แบ่งปันประสบการณ์ จากการเรียน UX ที่ NN/g Nielson Norman Group

Pom Sutham
2Bearstalk
Published in
5 min readAug 7, 2021

หลายคนอาจจะเคยได้เข้าไปอ่านบทความจาก Website ที่ nngroup.com อยู่บ้าง และถ้าใครเคยเข้าไปอ่านอยู่บ่อยๆ ก็จะพบว่า NN/g ไม่ได้ผลิตแค่บทความหรือสื่อ Video ออกมาเท่านั้น แต่มี Conference ที่สามารถเข้าไปร่วมอบรมหรือเรียน รวมถึงสามารถทำการทดสอบเพื่อที่จะได้ Cetificate รายละเอียดจะเป็นยังไง ผมจะเล่าให้อ่านกันครับ

ต้องเล่าเกริ่นนิดนึงว่า จึงๆ เมื่อตอนต้นปีเขียนรีวิวปี 2020 ไปแล้วว่าเพิ่งสอบเสร็จไป แล้วก็จะหาโอกาสมาเล่า ไม่ได้เล่าสักที จนมาเรียนรอบใหม่แล้ว ก็เลยเล่ามัดรวมเลยแล้วกัน

ผมอาจจะไม่ได้มีรูปประกอบทุกอันนะครับ เพราะไม่คิดว่าจะต้องเรียนแล้วเอามาทำภาพประกอบเพื่อเขียนบทความด้วย ไว้เรียนเพิ่มแล้วจะตั้งใจแคปมาฝากนะครับ

Why NN/g

ผมว่าตรงนี้เหตุผลแต่ละคนอาจจะต่างกัน บ้างก็อาจจะบอกว่าได้ Cert สำหรับผมเป็นเหตุผลส่วนนึง อีกส่วนนึงผมมองว่าอยากมีโอกาสได้เรียนรู้ Framework วิธีคิดจริงจัง และได้คุยกับคนต่างชาติ เพราะตอนทำงานกลุ่มก็จะได้คุยกับพวกเค้าด้วย ได้เห็นวิธีคิดด้วย และในห้องเรียนก็จะมี Case study ที่เห็นวิธี Apply จริงๆ และเจ้า Framework ที่เค้าให้ ก็เป็น Structure ที่ดีที่จะเอาไปต่อยอด

NN/g Nielson Norman Group

อย่างที่กล่าวไปตอนต้นครับว่าเป็น Website ที่รวมทั้ง article, video ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับ UX ตั้งแต่ Basic ไปยัน Advance เลย รวมถึงมีบริการ Consulting และออกไปให้ความรู้ตามองค์กรด้วย

ทำให้เว็บไซต์นี้เป็นที่ที่ UX หลายคนแนะนำให้ผู้เริ่มต้นมาที่เว็บนี้เพื่อศึกษาเลย ผมคิดทึกทักเอาเองแล้วกันว่า ใครไม่รู้อะไร มาเว็บนี้ผมเชื่อว่าเก่งขึ้นแน่นอน แต่คนเราเก่งขึ้นก็ต้องอาศัยหลายๆ อย่างเนอะ; อ่าน ดู ฟัง ถาม เขียน ฝึกฝนลงมือทำ และรวมถึงการแบ่งปันประสบการณ์ ด้วย

ชื่อของ NN ก็มาจากสองคนเลยครับ Nielson และ Norman ส่วนข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับ NN/g ขออนุญาตพาไปอ่านที่เว็บเค้าดีกว่านะครับ > nngroup.com

คนนี้หลายคนคงคุ้นมากกว่า Don Norman หรือ Donald Norman บางคนเรียกว่าบิดาของ UX เลยทีเดียว
Jacob Nielson คือผู้เขียน 10 Usability Heuristic

Credit photos: from nngroup.com

UX Conference

ต้องบอกว่าแต่ก่อน UX Conference ของ NN/g เองจัดขึ้นที่ต่างประเทศครับ ใครอยากจะไปอบรมต้องบินที่ต่างๆ ที่เค้าจัดครับ ซึ่งเอาจริงผมจำไม่ได้แล้วว่าเค้าจัดที่ไหน เพราะตอนนั้นไม่ได้คิดจะไปเลยเพราะค่าใช้จ่ายสูงมาก ทั้งค่าเรียน การเดินทาง และที่อยู่อีกด้วย คงไม่ได้ไปแน่นอน ถ้าที่เคยฟังจากน้องๆ พี่ๆ ที่อยู่ในสายงาน Product ก็จะมีไปกันมา US, Singapore กันมา

แล้วเกิดอะไรขึ้นนะถึงได้เรียน? ก็คือ NN/g ได้ปรับการเรียนเป็นแบบ Virtual ขึ้นหลังจากสถานการณ์ COVID-19 เลยก็ว่าได้ เพราะปีที่แล้วผมก็แอบเล็งๆ ว่าจะบินไปก่อนช่วง COVID-19 จะหนักๆ อยากหาเรื่องเที่ยวด้วย แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ไป แล้วก็มาถูกจัดเป็น Virtual ก็เลยลองดู

Register

ก่อนอื่นเลยต้องสมัครสมาชิกเว็บก่อนนะครับ แค่สมัครยังไม่ได้เสียตังค์อะไรครับ จะไปเสียตอนเลือกเรียนกับ Credit ที่ไว้สอบครับ หน้านี้เดี๋ยวผมจะแคปไว้ให้ดูตอนท้ายนะครับ คือไม่ได้เก็บหน้าตอน Empty stage ไว้ว่ามันเป็นยังไงเหมือนกัน

Pricing

ภาพด้านล่างนี้เป็นตารางราคาครับ โดยราคาจะแปรผันไปสองตัวแปรหลักครับ

  • วันที่เราจ่าย ยิ่งซื้อไว้ล่วงหน้า ราคาจะถูกกว่าตอนใกล้ๆ
  • จำนวนวิชาที่เราซื้อ ยิ่งเยอะก็ถูกลงครับ

ผมเข้าใจว่าถ้าเป็นตอนงาน In-person น่าจะถูกแพงลดหลั่นไปตามสถานที่ด้วยนะครับ คิดว่านะไม่แน่ใจ ส่วนค่าสอบ จะเรียกว่า Credit ครับ ราคา $80/Credit ครับ โดยที่ 1 Credit จะสามารถใช้สอบแต่ละวิชาได้เพียง 3 ครั้งเท่านั้น ถ้าคุณสอบไม่ผ่านในครั้งที่ 3 คุณซื้อ Credit มาสอบไม่ได้ครับ คุณต้องกลับไปเรียนใหม่เลย แล้วซื้อ Credit มาสอบใหม่ครับ (ผมไม่ผ่านมาแล้ววิชานึง เดี๋ยวไปเล่าตอนท้ายครับ)

ที่มี 7 Courses เพราะงานมี 7 วันครับ ใครไหวไปก่อนเลย!!

Courses

มาที่วิชาหรือหัวข้อต่างๆ ของ Conference กันบ้าง โดยประเภทของหัวข้อแบ่งออกเป็น 3 ประเภทครับ

  • Interaction
  • Research
  • Management

ทั้งสามด้านนี้ก็ดูเหมือนจะเป็นตัวแทนสายงานหลักของ UX เลยก็ว่าได้ครับ และในแต่ละประเภทก็จะมีหัวข้อต่างๆ ที่น่าสนใจมาก ซึ่ง ความยากมันอยู่ตรงนี้ครับ ก็คือเรื่องของวันอบรมหรือวันเข้าเรียน ถามว่ายากยังไง เพราะ ณ วันและเวลานึง จะมีหลายหัวข้อหรือวิชาเกิดขึ้นพร้อมกันครับ หมายความว่า คุณต้องเลือกเรียนถ้ามีวิชาหรือหัวข้อที่น่าสนใจชนกัน

เผื่อนึกไม่ออก นี่คือวันนึงจะมีหลายวิชาครับ ต้องเลือกๆ

อีกเรื่องนึงที่สำคัญครับ รอบของ Conference บางทีก็จัดแบบ Half-day/Course หรือหมายความว่า 1 วิชาเรียนแค่ 3.5 ชั่วโมงครับ อย่างภาพที่ผมแคปมาด้านบน เป็นแบบ Full-day ครับ (ถ้าจัดงานแบบปกติหรือ In-person ก็จะเป็นเต็มวันครับตามปกติ)

ซึ่งวิชาแต่ละกันก็เน้นแบบจัดหนักมาก ลึกมาก ตั้งแต่อธิบายพื้นฐานว่าคืออะไร จนไปถึงวิธีการเอาไป implement ใช้กับทีมหรือองค์กรเลย อะไรที่เราเคยคิดว่ารู้ ผมเชื่อได้ว่ามันเปลี่ยนแปลงเราไปพอสมควร ทั้งนี้ผมขอ disclaimer นิดนึงก่อนว่า ขึ้นอยู่กับว่าคุณ expect หรือคาดหวังขนาดไหนด้วยนะครับ ส่วนผมเองแค่ได้เรียนรู้อะไรก็ถือว่าดีมากๆ แล้วครับ :)

ส่วนอยากรู้ว่าเค้าจะสอนอะไรบ้าง ก็เข้าไปอ่านรายละเอียดแต่ละวิชาได้ครับ เป็น List หัวข้อคร่าวๆ ว่าเค้าจะสอนอะไรบ้างครับ

อันนี้เป็นตัวอย่างจากวิชา Analytics and User Experience ครับ

In Classroom

ขออธิบายแบบ Half-day แล้วกันนะครับ เนื่องจากผมไม่เคยเรียนเต็มวันเลย ไม่รู้ว่าเหมือนหรือต่างกันอย่างไรบ้าง แต่คิดว่าไม่น่าหนีกันมากครับ

เริ่มแรกก่อนอื่นเลย เราต้องไปในหน้า Profile เราก่อนครับ ซึ่งเจ้า Slide ที่เอาไว้เรียนเนี่ยมันจะโผล่มาตอนวันเรียนเท่านั้นครับ ไม่สามารถได้ก่อน รวมถึงเจ้า Link เข้า Zoom ก็โผล่มาวันเรียนครับ

ที่โล่ง คือปุ่ม Zoom หายไปแล้ว

ลืมบอกไปว่า เค้าจะให้ Slack group มาด้วยนะครับ อันนี้เข้าไปก่อนได้ และจริงๆ เค้าจะมี Event ก่อนวันเรียนด้วย อารมณ์แบบ วันเปิดงาน UX Conference ของรอบนั้นๆ ครับ เค้าจะแยก Channel ให้ และได้ Invite เข้าเฉพาะวิชาที่เราเลือกเรียน

อันนี้แคปมาจาก Group วิชา CX ครับ

และถ้าเมื่อถึงเวลาเรียนแล้วคุณเข้าสาย มันก็มีเมลมาเตือนด้วยนะ

แคปจากเมลเตือนเข้าเรียน

ซึ่งตอนเปิดเรียน Instructor ก็จะแนะนำตัวเองพร้อมกับบอกว่า Ground roles คร่าวๆ มีอะไรบ้าง รวมถึงให้ Download ไฟล์ต่างๆ ถ้ายังไม่ได้ Download พวก Slide หรือไฟล์อื่นๆ มาด้วย (เค้ามี Remark ไว้ชัดเจนอยู่ว่าห้ามนำไปเผยแพร่ด้วยนะบางอย่างบางหน้าครับ เข้าใจว่าคงไม่อยากให้ไปเล่าแบบผิดๆ ไปเรียนกับเค้าดีกว่าจ้า ไรงี้)

โดยการเรียนการสอนก็จะมีทั้ง Lecture สลับกับ Workshop ไปตลอดครับ รวมถึงการตอบ Quiz บน Zoom ระหว่างทาง และที่ผมรู้สึกว่าสิ่งนี้มันต่างกับบ้านเราประมาณนึงเลยก็คือ การที่คนเรียนพิมพ์ความคิดเห็นลง Chat เยอะมากและต่อเนื่องด้วย เยอะกว่าคนไทยที่ผมสอนมากๆ มากแบบชัดเจน และตัว Instructor เองก็ตอบเกือบจะทุกอันเลยครับ อันนี้รู้สึกดี

ตอน Workshop

เครื่องมือที่ใช้ Workshop ก็แตกต่างไปตามวิชาเลยครับ อย่างปีที่แล้วผมเรียนเรื่อง How to Interpret UX Numbers: Statistics for UX ก็ใช้ทั้ง Google Sheet และ Tools ข้างนอกด้วยครับ หรือเข้าไปตอบ Google Slide ก็มี อย่างภาพประกอบก็ใช้ Miro ครับ

ทีนี้จากประสบการณ์ผม คนเรียนเยอะเนี่ยมีความวุ่นวายมากเลยนะ คลาสนึงมีตั้งแต่ 40 จนถึง 80 กว่าคนเลยครับ เพราะฉะนั้น การทำ Workshop ตอนจับกลุ่มเข้า Breakout room จะมีแค่ 3–4 คนเท่านั้น การเตรียมไฟล์จึงต้องแบ่งเป็นตามกลุ่มไปด้วยครับ ส่วน Instructor เองก็จะแวะไปตามทุกกลุ่มเท่าที่ทำได้เวลามีเลย ให้คอมเมนท์พิมพ์ข้างๆ พื้นที่งานเลย

ผู้หญิงคนล่างมีแมวข้างตัวด้วยนะ!

บางวิชาเราอาจจะเจอโชคร้ายไปเจอกับกลุ่มที่นิ่งเงียบชวนคุยกันไม่เก่ง หรือบางทีก็จะเจอกลุ่มที่ไม่เปิดกล้องเลยสักคน อย่างเซ็งเลยแหละบอกเลย ฮ่าๆ

ใครมีความกังวลเรื่องภาษา ผมว่าถ้าใครไม่ได้ฟังภาษาอังกฤษเป็นประจำน่าจะยากอยู่ โดยเฉพาะถ้าไม่ได้ทำงาน UX มาก่อนหรือยังไม่ค่อยมีประสบการณ์มากนัก ศัพท์บางอย่างอาจจะงงได้ แต่ถ้าพอไปเที่ยวสื่อสารได้ ทำงานกับฝรั่งแล้วชั่วโมงทำงานนึงถามสัก 2–3 ครั้งก็น่าจะเรียนได้แล้วครับ (ผมพอถูไถไม่เก่งมากนะครับ ไม่ได้ถ่อมตัว) Instructor เองจากส่วนใหญ่ที่เรียนฟังไม่ยากครับ พูดอังกฤษชัดมาก #เดี๋ยวนะ

พอเรียนจบเค้าก็จะมีเมลส่งมาให้ประเมินว่าวิชานั้นเป็นยังไงบ้าง ได้อะไรบ้าง ชอบอะไรบ้างครับ และก็ไปสอบกัน!!

Exams and Results

มาถึงเรื่องโหดแล้วครับ ต้องบอกก่อนว่าทำไมโหดสำหรับผม มันมีหลายประการมากครับ

  • ภาษาอังกฤษผมอย่างที่บอก มันพอถูไถแหละ แต่…
  • การอ่านโจทย์แล้วต้องวิเคราะห์เนี่ยอยากเอาเรื่องอยู่
  • ผมเลือกเรียนแต่วิชาที่มันยากๆ หรือไม่เคยทำงานไปเลยครับ

เพราะฉะนั้นการสอบมันก็จะหินพอสมควร สารภาพตามตรงว่าวิธีการตอบของผม

  • อ่านแล้วตอบเลย จำได้ เข้าใจ ประสบการณ์
  • ไม่แน่ใจ ลองตอบไปก่อน ถ้ามันผิดแล้วคะแนนไม่ผ่าน…
  • ก็จะมาอ่าน Slide ทั้งก่อนสอบและระหว่างสอบเลยครับ

ถ้าสงสัยว่า อ่าน Slide ระหว่างสอบได้ใช่ไหม คำตอบคือได้แน่นอนครับ เพราะการสอบพลาดทุกครั้ง ทาง NN/g เค้าส่งคำแนะนำมาเลยครับตามนี้

แนะนำถึงขั้น เปิด material แล้ว Cmd+F เลยจ้า

แล้วก็เมลที่เราสอบพลาด เค้าจะไม่มีบอกนะว่าผิดข้อไหน ไม่งั้นเราก็สอบผ่านไปง่ายๆ เลย และคงไม่น่าศรัทธาแน่นอน โดยปีก่อนเค้าจะยังไม่บอกครับว่าเราพลาดเนื้อหาอะไรบ้างถึงทำให้สอบไม่ผ่าน ปีนี้ล่าสุดเค้าบอกมาเลยครับว่า “คุณพลาดเนื้อหาอะไรบ้าง กลับไปอ่านทบทวนด้วยน๊า”

บอกเลยว่า “ไม่ถึง 80%” ไม่ผ่านนะ

และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ครับ คือสอบไม่ผ่านทั้งสามรอบของ Credit วิชา Analytics and User Experience ครับ จะบอกว่าวิชานี้ผมชอบและรักมากเลยนะ แต่สอบไม่ผ่านอะ เสียใจเล็กน้อย T T

จะเห็นเลยว่า No Credit

โดยที่สอบเสร็จผลลัพธ์จะออกมาเลยนะครับ เป็น Muiltiple Choice และก็แบ่งออกเป็นสองส่วนหลักๆ คือความรู้ที่เรียน กับสถานการณ์สมมติว่าจะแก้ปัญหานั้นยังไงครับ อย่างที่เห็นตามภาพครับ บางตัวก็สอบหลายครั้งเลย บางตัวก็ทีเดียวผ่าน (เอาจริงมันสะท้อนตัวเองเล็กๆ เหมือนกันว่าเราถนัดด้านไหนนะ) จะเห็นว่าผมยังไม่ได้เรียน Interaction เลยเพราะยังไม่ได้สนใจในช่วงนี้นะครับ อนาคตไม่แน่

อีกส่วนนึงที่อยากให้ดูก็คือ Certification Progress ครับ อย่างที่บอกว่ามี 3 สาย คือ Interaction, Research และ Management โดยที่ถ้าเราเรียนครบ 5 ตัวและสอบผ่าน จะได้ Badge เป็น UX Certfied ก่อนครับ และถ้าครบ5 ตัวของแต่ละด้านอย่างภาพล่างนี้ผมก็เต็มหลอดของ Management ครบ 5 ตัว และถ้าใครเรียนและสอบผ่านครบ 15 วิชา จะใช้ Badge เป็น UX Master ครับ

อันนี้เป็น Progress แต่ละด้าน

เมื่อสอบผ่านไม่ว่ากรณีแบบไหน Certified หรือไปถึง Master และจะเต็มหลอดแต่ละด้าน ก็จะมีชื่อปรากฏบนเว็บไซต์ของ nnggroup.com ครับ

หน้ารายชื่อคนสอบผ่านครับ

และนี่ก็คือ Certificate ที่ปัจจุบันจะเติมวิชาอัพเดตทันทีที่เราสอบผ่านเสร็จล่าสุดเลย

เรียนไป 11 ตัว ตกไปตัวนึง T T

คำแนะนำถ้าอยากเรียน NN/g นะครับ

  1. รู้ตัวเองก่อนว่าขาดความรู้เรื่องอะไร อยากเติมเรื่องไหน อาจจะลอง Assessment ตัวเองดูก่อนก็ได้ครับ แล้ว Priority ดูว่าวิชาไหนด่วนๆ กับตัวเอง งานตัวเองตอนนี้
  2. ในกรณีที่ไม่เก่งภาษาอังกฤษมาก ฝึกฟัง Clip เรื่อง UX โดยเฉพาะจาก Instructor ใน YouTube ที่เป็น Channel ของ NN/g เลยก็ได้ครับ ให้ชินกับสำเนียงและศัพท์ต่างๆ ไปด้วย (ถ้าใครทำงานกับชาวต่างชาติอยู่แล้ว หรือฟัง Youtube หรือดูหนังไม่ Subthai ได้ ก็สบายแล้วครับ)
  3. ถ้าอ่านบทความของ NN/g ก่อนเรียนวิชานั้นๆ ก็ดีนะครับ
  4. เก็บเงินครับ วิชาละประมาณ 20,000 กว่าบาท
  5. ไม่จำเป็นต้องเรียน 5 ตัวนะครับ เรียนทีละตัวไปก็ได้ ถ้าอยากได้ Cert ก็สะสมไป

ถ้าถามว่าแนะนำให้เรียนไหม ก็แล้วแต่คนครับว่าคาดหวังอะไร อย่างที่บอกไว้ตอนต้น ผมไม่ได้คาดหวังแบบมากๆ แค่ขอให้ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ และเอาไปหยิบใช้กับงานที่ทำอยู่ก็ดีใจแล้ว ราคามันก็สูงมากจริงๆ ครับ แต่ผมก็เอางบส่วนตัวจากการสอนหนังสือที่ผ่านมาเอามาเรียนต่ออีกทีเนี่ยแหละครับ :)

ปิดท้ายขอวาง Clip นึงจากที่เรียนกับคนนี้ จะบอกว่าชอบคนนี้มาก Sarah เพราะพูดแล้วเราเข้าใจง่าย สอนสนุกและอารมณ์ตลอดเวลาเลย เรียนแล้วไม่เครียด

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ครับ :) Happy Learning ครับ

--

--

Pom Sutham
2Bearstalk

CEO & Co-Founder, KO-EXPERIENCE, UX/UI Consultancy. Love to listen people, Excited in Tech, Build the value for business. Contact me www.linkedin.com/in/suthamt