Arrival: ให้มันไหลไปกับเวลา

Photo credit: Paramount Pictures

[มีสปอยล์]

การสื่อสารนี่จริงๆ เป็นเรื่องซับซ้อน เพราะการสื่อสารผ่านพื้นฐานที่ต่างกัน ทั้งภาษา วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม และเงื่อนไขอื่นๆ อีกมากมาย อาจทำให้การส่งข้อความไปยังอีกฝ่ายหนึ่งมีความคลาดเคลื่อนและเข้าใจผิดกันได้ แต่ในอีกแง่หนึ่ง ถ้าจุดประสงค์ของการสื่อสารคือความต้องการ Connect กันด้วยทางใดทางหนึ่ง มนุษย์ก็จะเข้าใจ ซึ่งกันและกันได้ เพราะมีพื้นฐานความอยากเชื่อมต่อกับอีกฝ่ายเหมือนกัน ทีนี้ ถ้ามีสิ่งมีชีวิตประเภทอื่นอยากสื่อสารกับสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์ล่ะ เราจะสามารถคุยกันได้รู้เรื่องไหม อ้างอิงจากเหตุการณ์ในหนัง คือถ้าเปิดใจยอมรับกัน แม้ว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตคนละสายพันธุ์ เราก็สามารถสื่อสารกันได้รู้เรื่องนะ เพียงแต่ว่าอาจต้องใช้ความพยายามมากหน่อย และไม่ใช่ทุกคนที่จะคุยกันรู้เรื่อง ถ้าไม่เปิดใจกันให้มากพอ ตัวอย่างง่ายๆ คือเหล่ามนุษย์ในเรื่อง คือก็เป็นสิ่งมีชีวิตประเภทเดียวกัน เหมือนๆ กัน แต่ไม่พยายามจะเข้าใจกันเลย อาจจะด้วยความยึดมั่นถือมั่นอะไรก็ตามแต่ สุดท้ายก็ทำให้คุยกันไม่รู้เรื่อง ไม่ใช่เพราะความต่างของภาษานะ แต่เพราะไม่เปิดใจจะคุยกันนั่นแหละ

มาที่คำถามที่ Louise ถามเรากันบ้าง

“If you could see your whole life from start to finish, would you change things?”

ถ้าเราเห็นอนาคตว่า สุดท้ายปลายทางชีวิตจะเป็นแบบนี้นะ เราจะอยากเปลี่ยนทางเดินในปัจจุบันเพื่ออนาคตที่ดีขึ้นไหม คือเราจะตัดสินใจกระทำ/ไม่กระทำบางอย่าง เพื่อหันเหผลลัพธ์ให้เป็นไปในอีกทางหนึ่งใช่หรือไม่ ซึ่งถ้าตัดสินใจเปลี่ยนได้ มันจะขัดแย้งกับหลักเงื่อนไขของเวลาในชีวิตจริง เพราะเวลาจะเป็นตามลำดับ ไม่กระโดดไปมา แต่ในหนังนี้ เวลามันซ้อนและคาบเกี่ยวกันไปมา เนื่องจากเวลาไม่ได้ดำเนิน เป็นเส้นตรง จึงทำให้เราสามารถใช้ชีวิตซ้อนกันได้ ทั้งปัจจุบัน อดีตของปัจจุบัน และอนาคตของปัจจุบัน มันเกิดพร้อมๆ กัน คู่กันไป

ลองมาคิดต่อว่า ถ้าเราสามารถมองเห็นชีวิตของตัวเองได้ตั้งแต่ต้นจนจบจริงๆ เราจะตัดสินใจเปลี่ยนไหม แล้วการเปลี่ยนมันจะให้ผลที่ดีจริงไหม จะเป็น Butterfly Effect หรือเปล่า เรื่องที่ต้อง Concern มีเยอะแยะ หรือว่าที่สุดแล้ว ชีวิตมนุษย์อาจถูกสร้างมาให้เดินไปตามวิถีของมัน เดินตามเวลาไปข้างหน้าเรื่อยๆ เดินไปแบบรู้ทันตัวเองว่ามีอะไรเกิดขึ้นตรงหน้าบ้าง โดยที่การกังวลเรื่องอนาคตและจมจ่อมกับอดีตไม่ได้ช่วยให้ปัจจุบันของเราดีในแบบที่มันควรจะดี การทำวันนี้ให้ดีที่สุดในเงื่อนไขที่มีอยู่ ก็น่าจะเพียงพอต่อการใช้ชีวิตแบบมนุษย์คนหนึ่งได้แล้ว

ทั้งหมดทั้งมวล เพราะ Louise เข้าใจโครงสร้างภาษากลมๆ ของ Heptapods ซึ่งการเข้าใจระบบภาษาอันนี้แหละ ที่เป็นประตูและทำให้เข้าถึง concept ของห้วงเวลาที่เป็นแบบ Nonlinear ได้ Louise เลยเห็นเหตุการณ์ทั้งชีวิตของตัวเอง ทำให้เจอเหตุผลของชีวิตที่ว่า “Why We Do What We Do” และสามารถข้ามเวลา (ในขณะที่ก็ยังใช้ชีวิตอยู่ในช่วงปัจจุบัน) ไปยังอีกห้วงหนึ่งที่เกิดขึ้นพร้อมกันได้ แต่สุดท้ายแล้ว Louise ก็เลือกเดินไปในแนวทางของชีวิตโลกที่ควรจะเป็น แม้จะโดนสปอยล์เนื้อเรื่องของชีวิตตัวเองแล้วก็ตามแต่ ชีวิตก็คงต้องเดินต่อไปแบบนี้

#ชีวิตเป็นเช่นไรคงอยู่ที่ตัวเอง

--

--