Shopee VS Page365
ในยุคที่ร้านออนไลน์เกิดใหม่วันละหลายพันร้านแบบนี้ การขยายร้าน เปิดขายหลายที่เป็นอีกวิธีที่ช่วยเพิ่มยอดขาย
แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกแพลตฟอร์มจะเหมาะกับร้านเราเสมอไป Shopee และ Page365 คือ 2 ตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่อันไหนที่จะเหมาะกับเรานั่นคือสิ่งที่ผู้ขายต้องคิดก่อนตัดสินใจ
Shopee คือ แพลตฟอร์มที่ผู้ขายกำลังให้ความสนใจ รูปแบบการขายคล้าย Lazada คือ นำสินค้าจากทุกร้านมาวางขายด้วยกัน ผู้ซื้อสามารถค้นหาสินค้าได้จากประเภทสินค้า เปิดให้ใช้งานทั้ง Mobile App และบนเว็บไซต์
ข้อดีของ Shopee
- ลงของแล้วขายได้เลย ไม่ต้องตกแต่งร้านใหม่เหมือน Facebook Page
- หากขายอยู่บน IG อยู่แล้ว เชื่อมต่อกับ Shopee ดึงสินค้ามาขายได้เลย
- ไม่ต้องทำการตลาดเอง เพราะ Shopee ชอบแจกโปรโมชั่น ส่วนลด ค่าส่งฟรี เพื่อดึงดูดผู้ซื้ออยู่เสมอ
- ผู้ซื้อ-ผู้ขายคุยกันผ่านแชทของ Shopee ได้เลย
ข้อเสียของ Shopee
- เงินต้องผ่านระบบก่อน เมื่อลูกค้าได้รับสินค้าและกดยืนยันการรับสินค้า เงินถึงจะเข้าในระบบบัญชีของผู้ขาย
- เชื่อมต่อกับ Facebook Page ไม่ได้ ต้องคอยรอรับออเดอร์หลายที่
- หากคุณขายสินค้าที่คู่แข่งเยอะ เช่น เสื้อผ้า เครื่องสำอาง ผู้ซื้อจะเจอสินค้าคุณได้ยากขึ้น
Page365 คือ ระบบจัดการหลังร้านสำหรับผู้ที่เปิดร้านบน Facebook, Line และ IG ที่เพิ่มช่องทางการขายด้วยการดึงสินค้าจาก Social ต่างๆไปวางขายบนเว็บไซต์ส่วนตัวของผู้ขายเอง สามารถใช้งานได้ทั้งบนมือถือเเละเว็บไซต์ได้เช่นกัน
ข้อดีของ Page365
- เว็บไซต์ส่วนตัว เพิ่มความน่าเชื่อถือได้หลายเท่า
- ผู้ขายได้รับเงินจากผู้ซื้อโดยตรง ไม่มีการพักเงินผ่านระบบ
- เชื่อมต่อสินค้าได้หลายทางทั้ง Facebook และ IG
- ตกแต่งร้านนิดหน่อย ก็พร้อมเปิดขาย ลูกค้ากดสั่งสินค้าใส่ตะกร้าได้เลย
- ผู้ซื้อ-ผู้ขายคุยกันผ่านแชทของ Page365 ได้เลย
ข้อเสียของ Page365
- ผู้ขายต้องทำการตลาดเอง โปรโมชั่น ส่วนลดต่างๆ คือความรับผิดชอบของผู้ขาย เพื่อแลกกับการมีเว็บไซต์ส่วนตัว
- หากอยากได้ชื่อโดเมนที่ไม่มีคำว่า Page365 ต้องเสียเงินเพื่อซื้อแพ็กเกจ
สรุปแล้วถ้าคุณคือร้านเล็ก ขายน้อย ขี้เกียจทำการตลาด แนะนำ Shopee เพราะลงขายง่าย มีโปรเรียกลูกค้าให้พร้อม แต่รอรับเงินนานนิดนึง ส่วนการขายบน Page365 อาจท้าทายในช่วงเริ่มต้น แต่ในที่สุดแล้วจะได้ร้านที่น่าเชื่อถือและเป็นของเราเอง 100%