเดียวจบแหละ แต่ว่าแต่ละค่ายเขียนยาวมากเลย กลัวลายตากันครับผม

Part 1 : The current part

  • รีวิวค่าย Idia Camp 6
  • รีวิวค่าย IT Camp 13
  • รีวิวค่าย YSAC6

Part 2 : Continue reading

  • รีวิวค่าย JWCx
  • รีวิวค่าย WIP Camp #10
  • รีวิวค่าย TWC04

ค่าย Idia Camp 6 — Media Technology @ KMUTT

ค่ายไอเดียแคมป์นี้คือค่ายมัธยมที่ทางมหาวิทยาลัยจัดเป็นค่ายแรกที่ปัดเคยเข้าในชีวิตเลยค่ะ ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าปัดเป็นคนชอบเล่นเกมมากมาตั้งแต่เด็ก ๆ ด้วยความที่แม่ของปัดเคยซื้อ GBA รุ่น micro มาให้เล่น จนกลายเป็นคนชอบเกมมาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งในตอนที่ปัดเรียน ม. 5 ปัดกำลังมีความสนใจในด้านการสร้างเกมขั้นสุดเลยค่ะ และเห็นว่าค่ายนี้มีแลปเกมให้ลองเข้าด้วย เลยลองสมัครดูค่ะ

ตอนเดินทางมาค่ายนี่ยากมาก เพราะไม่ค่อยรู้เส้นทางแล้วเข้าใจผิดว่าค่ายนี้จัดที่บางมดเลย แต่จริง ๆ แล้วจัดที่บางขุนเทียน โชคดีไปที่ที่บ้านช่วยเช็กก่อน เลยไปทันค่ะ 555 อีกทั้งค่ายนี้ยังเป็นค่ายแรกที่ทำให้ปัดได้เห็นวัฒนธรรม ‘กางเกงเล’ ที่พี่ค่ายมักใส่กันในค่ายอื่น ๆ ด้วยค่ะ ตอนแรกปัดเห็นแล้วตกใจมากว่าแต่งตัวอย่างนี้กันได้ด้วยเหรอ เราจะกลัวดีไหมนะ แต่พอผ่านไปสักพักก็ชินอีกทั้งชอบจนอยากหามาใส่บ้างเลยค่ะ

รีวิวเสื้อค่าย

เป็นเสื้อยืดผ้าคุณภาพกลาง ๆ ไม่ดีมากหรือแย่มากจนเกินไป ปัดคิดว่าออกแบบได้มินิมอลดีแต่ก็ดูมีอะไรในเวลาเดียวกันค่ะ ชอบโลโก้ด้านหลังที่เป็นแม่กุญแจมาก เพราะเข้ากับธีม Unlock Your Idea ดีค่ะ จริง ๆ ข้อความ quote นี้มันจะอยู่ตรงกลางล่างของเสื้อพอดีนะ แต่มันเก่าแล้วค่ะ เลยย้วยไปนิดนึง (ไม่นิดอะ ! )

สิ่งที่ยังคงเหลือตราตรึงอยู่ในใจ

  • เพลงค่าย
    เกิดความสับสนและงงในใจตัวเองเหมือนกันค่ะว่า กูจำเพลงค่ายไว้ทำไมวะเนี่ยยย แต่คือปัดยังคงจำได้คร่าว ๆ จริง ๆ ว่าร้องท่อนแรก ๆ ว่าอย่างไรบ้าง ซึ่งร้องด้วยจังหวะเพลง เมียไม่มีของโจอี้บอยได้เลยค่ะ
    ดูสิ เปิดมาสิ่งแรกที่จำได้ก็ไร้สาระซะแล้ว แง 55555

“ไอเดียพี่ มีรึเปล่า มีรึเปล่า / ไม่มี
ไอเดียมีไอเดียพี่ก็มา แต่ไอเดียไม่มา ก็เพราะไอเดียไม่มี”- อิหยังวะ เนอะ! 5555

  • การกินข้าวร่วม (ชามเดียวกัน) กับเพื่อนค่าย
    ค่ายนี้เป็นค่ายที่มีชามกับข้าววางไว้กลางวงต่อกลุ่มของน้อง ๆ แล้วก็ให้ช้อนกลางมาใช้ตักกันปกติเลยค่ะ แรก ๆ ปัดช็อกมากว่าทำไมไม่ใช้วิธีการกินแบบแยกกันกินหรือเป็นข้าวกล่อง ทำให้วันแรกปัดกินได้ไม่เยอะ เพราะเกรงใจคนอื่นอีกทั้งยังต้อง keep look ด้วยค่ะ แต่พอวันต่อ ๆ มา ก็กินเยอะได้ปกติ แถมสนุกอีกต่างหาก เติมข้าวกันจ้าละหวั่นเลยค่ะทีนี้
  • การได้ทำเกมครั้งแรกด้วย Unity
    จากการที่ปัดเลือกแลปเกม ทำให้พอถึงวันท้าย ๆ จะมีให้น้อง ๆ กับทีมลองทำเกมกัน พี่คนนึง (เพื่อนค่าย) เป็นคนโค้ดซะส่วนใหญ่ ส่วนพี่อีกคนวาง assets ต่าง ๆ ในเกม และปัดเป็นคนออกแบบระบบการเล่นและเนื้อเรื่องคร่าว ๆ ค่ะ สนุกมากกก ซึ่งผลออกมาว่าได้ที่ 1 ของแลปเกมด้วยค่ะ !
  • ความเจ๋งของภาควิชานี้
    จะมีช่วงที่ทางค่ายเอาผลงานของรุ่นพี่มาให้ดูค่ะ มีทั้งเกมเพื่อความสนุก เกมเพื่อการแพทย์ (ที่เจ๋งมาก ! ) ที่อาศัย VR ในการช่วยบำบัดการเคลื่อนไหวของผู้ป่วย หรือรวมถึงชั้นวางของที่ช่วยนับสินค้าบนชั้นได้เลยพร้อมส่งข้อมูลไปที่แอป
    ซึ่งจากที่ปัดได้เห็นในตอนนั้น กลับมานึกดูในตอนนี้ ปัดก็ยังคงคิดว่ามีเดียเทคเป็นภาควิชาที่เจ๋งสุด ๆ เลยอยู่ดีค่ะ ปัดชอบมากกก
  • การเต้นสันทนาการ 2 เกือบ 3 ชม. รวด !
    มีวันนึงที่ภายในค่ายที่มีการเต้นสันทนาการรวดถึง 2 ชม. กว่าด้วยค่ะ เอาซะผอมซะเหนื่อยเลย ทำให้พอกลับที่นอนก็สลบเหมือดกันหมดเลยค่ะ คือทุกคนกล้าเต้นกันหมดเลย ออกแนวเก็บกดจากการทำชิ้นผลงานกันมั้งคะ 555 แต่ว่าสนุกม้ากกก
  • กฎห้ามมีเรื่องชู้สาวเกิดขึ้นภายในค่าย
    พีคจริงค่ะอันนี้ ค่ายอื่น ๆ นี่ไม่ได้มีห้ามอะไรเลย ใครจะสปาร์กจอยกันยังไงก็ได้ แต่ค่ายนี้ห้ามไว้ค่ะ พี่ค่ายเคยให้เหตุผลไว้อยู่ว่าทำไม แต่ปัดจำไม่ได้ 555 แต่ว่าสุดท้ายแล้วหลังจบค่าย ก็มีพี่ค่ายน้องค่ายสปาร์กจอยกันอยู่ค่ะ ซึ่งพี่ที่พูดเรื่องกฎนี้ก็บอกว่า ‘ไม่ผิดนิ่ จบค่ายแล้ว เต็มที่เลยน้อง’ อ้าว… ซะงั้นอ้ะ ! 555
  • เพื่อนค่ายและพี่ค่ายที่น่ารักมาก !
    เพื่อนค่ายที่ตอนนี้ก็เป็นรุ่นพี่ปัดหลายคนก็มี ส่วนใหญ่น่ารักนิสัยดีกันมากกกเลยค่ะ ผู้คนที่ปัดยังคงคุยกันอยู่หรือกดไลก์ให้กันบ้างจนถึงตอนนี้ มีทั้งเรียนม. เดียวกัน คณะเดียวกัน หรือต่างคณะกันแต่ก็ยังคงติดต่อกันไม่ห่างหาย เป็นอะไรที่นึกย้อนดูแล้วอบอุ่นใจมากเลยค่ะ

โดยรวมแล้ว ค่ายนี้เป็นค่ายเริ่มต้นชีวิตเด็กกิจกรรมของปัดที่ดีมากเลยค่ะ ถ้าไม่ได้เจอค่ายนี้ ปัดก็อาจไม่ใช่คนกล้าแสดงออกหรือมีแรงบันดาลใจมากมายอย่างทุกวันนี้แน่เลยค่ะ ❤

ค่าย IT Camp 13 — Information Technology @ KMITL

IT Camp 13

ค่ายไอทีแคมป์เป็นค่ายที่ปัดรักที่สุดจากค่ายม. ปลายที่เคยเข้ามาเลยค่ะ ถ้าไม่รวม JWCx (เพราะค่ายเจ ผู้จัดค่ายคือสมาคมผู้ดูแลเว็บไทยค่ะ) เป็นค่ายที่ทำให้ปัดสนใจในไอทีมาก และตัดสินใจเรียนคณะไอทีนี้เลยค่ะ จริง ๆ ปัดอยากเรียนไอทีที่นี้ด้วยซ้ำ แต่ไม่ติดตอนสัมรอบพอร์ตแล้วได้บางมดก่อน เลยไปบางมดแทนค่ะ 555 มาดูกันค่ะว่าอะไรบ้างที่ค่ายนี้ สถานที่แห่งนี้ทิ้งไว้ให้ปัดจนแทบจะมูฟออนจากที่นี่ไม่ได้เลยทีเดียว

รีวิวเสื้อค่าย

เป็นเสื้อค่ายที่เนื้อผ้าดี ไม่ย้วยง่าย และปัดก็ชอบในความที่ชื่อของแต่ละสาขาในค่ายมาเรียงกันด้านหน้า ส่วนเสื้อด้านหลังก็มีมาสคอตไวรัสประจำสาขายืนเรียงอยู่เช่นกัน ปัดว่ามันเป็นอะไรที่น่ารักมากกก โลโก้ค่ายไม่จำเป็นต้องใหญ่เตะตาเลย
แต่เสื้อตัวสีเทา — เขียวอาจไม่ค่อยเหมาะกับสีผิวปัดเท่าไหร่ และปัดคิดว่าสองสีนี้ยังคงมีความหม่นหมองอยู่ แต่ในขณะเดียวกัน เสื้อตัวสีน้ำตาล — ส้มนั้น สีเข้ากันมากเลยค่ะ สวย ดูสดใสได้ระดับนึงด้วย ชอบเสื้อตัวนี้มากค่ะ

สิ่งที่ยังคงเหลือตราตรึงอยู่ในใจ

  • ค่ายนี้ใจป๋า !
    ดูได้จากรูปเสื้อข้างบนที่ปัดแปะไว้ได้เลยค่ะ เสื้อสวยมากทั้ง 2 ตัว แล้วคือแจก 2 ฟรี 2 ตัวเลยด้วย ! ไปค่ายอื่น เค้าก็แจกกันแค่ตัวเดียวนะคะเนี่ย ส่วนเรื่องแจกของกินอื่น ๆ นี่ไม่ต้องพูดเช่นเดียวกัน อิ่มอร่อยน้ำหนักขึ้นหลังจบค่ายกันเป็นแถบค่ะ
  • การเต้นเพลงกล้วยที่สนุกที่สุด
    อ่านไม่ผิดหรอกค่ะ เพลงกล้วยจริง ๆ หรือที่หลาย ๆ คนเรียกว่าเพลง ‘พลิ้วบานาน่า’ นั่นล่ะค่ะ เป็นค่ายที่เต้นเพลงนี้ได้สนุกที่สุดเลย เพลงอื่นเต้นเก้ ๆ กัง ๆ ไป แต่ถ้าเพลงนี้ขึ้นเมื่อไหร่ เข่าอ่อนเข่าทรุดพร้อมพริ้วกันเลยค่ะ
  • การเจอความขัดแย้งในการทำงานที่ทำให้เสียเซลฟ์
    ด้วยความที่ปัดเลือกสาขา Gamepersky หรือสาขาสร้างเกมไป ในค่ายวันท้าย ๆ จะมีให้ลองสร้างเกมกับทีมพร้อมลองพรีเซนต์บนเวทีใหญ่ในห้องประชุมของคณะไอทีลาดกระบัง แต่ในระหว่างทำเกมกันอยู่นั้น ก็มีปัญหาในเรื่องของการดีไซน์ที่ขัดใจ ระบบเกมต่าง ๆ ที่ไม่ค่อยโอเคและเรื่องราวดรามาภายในทีมมากมายที่อีกคนไม่ฟังความคิดเห็นของเพื่อนร่วมทีมคนอื่นเลย บอกตรง ๆ ว่าตอนนั้นอยากร้องไห้มาก ฉันมาทำอะไรที่นี่ ถึงขั้นนอยด์ขั้นสุดเลยค่ะ แต่สุดท้าย ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีมากที่ชวนให้นึกถึงอยู่ดี
  • การได้ลองทำเกมแนว platformer ด้วย Construct 2 ครั้งแรก
    เกม platformer คือเกมแนวที่มุมกล้องจะถ่ายทอดให้เห็นตัวละครของเราเล็ก ๆ ทั้งตัวแล้วเคลื่อนที่ไปได้เพียง บน ล่าง ซ้าย ขวา เท่านั้น อย่างเช่น เกม Mario หรือ Mega man ซึ่งปัดได้ลองทำเองครั้งแรก สนุกมากกก ปั้น sprites ต่าง ๆ เพลิน ๆ เลยค่ะ ทำง่ายก็ง่ายด้วย ยากแค่ตอนออกแบบเกมค่ะ พอเห็นแบบนี้ เลยทำให้มีแรงบันดาลใจในการสร้างเกมเพิ่มขึ้นไปอีก
  • กลางคืนไม่ยอมนอน แต่ชอบมานอนในห้องดูดวิญญาณ
    ปัดชอบที่ไอทีแห่งนี้มากกับห้อง Auditorium หรือห้องประชุมที่มีเก้าอี้นั่งอย่างโรงหนังเป็นสโลป แอร์เย็นมาก สบายมากกก แต่ไม่ดีตรงสบายเกินไปแล้วหลับนี่แหละค่ะ โดนถ่ายรูปแล้วเล่นกันใหญ่เลยว่า ‘มีคนตาย’ 555 แต่ก็ไม่ได้มีแค่ปัดที่ตายนะคะบอกเลย ก็มันน่านอนนี่นา !
  • กิจกรรมปาร์ตี้เกมสนุกสุดดด
    ในค่ายจะมีกิจกรรม all camp ที่น้อง ๆ ทุกสาขามาเล่นเกมด้วยกัน โดยทำเป็นคืนปาร์ตี้ธีมไวรัส ที่จะมีโต๊ะให้เล่นเกมมากมายพร้อมแจกเหรียญให้น้อง ๆ แต่ก็จะมีพี่ค่ายบางคนมาเป็น ‘ไวรัส’ เพื่อขโมยเหรียญของเราแล้วจับตัวเราไปอย่างเนียน ๆ และปัดว่าปัดโดนพี่ไวรัสจับตัวไปด้วยแหละค่ะ 555 คือเค้าไม่เฉลยว่าใครคือไวรัสบ้าง เพราะพี่ไวรัสจะเนียน ๆ ดึงน้องไปห้องมืด ซึ่งปัดมีเหรียญแลกเปลี่ยนพอดีถึงออกมาได้ สนุกมากเลยค่ะ ใครได้เหรียญที่รวมกันแล้วมีมูลค่ามากที่สุดก็จะได้ขนมไป โดยที่ตอนแรกน้อง ๆ จะไม่รู้เลยค่ะว่าเหรียญอะไรมีค่าอะไรบ้าง มีตั้งแต่ค่าบวกยันลบเลยค่ะ สุ่มดวงกันสุด ๆ ว่าจะเก็บเหรียญไหนกัน บางคนเก็บเหรียญเยอะมาก แต่สุดท้ายคะแนนติดลบก็เศร้าไปค่ะ 555
  • การอาบน้ำรวมในค่ายครั้งแรก
    ค่ายนี้กลัวห้องอาบน้ำไม่พอสำหรับน้องค่ายค่ะ เลยแบ่งเป็นสองโซน คือ โซนอาบน้ำรวมกับห้องอาบน้ำเดี่ยว วันแรกมาปัดเห็นว่าคนออรอต่อคิวกันหน้าห้องน้ำที่เป็นห้องอาบเดี่ยวกันยาวเหยียดมาก ปัดรอไม่ไหวเลยไปห้องอาบรวมดูค่ะ เตรียมผ้าถุงพร้อม แต่ปัดก็ไม่กล้าอาบอยู่ดี อาบไปได้ไม่ค่อยเต็มที่ และพอรู้สึกไม่ค่อยสะอาดในคราวนั้น (เพราะตัวเองอายและมีสกิลการตักอาบกากเอง) วันต่อ ๆ มาก็ต้องยอมเข้าแถวรออาบห้องแยกแหละค่ะ ฮือ
  • ระบบจับบัดดี้เพื่อนค่าย
    สนุกสุดกับระบบนี้ค่ะ ต้องคอยเขียนจดหมายถึงกัน บ้างก็มีเทคของให้กัน พี่ค่ายก็รับฝากรับส่งของกันวุ่นเลยค่ะ เพราะน้อง ๆ ไม่อยากให้บัดดี้ตัวเองรู้ว่าใครเทค ส่วนคนที่เทคปัดนั้นเค้าไม่ได้เทคอะไรให้มากมาย แต่ในวันสุดท้ายกับวันที่เฉลยบัดดี้ เค้าขอโทษเราที่ให้ของเทคเราน้อยไป (ไม่เห็นเป็นอะไรเลย ! เราเข้าใจ) และจากการที่เค้าได้รางวัลผลงานในค่าย เค้าเลยยกรางวัลแฟรชไดร์ฟความจุ 16 GB ให้เป็นของขวัญเทคบัดดี้แทนค่ะ ตอนนั้นคือซาบซึ้งปิติชูใจมาก น่ารักมาก ๆ เลยค่ะ ตอนนี้ก็ยังใช้อยู่เล้ยยย
  • ความชิดใกล้ของพี่ค่ายกับน้องค่าย
    เป็นค่ายที่ต้องบอกเลยว่าประชากรค่ายสนิทกัน รักกัน กลมเกลียวกันที่สุด ! ด้วยการที่ขณะที่น้อง ๆ นั่งทำกิจกรรมรวมกันอยู่นั้น พี่บ้านต่าง ๆ ก็มานั่งในแถวกับน้อง ๆ ด้วยเลยค่ะ เค้าให้เล่นบีบบ่าบีบไหล่กัน พี่เค้าก็มานั่งเมาท์นั่งเล่นกับน้องค่ายด้วยเลย เป็นอะไรที่ปัดประทับใจมากจนถึงตอนนี้ เพราะค่ายอื่น ๆ มักยืนล้อมน้องกันอย่างเดียวค่ะ ซึ่งยังคงรู้สึกถึงความห่างเหินอยู่
  • ❤ ประสบการณ์ความรักที่หล่อเลี้ยงหัวใจเด็กม. ปลาย
    จากข้อบนที่สนิทกับพี่ค่ายมากมาย ภายในระยะเวลาค่าย 5 วัน 4 คืนนี้ โกหกไม่ได้เลยว่าหัวใจมีไหวหวั่นกับพี่ค่ายบางคนค่ะ 555 ต้องบอกเลยว่าปัดในตอนนั้น ไม่สนใจความรักเลยจริง ๆ ประมาณว่าไม่เจอคนถูกใจสักทีมากกว่า แล้วพอมาเจอพี่คนนึงที่ไม่ได้หล่อเหลาเกาหลีนิยายแจ่มใส แต่เค้าเป็นคนที่นิสัยน่ารักมาก ๆ คอยมาดูแลอยู่ตลอด คุยกันตลอด
    จนกระทั่งจบค่ายไปแล้ว ก็ยังคงคุยกันอยู่ นานอยู่กว่าจะรู้ตัวว่าชอบพี่เค้า แถมคุยกันเป็นปีเลยด้วยค่ะ เล่นเกมด้วยกันบ้าง (ซึ่งปกติปัดจะเล่นแค่กับเพื่อนที่สนิทโคตร ๆ เท่านั้น เพราะไม่ชอบเปิดไมค์กับคนไม่สนิท) และอย่างบางเหตุการณ์เช่นในวันที่มี Open House ของที่นี่ในปีนึง ทุกคนกลับกันหมดแล้ว แม้แต่ตัวนักศึกษาที่จัดบูธกันก็เก็บของกันหมดแล้วเช่นเดียวกัน แต่ที่บ้านปัดยังเดินทางมารับไม่ถึงสักที ก็มีพี่คนนี้นี่แหละที่กำลังจะกลับแต่เห็นปัดนั่งอยู่คนเดียวหน้าคณะ พี่เค้าหยุดนั่งลงรอและชวนคุยเป็นเพื่อนปัดด้วยค่ะ รอจนที่บ้านมารับในที่สุด พี่เค้าถึงกลับไปเหมือนกัน บอกเลยว่าโมเมนต์นี้ละมุนใจปัดมาก ๆ ทำให้ยิ่งชอบพี่เค้าไปอีก
    และก็มีแย็บ ๆ หยอดพี่เค้าบ้าง แต่พี่เค้าไม่ค่อยเล่นกลับเลย ทำให้คิดได้ว่าพี่เค้าคงเห็นเราเป็นแค่น้องแหละ เลยตัดสินใจตัดใจจากพี่เค้าไปในที่สุด
    พอมานึกย้อนดูแล้ว พี่เค้าก็ยังคงเป็นบุคคลที่ปัดเคารพและดีต่อใจ ประทับใจปัดเสมอมาจนถึงตอนนี้ แม้ว่าจะคุยกันน้อยลงแล้วก็ตามค่ะ :)

สรุปแล้ว ค่ายนี้ดีต่อใจปัดที่สุด ดีต่อใจจนทำให้อยากเรียนที่นี่มาก ๆ ชื่นชมในสิ่งอำนวยความสะดวกและทัศนคติของเด็กที่นี่มาก ๆ เช่นเดียวกัน ประทับใจม้ากกกค่ะ :)

ค่ายเด็กวิทย์ หัวใจศิลป์ 6 (YSAC 6) — Medicine Siriraj Hospital @ MU

ป.ล. สีเสื้อจากรูปแรกตรงกับของจริงกว่าฮะ

ค่ายเด็กวิทย์ หัวใจศิลป์ค่ายนี้เป็นค่ายที่ปัดชอบชื่อค่ายมากกก มันดูติดหูติดปากดี เท่านั้นไม่พอ ปัดเป็นเด็กสายวิทย์ที่ชอบเสพศิลปะด้วยค่ะ มันช่างเหมาะเจาะอะไรแบบนี้ ตอนแรกปัดไม่คิดว่าจะสมัครติดด้วยค่ะ เพราะว่ามีโจทย์ให้วาดรูประบายสีมากมายแล้วปัดเป็นคนที่กากสกิลศิลปะการวาดรูปนี้มากเลยค่ะ แต่ก็พยายามถึงขั้นสุดและสุดท้ายก็ติดมาได้ อีกทั้งยังเป็นค่ายที่เท้เท่ เพราะรับน้องเข้าค่ายโดยการใช้พื้นที่บริเวณภายในโรงพยาบาลศิริราชด้วยค่ะ

รีวิวเสื้อค่าย

ปัดชอบดีไซน์ลายเสื้อมาก ! เพราะว่ามันคือแกนกระดูกสันหลังค่ะ พร้อมมีตัวอักษรบอกชื่อชิ้นส่วนของกระดูกยาวออกมาประกอบกับชื่อค่ายด้วย ซึ่งมันดูเป็นกระดูกจริง ๆ และชื่อค่ายก็เด่นไม่แพ้กัน ไม่มีการดึงซีนกัน ลงตัวสุด ๆ เลยค่ะ ไม่แปลกใจเลยเพราะสาขานี้ก็คือนิเทศดี ๆ นี่แหละ ล้ำมากกก ชอบมากจริง ๆ ค่ะ

สิ่งที่ยังคงเหลือตราตรึงอยู่ในใจ

  • ระบบจับพี่บัดดี้ดี๊ดี
    จากค่ายไอทีแคมป์ข้างบนที่มีระบบจับบัดดี้ของน้องค่าย แต่ค่ายนี้เป็นพี่ค่ายแทนค่ะ ปัดสนิทกับพี่ค่ายคนนึงมากในค่ายนี้ เค้าเป็นพี่ค่ายกึ่งพิธีกรดำเนินรายการด้วยค่ะ ซึ่งในวันเฉลยพี่บัดดี้นี่ช็อกมาก พี่คนนี้เองที่ปัดสนิทด้วยเค้าเป็นพี่บัดดี้ปัดล่ะ 555 คืองงมากเพราะว่าพี่เค้าเวลาเทคของให้ปัด พี่เค้าเป็นคนหยิบยื่นเอาของให้เราเองกับมือเลย ไม่มีการสับขาหลอกใด ๆ ทั้งสิ้น โอ๊ย พีคเกิ๊น !
  • การได้เปิดหูเปิดตากับงานด้าน ‘นิเทศแพทย์’
    ค่ายนี้ทำให้ปัดได้เห็นโลกแห่งการทำงานเกี่ยวกับด้านศิลป์และการแพทย์ค่ะ ตอนแรกก็งงมากว่ามันจะมีด้วยเหรออะไรแบบนั้น แพทย์ก็แพทย์สิ ศิลป์นิเทศก็อีกเรื่อง แต่สาขานี้เป็นสาขาเกี่ยวกับนิเทศที่ใช้ในการแพทย์จริง ๆ ไม่ว่าจะช่างภาพ ที่ไม่ได้เรียนรู้เพียงแค่การถ่ายรูปให้สวยงาม แต่ต้องเรียนรู้ถึงการถ่ายภาพการผ่าตัดที่ถูกหลักและไม่รบกวนหมอที่กำลังผ่าตัดอยู่ด้วยค่ะ และมีการทำงานอื่น ๆ อีกมากมายไม่ว่าจะเป็นการวาดสื่อ หรือปั้นโมเดลสื่อการสอนเกี่ยวกับการแพทย์ค่ะ
  • การได้นั่งมองพี่ค่ายวาดรูป Landscape
    จริง ๆ แล้วกิจกรรมวาดรูป Landscape นี้ ปัดต้องเป็นคนวาดเองค่ะ 555 แต่ปัดวาดไม่ไหวจริง ๆ เพราะก็ไม่ได้มีการสอนวาดอะไรขนาดนั้น ออกแนวว่าคนเข้าค่ายมาได้ส่วนใหญ่จะวาดรูปเก่งกันพอตัวแล้วระดับนึงค่ะ พี่ที่เป็นบัดดี้ปัดก็เห็นท่าไม่ได้ความ เลยช่วยวาดให้ เลยกลายเป็นว่าได้นั่งมองพี่เค้าวาดรูปเท่ ๆ งาม ๆ แทนค่ะ แต่ว่าขณะที่นั่งดูพี่เค้าวาดนั้น ปัดโดนมดกันแรงและปวดมาก เลยต้องวิ่งวุ่นปั่นจักรยานกันไปหาพี่พยาบาล เสียเวลาวาดภาพลงไปอีกค่ะ 555 ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่เจ๋งอีกแบบเหมือนกันนะคะ ซึ่งพี่คนนี้นี่ทั้งใจดีและเฟรนด์ลีมาก มีการทิ้งดินสอที่ใช้วาดไว้ในกระเป๋าดินสอของปัดไว้ เพื่อให้เป็นที่ระลึกให้นึกถึงความทรงจำในค่ายดี ๆ ด้วยล่ะค่ะ คูลมาก !

ค่ายนี้พูดโดยสรุปแล้วอาจบอกได้ว่าไม่ใช่ทางของปัดเท่าไหร่ เพราะเป็นทางศิลป์จ๋ามาก แต่ก็มีความยากในเรื่องการแพทย์ที่เรียนหนักไม่แพ้กัน แต่ในขณะเดียวกัน ก็กลับทำให้น้องค่ายคนนี้อินและเปิดโลกทัศน์กับสายงานล้ำ ๆ นี้ได้ไม่น้อยเหมือนกันค่ะ

จบไปแล้วกับรีวิวค่าย Idia Camp 6, IT Camp 13 และ YSAC 6 ทั้งสามค่าย ยังคงเหลืออีก 3 ค่ายเด็ด ๆ ให้อ่านกันนะคะ แต่ต้องตัดจบก่อนเพราะยาวม้ากกก กลัวทุกคนเบื่อกัน ไว้ติดตามกันในพาร์ท 2 ต่อนะคะทุกคน ขอบคุณค่า ❤

--

--