DAAT 4.0 จาก 3 มุมมอง

Vetsutee Laotrakul
2 3 Perspective
Published in
2 min readSep 2, 2017

ผมเอง และทีม 23 ได้เข้าร่วมงานสัมนาดิจิตอลครั้งใหญ่ประจำปี หรือ DAAT DAY ซึ่งมาในตีม Digital 4.0 เราสัมผัสกันได้เลยว่าวงการดิจิตอลในไทยนั้นเปลี่ยนแปลงเร็วมาก ลองฟังงไอเดียที่ได้จาก 3 มุมมองของทีม 23 ดูครับ

การมองให้ลึกไปถึง “จิตใจคน” ถามบ่อย ๆ ว่าทำไม ปรับใช้วิธีการคิดไอเดียให้ได้มากแล้วมาคัดกรอง ลงมือทำเพื่อเรียนรู้ให้เร็ว เป็น mindset ที่สำคัญของคนทำงานอย่างยุคใหม่นี้

ผมเองดูแลในฝั่ง Digital Product ผมคิดว่า Think— Act — Learn น่าจะเป็นคำสรุปจากงานทั้งหมด เพราะทุกคนต่างเห็นว่าคนยุคนี้เปลี่ยนพฤติกรรมกันเร็ว ทั้งยังมีทางเลือกในการเสพสื่อมากมาย

หลายเอเจนซีที่ทำงานกับสื่อยุคก่อน อาทิ ทีวี นิตยสาร ต้องเปลี่ยนกระบวนความคิดในการทำงาน ปัจจุบันการที่คนทำโฆษณาจะยัดไอเดียโปรดักตัวเองนั้นได้ผลไม่เท่ากับเมื่อก่อนอีกแล้ว ยุกดิจิตอลที่ทุกคนต่างมีทางเลือกกันมากขึ้นในการเสพ เราต้องมองให้ลึกขึ้น และเรียนรู้ให้เร็วขึ้น เพื่อให้ได้งานที่ออกมามีอิมแพคจริง ๆ

เราสามารถใช้หลักการและเครื่องมือ Innovation อาทิ Design Thinking มาช่วยได้ การมองให้ลึกไปถึง “คน” ถามบ่อย ๆ ว่าทำไม ปรับใช้วิธีการคิดไอเดียให้ได้มากแล้วมาคัดกรอง ลงมือทำเพื่อเรียนรู้ให้เร็ว เป็น mindset ที่สำคัญของคนทำงานอย่างเรา

ผมว่าคนยุคใหม่ต้องประสานหลายความรู้ และเครื่องมือที่ช่วยสร้างนวัตกรรมเข้าด้วยกัน เพื่อทำให้เราเรียนรู้ได้ลึกที่สุด คิดไอเดียให้มากที่สุด ทดสอบเพื่อเรียนรู้ให้เร็วที่สุด

และสุดท้ายทำให้กระบวนการนี้ซึมลึกเข้าไปถึงวัฒนธรรมองค์กร มันจะทำให้องค์กรของคุณรับความเปลี่ยนแปลงได้เร็ว คุณได้ทำสิ่งที่มีความหมายต่อธุรกิจ ที่สำคัญลดความเสี่ยงในการทำสิ่งที่สูญเปล่าด้วย

เทรนด์ Creative Technology จึงเป็นสิ่งสำคัญ เมื่อไอเดีย ผสานกับเทคโนโลยี คุณจะก้าวล้ำไปกว่าใคร ๆ ในยุคที่เทคโนโลยีเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ

มุมมองจากโอ๊ต Developer มือเก๋าของเรา เขาคิดว่าการจะเปลี่ยนแปลงองค์กรขนาดใหญ่ให้รับกับยุคดิจิตอล ส่วนใหญ่จะเกิดความไม่มั่นใจและเกรงว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะทำให้เกิดความยุ่งยากตามมา ผู้บริหารระดับต้น CEO จะเป็นสวนสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นให้คนในองค์กรลุกขึ้นรับมือการเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็ว

ส่วนตัวชอบแนวคิดของ NASKET ในการประยุกต์ใช้ O2O เพราะมันเป็นเรื่องเทคโนโลยีที่เราพอเข้าใจเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว ออกจะเป็นแนว Trends and Technology for Smart Living มันเป็นเรื่องใกล้ตัว CEO

NASKET มีคอนเซป ยกทุกห้างมาไว้ที่ห้อง

“สมาร์ทโฟนจะไม่ฉลาดไปกว่านี้ สิ่งรอบตัวเราจะฉลาดขึ้นมาแทน” คุณผรินทร์ NASKET

คำพูดนี้เป็นสิ่งที่ตรงใจ ซึ่งมันก็ฟังดูจริง ในปัจจุบันความเปลี่ยนแปลงทางวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมเกิดขึ้นรวดเร็ว เกิดเทคโนโลยีใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้นทุกวัน การทำ Creative Technology จึงเป็นสิ่งสำคัญ เมื่อไอเดีย ผสานกับเทคโนโลยี คุณจะก้าวล้ำไปกว่าใคร ๆ ในยุคที่เทคโนโลยีเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ

ดังนั้นวิสัยทัศน์ของหน่วยงาน รวมไปถึงตัวบุคลากร จะเป็นจุดเริ่มต้น ซึ่งมันจะสำเร็จหรือไม่ก็ต้องดูกันต่อไป

ไอเดียเราไม่ใช่จะอยู่ยงตลอดไป หากเจอใครหรือปัจจัยอะไรอื่นๆ ยิงคำถามมากมาย สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เรามีเหตุผลแกร่งเพียงพอที่จะปกป้องมันหรือเปล่า

สุดท้ายแป้ง ทีม Account ของเราได้สรุปแนวคิดการทำงานประกวดของคุณสหรัฐ MD จาก CJ WORX

แป้งคิดว่าบางอย่างสามารถเป็น way ในการทำงานของเราได้ ถึงแม้ว่าเขาจะพูดในมุมเชิงประกวด แต่สำหรับพี่เองคิดว่าบางข้อเราเอามาปรับใช้ได้เลยทีเดียว

Find the ideas, a lot of ideas

สะสมดูงานใหม่ๆ วันละ 3–4 อัน ปีนึงเราก็จะได้ 1,460 ideas สะสมไวักับตัวเอง
(มีหลายเวที่เราจะหาไอเดียนะ ส่วนตัวพี่เองพี่ชอบเสพสื่อcampaign ลองดูเป็นลิงค์นี้ก็ได้ http://www.digitalbuzzblog.com)

Sell client, it has to pass … period

อย่ามองว่าเราเอางานที่เราทำแค่เป็นการนำเสนอลูกค้า หรือแค่ๆขาย ลองถามตัวเองว่างานที่เราคิดได้รางวัลหรือเปล่า ถ้าไม่ผ่าน..ก็ขายใหม่

Recheck, is it big one?

ไอเดียที่เราคิดใหญ่พอมั้ย วัดยังไง วัดจากimpact ถ้างานนั้น impact มาก แสดงว่าใหญ่

Build it. Idea is fragile, protect the idea.

ไอเดียเราไม่ใช่จะอยู่ยงตลอดไป หากเจอใครหรือปัจจัยอะไรอื่นๆ ยิงคำถามมากมาย สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เรามีเหตุผลแกร่งเพียงพอที่จะปกป้องมันหรือเปล่า

Time is the enemy. Need a good plan.

อันนี้ตรงตัว ไม่ต้องอธิบายเยอะ ทุกงานต้องการการวางแผน ไม่วางแผนก็จะผังทีหลัง

Make a good presentation.

ไอเดียดี วางแผนดี ทำผลงานได้ดี แต่พรีเซ้นไม่ดีทุกอย่างจบ

หากเราวางแผนให้ดี ควบคุมตามแผน วิเคราะห์ผลงาน ทุกอย่างก็จะสำเร็จได้ไม่ยาก

--

--