I roam alone in Malaysia and Singapore 2019 | |มาเลเซียและสิงคโปร์คนเดียวแบบเรื่อย ๆ เหนื่อยก็นอน

YamKK
20Scoops CNX
Published in
5 min readMay 13, 2019

เคยถามตัวเองเหมือนกันว่าถ้าวันหนึ่งจะต้องเดินทางไปต่างประเทศคนเดียวจะกล้าไหม คำตอบในใจคือทำไมจะไม่กล้ามันต้องสนุกมากแน่ ๆ และเฝ้ารอโอกาสนั้นเสมอ

ต้องบอกก่อนเลยว่าทริปนี้เริ่มมาจากที่เรามีความสนใจอยากจะเข้าร่วมงานมหรสพงานหนึ่งที่จะจัดขึ้นในวันที่ 30 เมษายน 2562 ณ ประเทศสิงคโปร์ ที่จะต้องมีการจองตั๋วเพื่อเข้าร่วมงาน และไม่สามารถเดาได้ว่าเราจะชิงตั๋วเข้าชมนั้นมาได้ไหม จึงเป็นสาเหตุให้ไม่สามารถจองตั๋วเครื่องบินและโรงแรมล่วงหน้าได้จนกว่าจะได้ตั๋วร่วมงานมาครอบครอง ด้วยความที่มีเวลาในการแพลนน้อยและไม่สามารถคอนเฟิร์มอะไรที่แน่นอนกับเพื่อนได้เลย… ทริปเที่ยวคนเดียวแบบคูล ๆ (เหรอ?)ก็เลยเกิดขึ้น

Finally, I Got the Ticket!

แต่ความไวเป็นเรื่องของปีศาจ ในที่สุดก็ได้ตั๋วสมใจ(กรี๊ด!!) หลังจากนั้นก็ทำการจองตั๋วเครื่องบินและที่พักตามที่แพลนไว้คร่าว ๆ ตั้งแต่แรกด้วยหัวใจที่เบิกบาน แต่…หลังจากที่กดเข้าแอพเพื่อจะไปจองตั๋วเครื่องปรากฏว่าตั๋วราคาโปรฯ ที่ตั้งใจจะจองไม่มีแล้วเหลือแต่ราคาโหด ๆ และค่อนข้างจะเกินงบที่ตั้งไว้ ตอนนั้นก็พยายามหาหลาย ๆสายการบินซึ่งก็ไม่มีราคาที่น่าพอใจ ก็เลยนั่งเปิดแผนที่เพื่อดูว่าเชียงใหม่กับสิงคโปร์มันใกล้กันแค่ไหนใน Google Maps(เพื่อ?) และเกิดคิดขึ้นมาได้ว่ามาเลเซียใกล้สิงคโปร์หนิ ทำไมไม่บินไปลงที่นั่นล่ะ คิดได้ดังนั้นก็กดเช็คราคาและจองในทันที

เดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง CNX-KUL ลงที่ KLIA2

ตอนนี้ก็ได้ตั๋วมาแล้วในขณะที่ยังไม่มีแพลนใด ๆ เพราะที่ตั้งใจไว้แต่แรกพังไปแล้ว แต่ไหน ๆ ก็พังไปแล้วเนอะก็เลยตัดสินใจอยู่เที่ยวก่อน 2 วันแล้วค่อยบินไปสิงคโปร์ต่อเพราะเคยมีคนบอกว่าสิงคโปร์เป็นประเทศที่ไม่ค่อยจะมีอะไรน่าเที่ยวเท่าไหร่ และวันนั้นก็จัดการจองทุกอย่างให้จบเพื่อจะได้แพลนในส่วนอื่น ๆ ต่อไป

การเตรียมตัว

  • Sim Card
    เราเลือกใช้ SIM2Fly ของ AIS ใช้ได้ 8 วันแบบ Non-Stop และสามารถใช้ได้อย่างต่อเนื่องทั้ง 2 ประเทศโดยใช้ซิมเดิม
  • การแลกเงิน
    อันนี้น่าจะอยู่ที่ตัวบุคคลเลยค่ะว่าจะแลกไปเท่าไหร่ถึงจะพอใช้จ่ายในแต่ละวัน อย่างของเราคือจะคำนวณค่ากินคร่าว ๆ และค่ารถไฟฟ้าอิงตามแพลนที่จะไปโดยเราเช็คราคาของมาเลเซียจาก klia2.info และสิงคโปร์จาก mrt.sg มีบวกค่า Grab ไปเผื่อด้วย ราคาที่เห็นในเว็บอาจจะไม่ได้ตรง 100% แต่ก็ไม่ได้ต่างกันมากถือว่าช่วยได้เยอะค่ะ
  • ประกันชีวิต
    สำหรับอันนี้ซื้อไว้เพื่อความสบายใจค่ะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ สามารถหาอ่านรีวิวตามเว็บต่าง ๆ ได้ วิธีการเลือกของเราง่าย ๆ เลยค่ะเลือกแพ็คเกจที่จ่ายค่าส่งศพกลับประเทศเยอะที่สุด 55555

Day 1 ประสบการณ์รอรถบัสแต่ไม่ได้นั่งรถบัส

Nasi Lemak with Fried Chicken ณ Old Town White Coffee KLIA2

วันแรกหลังจากแวะทานข้าวและเช็คอินที่พักเสร็จเรียบร้อยก็เป็นเวลาประมาณบ่าย 3 โมง ตามแพลนคือวันนี้จะไปเที่ยวเมืองปุตราจายา ศูนย์ราชการแห่งใหม่ของประเทศมาเลเซีย และการเดินทางครั้งนี้จะต้องนั่งบัสด้วย(ตามที่อ่านรีวิว) ก็จัดการกด Grab จากโรงแรมเพื่อไป KLIA Transit ที่ใกล้ที่สุดและไปลงที่สถานี Prutrajaya & Cyberjaya เดินต่ออีกนิดก็จะถึง Putrajaya Sentral เพื่อขึ้นบัสไปชมเมือง

หลังจากที่เช็คแล้วเช็คอีก ถามแล้วถามอีก รอแล้วรออีกก็ยังไม่มีบัสคันไหนที่จะไป Putrajaya ซึ่งงงมาก เราคิดว่าเราอ่านรีวิวมาละเอียดมากแล้วแต่ทำไมยังไม่ได้ไปไหนซักที ขึ้นบัสคันไหนก็โดนไล่ลงทุกคัน 555 แล้วพูดเสียงดังมาก เลยเดินไปถามเจ้าหน้าที่แถวนั้นอีกครั้งว่าสรุปแล้วมีบัสคันไหนที่ไป Putrajaya บ้าง เขาก็บอกให้ไปรอที่ Platform 5 ซึ่งเราก็รอตรงนี้มาตลอดแต่ไม่มีคันไหนไป จนคันที่ 3 มาจอดเราก็ขึ้นรถไปถามพร้อมกับเปิดรูปให้ดูว่าจะไปตรงนี้ไหม เขาก็บอกต้องรอขึ้นรถรอบอื่น มาถึงตอนนี้ก็ไม่รอแล้วค่ะรู้สึกว่ามันนานเกินไปแล้ว เลยกดเรียก Grab เหมือนเดิมจากที่ตั้งใจจะเซฟเงินจ่ายแค่ 1 ริงกิต กด Grab ก็โดนไป 8 ริงกิต T^T (8 ริงกิตประมาณ 60 บาทไทย)

มัสยิดสีชมพู (Putra Mosque)

เมื่อมาถึงมัสยิดสีชมพูจะมีจุดให้ยืมชุดคลุมสำหรับผู้หญิงเพื่อให้ใส่คลุมเข้าไปภายในมัสยิด ข้อควรระวังคือต้องใส่แบบคลุมหัวทั้งหมด ลมจะแรงหมวกจะปลิวก็ต้องจับไว้ให้ดี ๆ ไม่งั้นจะมีเสียง เฮ้! มิสและทำท่าดึงหมวกขึ้นตลอดทาง สถานที่นี้เข้าชมฟรีและเปิดทุกวันแต่จะต้องเช็คตารางเวลาด้วยนะคะว่าวันไหนเปิด-ปิดกี่โมง

ด้านในมัสยิด
10 points to Gryffindor.

หากเดินไปทางด้านหลังของมัสยิดเราจะสามารถเห็นวิวรอบ ๆ ซึ่งประกอบไปด้วยสถานที่สำคัญหลาย ๆ แห่งและหากมีเวลาก็สามารถเดินชมเมืองได้โดยมีสถานที่สำคัญถึง 11 จุดให้ชม

Perdana Putra (Prime Minister’s office)
Seri Wawasan Bridge
Putra Bridge
รูปที่ได้จากการถ่ายบน Putra Bridge
Ministry of Finance

เดินมาถึงตรงนี้ก็เริ่มจะรู้ตัวแล้วค่ะว่าเดินออกมาไกลเรื่อย ๆ แล้วนะ ก็เริ่มมองหาจุดที่มีคนเดิน ถ้ามีคนแถวนั้นก็จะชมเมืองเสพบรรยากาศแบบสุด แต่ถ้าตรงไหนไม่มีคนก็วิ่งค่ะ วิ่งไปเรื่อย ๆ จนไปเจอ McDonald’s ในใจก็คิดรอดแล้วจ้าาาา เพราะหิวมากแต่ขอไม่ลองอาหารท้องถิ่นแล้วเพราะรู้สึกไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่

My dinner in Malaysia.

แมคพายที่นี่จะแตกต่างจากที่ไทยคือมีพายกล้วย และมีเมนูของหวานต่าง ๆ ที่มีส่วนประกอบเป็นทุเรียน หลังจากลองชิมพายด้วยใจที่คาดหวังไม่มากก็คือตามนั้นเลยค่ะไม่คาดหวังก็จะไม่ผิดหวัง 555 รู้อยู่แล้วว่าเขาจะต้องใส่เครื่องเทศจำพวก Cinnamon หรือ Nutmeg ซึ่งไม่ค่อยชอบเท่าไหร่เอาไป 4/10 คะแนน ถือว่าได้ลองหลังจากนั้นก็นั่งชมแสงสีของมัสยิดสีชมพู ซึ่ง Mc ตรงนี้โลเคชั่นดีมากร้านเป็นกระจกใสสามารถชมวิวได้จากด้านใน

Day 2 ชมตึกแฝดและดูลิง?

วันนี้เราจะไป Petronas Twin Tower(ตึกแฝด) เหมือนเดิมคือเรียก Grab เพื่อไป KLIA Transit และต่อสถานีไปเรื่อยๆ จะบอกว่าที่นี่การใช้ Grab เป็นอะไรที่สะดวกมาก ๆ และอัธยาศัยดีที่ไทยก็จะประมาณนี้ เขาจะชวนคุยตลอดมาทำไม มาคนเดียวเหรอและคำถามยอดฮิตมาจากไหน ซึ่งทุกคันเราจะให้เขาทายและทุกคันจะทายว่ามาจากเวียดนามหมดเลย 555 โอเคค่ะโอเคเลย หลังจากถึงสถานี KLCC แล้วก็เดินตรงไปที่ห้าง Suria ก็จะเจอกับ…

ตึกแฝดที่ไม่แฝด

เดินต่ออีกนิดก็จะได้เจอกับตึกแฝดสมใจ แต่กว่าจะเจอมุมแฝดก็เหนื่อยอยู่เหมือนกัน

Petronas Twin Tower

บริเวณตึกจะมีลานน้ำพุและมีนักท่องเที่ยวไปถ่ายรูปกันค่อนข้างเยอะ มีพ่อค้าแม่ค้ามาขายเลนส์ Wide สำหรับมือถือ ขายเก่งมากกกกพูดไม่หยุด มีบริการเทียบค่าเงินให้ด้วยเขาบอกว่า 20 ริงกิตเองถ้าแปลงเป็นเงินเวียดนามก็เท่านี้นะพร้อมกับยื่นโทรศัพท์ให้ดู อันนี้เขาไม่ได้ถามว่ามาจากไหนแต่กดให้เองแบบมั่นใจมากพี่รู้ได้ไงคะ 55555

รูปที่ได้จากการเนียนกดลองเลนส์ 555
Batu Caves

Batu caves เป็นศาสนสถานในศาสนาฮินดู เป็นถ้ำหินปูนและเชื่อกันว่ามีมาตั้งแต่ 400 ล้านปีที่แล้วมีบันไดทั้งหมด 272 ขั้นด้านบนก็จะเป็นวัดที่อยู่ในถ้ำสวยงามอลังการมากค่ะ การเดินทางจะต้องนั่งรถไฟ KTM Komuter ซึ่งเป็นรถไฟชานเมืองและนั่งไปจนสุดสาย

ระหว่างทางขึ้นจะมีลิงมากมายให้การต้อนรับ
วิวเมื่อมองจากด้านบน
ด้านในถ้ำ

ขากลับก็เจอกับความโชคดีคือรถไฟเสียค่ะ🙄 และเขาก็ไม่สามารถตอบได้ว่าจะกลับมาใช้บริการได้อีกเมื่อไหร่ แบบนี้ก็ต้องพึ่งพา Grab อีกแล้วสินะ ระหว่างที่กำลังหาทำเลสำหรับเรียก Grab ก็มีลุงแท็กซี่เดินมาถามว่าจะไปไหน พอเห็นว่าเรากำลังกดเรียก Grab เขาก็บอกว่าลองกดดูสิว่าตรงนี้ไปถึงจุดหมายเท่าไหร่เขาคิดตามนั้นเลย ก็เพิ่งรู้วันนั้นเลยค่ะว่ามีวิธีแบบนี้ด้วย (ได้เหรอ)แต่ก็ไปค่ะ ก่อนขึ้นรถก็เปิด Map และพยายามจะให้เขารู้ว่าเราดูอยู่ขอเช็คนั่นนี่ก็ว่าไป หลังจากนั้นต่อด้วยการไปเดินห้างฯอีก 2 ที่และกลับโรงแรมเพื่อเตรียมตัวเดินทางไปสิงคโปร์ต่อในวันพรุ่งนี้

Day 3 Welcome to my Hollywood

การเดินทางจากมาเลเซียไปสิงคโปร์นั้นมีหลายวิธี เช่น รถไฟ รถบัส และบิน โดยเราเลือกการเดินทางโดยการบินค่ะเพราะถึงเร็วกว่าและปลอดภัยกว่าในการเดินทางคนเดียว และเมื่อมาถึงสิงคโปร์แล้วเราจะพลาด Universal Studios Singapore ได้อย่างไรกัน… โซนด้านหน้าจะเป็นลูกโลก Universal ซึ่งคนด้านนอกสามารถถ่ายรูปได้ ไม่จำเป็นต้องซื้อตั๋วเข้าไปค่ะ ถัดไปก็จะเป็นประตูทางเข้า-ออกและโซนขายตั๋ว สำหรับใครที่มี E-Ticket ก็ไม่ต้องต่อแถวซื้อตั๋วสามารถใช้ E-Ticket ผ่านประตูเข้าไปได้เลย (ในส่วนนี้เราจองจาก Klook มาเรียบร้อย)

ช่วงค่ำหลังพายุเข้า

ด้านในก็จะแบ่งเป็นทั้งหมด 7 โซนเมื่อเราเดินเข้ามาก็จะเจอกับโซน Hollywood และ New York ก่อนเป็นโซนแรก ส่วนมากจะเป็นร้านขายของที่ระลึกและอาหารค่ะ

Universal Studios Singapore Map
50th Anniversary Sesame Street
Sesame Street Spaghetti Space Chase
Ancient Egypt
Far Far Away

เนื่องจากว่าวันที่เรามาเป็นธรรมดาและตามรีวิวส่วนมากจะบอกว่าไม่จำเป็นที่จะต้องซื้อตั๋วแบบ Express Pass(Skip The Line) เพราะวันธรรดาคนไม่เยอะ แต่จากที่ได้พบเจอในวันนี้ ซื้อ Express Pass ดีกว่าค่ะเพราะวันธรรมดาคนก็เยอะเหมือนกันรอเครื่องเล่นอย่างต่ำประมาณ 20-30 นาทีเราคิดว่ามันนานไป โดยส่วนตัวชอบเครื่องเล่นตรงโซน Sci-Fi City มากที่สุดสนุกทุกอันโดยเฉพาะ Battlestar Galactica: CYLON และ Battlestar Galactica: HUMAN มันส์มาก 2 อันนี้แนะนำเลยค่ะ ส่วนโซนที่ใช้เวลาอยู่นานที่สุดจะเป็นโซน Hollywood และ New York ดูการแสดงต่าง ๆ ไม่แน่ใจว่าเป็น Broadway หรือเปล่าและ Elmo’s TV Time

My Childhood T^T

เดินและเล่นใน Universal จนพอใจแล้วก็ออกมาเดินเล่นที่ Sentosa Cove Village ต่อ

ยามพลบค่ำ

ส่วนตัวคิดว่าบนเกาะ Sentosa มีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจเยอะมากใครบอกว่ามาสิงคโปร์ไม่เห็นจะมีอะไรคือไม่ใช่เลย ยังเสียดายอยู่ที่วันนี้เที่ยวไม่ครบไว้โอกาสหน้าจะกลับมาใหม่แน่นอน

Bak Kut Teh ณ Song Fa Bak Kut Teh สาขา Chinatown ก่อนกลับโรงแรม อร่อยมากกกกกกก

Day 4 I Love You More Than 3000(THB)

จุดมุ่งหมายแรกของการมาที่นี่และทำให้เกิดทริปนี้มันเริ่มจากตรงนี้แหละค่ะ🌚 เริ่มวันด้วยการไปตามล่าหาข้าวมันไก่เจ้าดังที่แทบจะทุกรีวิวบอกว่าต้องไปลองนะ

นั่นก็คือ…

Tian Tian Hainanese Chicken Rice
มันขนาดนี้เลยนะเราก็ต้องลองแล้ว แต่ส่วนตัวคือก็ดีค่ะ

Link: พอได้กินข้าวมันไก่สิงคโปร์ร้าน Tian Tian ไป กลับมากินข้าวมันไก่ที่ไหนในเมืองไทย รู้สึกไม่อร่อยอีกเลยครับ https://pantip.com/topic/38690983

เดินชมเมือง
ถึงจุดหมาย

ก็อย่างที่บอกไปตั้งแต่ต้นว่าจุดมุ่งหมายของการมาที่นี่คือมาเข้าร่วมรับชมงานมหรสพรื่นเริง แต่มีอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้อยากมางานนี้มาก ๆ คือรายละเอียดงานบอกว่าจะดำเนินงานเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด เลยถือโอกาสนี้มาท้าทายสกิลการฟังของตัวเองด้วย(ดูมีเหตุผลนะ) ซึ่งตัวผู้แสดงเองสามารถพูดได้ 3 ภาษาคืออังกฤษ, จีนและเกาหลี (Talent มากเลยค่ะ)

So good feeling.

หลังจากจบงานก็นั่นแหละค่ะได้ฟังภาษาอังกฤษแบบเท่ ๆๆๆๆๆๆๆๆ สมใจแถมด้วยภาษาจีนและเกาหลีถือว่าคุ้มสุด ๆ เป็นการเจอกันครั้งที่ 4 ที่ดีงามมาก ๆ

Day 5 ไปดูน้ำตกที่อยู่ในห้างและอยู่ในสนามบินอีกที

วันสุดท้ายตามที่แพลนไว้คือจะไปวัดพระเขี้ยวแก้วและตรงไปสนามบินเลยค่ะ อยากจะไปลองดูว่าสนามบินที่ดีที่สุดในโลกที่เขาบอกว่าขาเข้าสะดวกสบายที่สุด ขาออกออกรวดเร็วที่สุดเป็นยังไง

Buddha Tooth Relic Temple and Museum หรือ วัดพระเขี้ยวแก้ว วัดที่ใช้ทุนสร้างประมาณ 99 ล้านดอลลาร์เป็นศิลปะสมัยราชวงศ์ถัง ชั้นบนสุดได้เก็บพระบรมสารีริกธาตุพระเขี้ยวแก้ว(พระทนต์) ของพระพุทธเจ้าไว้

Jewel Changi Airport

เมื่อถึง Changi Airport ก็ตรงไปที่ Jewel เป็นที่แรก เดินประมาณ 15 นาทีจาก Terminal 4 เมื่อใกล้ถึงก็จะได้ยินเสียงน้ำตกฟังแล้วก็หายเหนื่อยเลยค่ะ สวยงามสมงบประมาณและคำร่ำลือ หลังจากนี้คือเดินทัวร์สนามบิน ก็ไม่แปลกใจว่าทำไมเขาถึงเป็นอันดับ 1 มันแบบนี้นี่เอง

ระหว่างที่รอขึ้นเครื่องกลับไทย ก็มีคุณลุงคนหนึ่งถือ iPad เดินมาหาแล้วถามว่าช่วยตอบแบบสอบถามหน่อยได้ไหม ในใจตอนนั้นที่คิดคือเขาจะมาหลอกขายอะไรหรือเปล่าแต่ก็ตอบไปว่าได้ เพราะอยากรู้ว่าจะเป็นแบบสอบถามแนวไหนถ้าไม่โอเคค่อยแกล้งฟังไม่ออก 555 คำถามส่วนใหญ่ก็จะถามประมาณว่าเป็นคนที่ไหน มาทำอะไรที่นี่ มากี่วัน ไปที่ไหนมาบ้าง ใช้จ่ายไปเท่าไหร่ ประทับใจอะไรที่นี่ อยากให้ปรับปรุงอะไร จะกลับมาอีกไหมคำถามนี้พอเราบอกว่ามาอีกแน่นอนคุณลุงเขาดูดีใจมากบอกว่าถ้ากลับมาอีกก็ยินดีต้อนรับนะ หลังจากนั้นเขาก็ยื่นสิ่งนี้ให้ซึ่งไม่แน่ใจว่ามันคือเข็มกลัดหรือหมุดหรืออะไร บอกมาคนเดียวแต่ให้ 2 อันเลย นี่ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้รู้ว่าทำไมที่นี่ถึงดีได้ขนาดนี้ เขารับความคิดเห็นจากผู้ใช้ตลอดเช่นห้องน้ำก็จะมีให้กดคะแนน(ที่ไทยก็เหมือนจะมี) หรือการให้ลูกค้าทำแบบสอบถามเพื่อนำเอาความคิดเห็นเหล่านั้นไปปรับปรุงเพื่อให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป

สุดท้ายนี้อยากจะบอกว่าการเที่ยวคนเดียวเป็นอะไรที่สนุกเกินคาดมาก ๆ ค่ะ มันเป็นประสบการณ์ที่เงินสามารถซื้อได้ (ไม่ต้องมากก็ได้) แต่สิ่งที่เราจะต้องมีมากกว่านั้นคือใจที่กล้าพอสมควรเลย มาถึงจุดนี้ถือว่าเราก็โอเคนะเอาตัวรอดได้อยู่ 555 อยากให้ลองดูค่ะมันสนุกมากจริง ๆ ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ

賴冠霖

ความชอบจะพาเราไปในที่ๆเราไม่เคยไปและทำในสิ่งที่เราไม่เคยทำ

--

--