[เที่ยว] สะพายกล้องฟิล์มเที่ยวลาวเหนือ ล่องเรือช้าสองวัน ห้วยทราย หลวงพระบาง #1
วางแผนทริป
ทริปล่องเรือช้าไปหลวงพระบางเป็นทริปที่คิดไว้เมื่อสมัยเรียน ด้วยความที่ว่าเคยอ่านรีวิวที่บรรยายถึงบรรยากาศความชิลล์ ของการเดินทางช้าๆทางเรือ และวิถีชีวิตริมโขงที่เราไม่เคยเห็น เลยเกิดความอยากไปสัมผัสกับมันดูสักครั้ง
ก่อนหน้านี้ผมเคยไปหลวงพระบางมาแล้วทางรถบัส เส้นทาง หนองคาย เวียงจันทร์ หลวงพระบาง และกลับทางเดิม การเดินทางด้วยรถบัสในลาวบอกได้เลยว่าสุดยอดจริงๆ ครั้งนี้เลยอยากเปลี่ยนบรรยากาศการเดินทางบ้าง
การเดินทางคร่าวๆของเราในทริปนี้จะเป็น
- เครื่องบิน ไปเชียงราย
- เรือช้า ไปหลวงพระบาง
- รถบัสนอน ไปเวียงจันทร์
- เครื่องบินจาก อุดรกลับกทม.
(ใช้เครื่องบินเพราะมนุษย์เงินเดือนในทริปอาจจะโดนไล่ออกได้ถ้าลาเยอะกว่านี้ >_< )
ทริปนี้เราใช้เวลาทั้งหมด 6 วัน 6คืน จาก 29เมษา — 5พฤษภา
โดยแพลนคร่าวๆที่วางไว้เป็นแบบนี้ครับ
- 29apr
- บินจากดอนเมืองไปลงเชียงราย(FD3205) และรีบไปหาที่นอนที่เชียงของ เตรียมข้ามฝั่งรุ่งเช้า - 30apr
- ล่องเรือจากห้วยทรายไปปากแบง(ครึ่งทาง) นอนปากแบง - 1may
- ล่องเรือจากจากปากแบงไปหลวงพระบาง นอนหลวงพระบาง - 2may
- เที่ยวในหลวงพระบาง - 3may
- ซื้อ oneday trip ไปน้ำตกแล้วออกเดินทางโดยรถบัสรอบดึกไปเช้าที่เวียงจันทร์ - 4may
- เดินเที่ยวเวียงจันทร์ นอนเวียงจันทร์ - 5may
- เช้าเที่ยวเวียงจันทร์ สายข้ามมาหนองคาย ต่อไปอุดร บินกลับกทม.(DD9217)
เป็นแพลนที่ไม่มีรายละเอียดอะไรมากมาย ขอแค่ที่นอนกะการเดินทางเท่านั้น เพราะเดี๋ยวเราไปลุยเอาข้างหน้า ฮ่าๆ
กล้อง
ทริปนี้เกิดอาการอยากลองกล้องฟิล์มตัวใหม่เลยสะพายเจ้า Olympus OMG สุดรักไปด้วย ส่วนเพื่อนร่วมทริปมีเจ้า Olympus Trip ฮาล์ฟเฟรมสุดแนวไปอีกตัว
เราพกฟิล์มกันไปทั้งหมด เจ็ดม้วน ตอนแรกกังวลเรื่องการผ่านเครื่องสแกนที่สนามบิน แต่อ่านในเน็ตเค้าบอกว่าไม่ฟอกซ์แน่ๆ เอ้า!เชื่อก็เชื่อวะ แต่แอบลุ้นเล็กๆตอนส่งล้าง ถ้าออกมาขาวทั้งม้วนนี่ร้องไห้เลยนะ ฮ่าๆ
[caption id=”attachment_121" align=”alignnone” width=”750"]
olympus OMG เที่ยวหลวงพระบาง[/caption]
[caption id=”attachment_120" align=”aligncenter” width=”720"]
olympus pen-ee เที่ยวหลวงพระบาง[/caption]
ส่วนกล้องรองถ่ายรัวๆผมใช้ Nokia Lumia 920 กดนะครับ
ออกเดินทาง
วันที่ 29 เมษา
เรานัดกันที่สนามบินดอนเมืองตอน 18:00 เพื่อขึ้นเครื่องตอน 19:40 ทริปนี้มีผู้ร่วมทริปทั้งหมดสี่คน เราบินโดยสายการบิน Airasia ราคาตั๋วตอนนั้นราคา 500+ กว่าบาท(จองก่อนเกือบเดือน)
เมื่อทุกคนมาครบก็เข้าเช็คอินกันเลยยย!!
เครื่องแตะรันเวย์สนามบินนานาชาติแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงรายช่วงสามทุ่มกว่าๆ ถือว่าเป๊ะตามตารางเวลาพอดี
แผนต่อไปคือหาแท็กซี่เพื่อไป อ.เชียงของ ทันทีเลย เพราะถ้าคืนนี้เรานอนเชียงราย พรุ่งนี้เช้าเราจะต้องรีบหารถไปแต่เช้ารีบข้ามฝั่งไปห้วยทรายและรีบไปขึ้นเรือที่ท่า ซึ่งเป็นแผนที่ไม่น่าเสี่ยงเลย เราต้องเพลย์เซฟไว้ก่อน กันทริปล่ม ฮ่าๆ
สรุปได้แท็กซี่ที่เพื่อนแนะนำ ราคา 1500บาท ไปเชียงของโดยใช้เวลา 2.5ชั่วโมง เป็นราคาที่รับได้เมื่อหารกัน 4 คนแล้ว
ก่อนออกจากเมือง เราแวะกินข้าว ซื้อของ กดตังค์ พี่คนขับใจดีและสุภาพมากๆ
เราถึงตัวเมืองเชียงของในเวลาประมาณ 23:00 เข้าพักที่ “บ้านฝ้ายเกสต์เฮ้าส์” โลเคชั่นริมโขงพอดี สามารถเดินลงหลังบ้านไปเจอแม่น้ำโขงได้เลย ผมจองที่พักคืนนี้ด้วย agoda ในราคาตกคนละ 150 บาท
[caption id=”attachment_123" align=”aligncenter” width=”300"]
บ้านฝ้ายเกสต์เฮาส์[/caption]
ห้วยทราย
วันที่ 30 เมษา
ผมตื่นแต่เช้าเพื่อจะลงไปดูพระอาทิตย์ขึ้นริมฝั่งโขง เมื่อเดินลงไปหลังบ้าน สักร้อยเมตรก็ถึงถนนเลียบโขง มีหมอกลงจางๆ พระอาทิตย์ขึ้นไปแล้ว หมอกบังพระอาทิตย์หมดเลย บรรยากาศเย็นสบาย
[caption id=”attachment_121" align=”aligncenter” width=”225"]
olympus OMG เที่ยวหลวงพระบาง[/caption]
สักแปดโมงเพื่อนๆก็เริ่มตื่นกัน เลยคุยกันว่าจะข้ามไปห้วยทรายยังไง ถามเจ้าของเกสต์เฮ้าส์แล้วเค้าแนะนำให้ซื้อเป็นแพคเกจเรือช้าต่อคนไปเลย สะดวกและง่ายดี มีรถมารับหน้าเกสต์เฮ้าส์ ไปที่ด่านสะพานมิตรภาพ และรับไปท่าเรือ ช้า ส่งลงเรือเรียบร้อย ราคาคนละ 1,300 บาท รวมตั๋วเรือ(900บาท) ราคาที่สืบๆมาถ้าจ่ายแยกและเดินหาเองจะประมาณ 1,100 แต่เพื่อความชัวร์เลยยอมจ่ายเพิ่ม เพราะกลัวเหมารถแล้วโดนฟัน(ในความเป็นจริงไม่มีเลย คนลาวดีมาก เรทเดียวไม่โกง)
ทานข้าวเสร็จรถก็มารับ วนรับอีกสองสามเจ้าก็ออกเดินทางสู่สะพานมิตรภาพกันเลย
[caption id=”attachment_124" align=”alignnone” width=”500"]
โหนรถสองแถวไปเลย[/caption]
[caption id=”attachment_126" align=”alignnone” width=”500"]
รถบัส ด่านสะพานมิตรภาพ[/caption]
ปั๊มออกฝั่งไทยแล้วก็จะมีรถบัสมารับแบบนี้ ตั๋วราคายี่สิบบาท แต่รวมมากะแพคเกจแล้ว
ลงรถบัสปุ๊บหันหน้ากลับมาจากมุมที่ถ่ายนี่ก็จะเจอกับที่แลกเงินครับ เป็นที่แลกเงินแบบธนาคารมาเปิด มีบอร์ดราคาเรียบร้อย เรทราคาตอนนั้นผมได้มา 249kip : 1Baht เลยจัดแจงแลกไปพันนึง แต่จริงแล้วเมืองท่องเที่ยวของลาวเค้ารับเงินไทยกับ usd กันอยู่แล้วนะครับ แต่อาจจะต้องเจอกับเรทของแม่ค้าเอง ซึ่งก็จะประมาณ 245:1 หรือไม่ก็ 250:1 กลมๆไป ก็คิดง่ายดี หารสี่แล้วตัดศูนย์สองตัว(ยากกว่าเดิม)
และเมื่อผ่านด่านมาเรียบร้อยแล้วก็จะมีรถกะป้อยักษ์(มันใหญ่กว่าบ้านเรา) มาจอดรอรับสำหรับผู้ที่ซื้อแพคเกจไว้โดยเฉพาะ ถ้าไม่ได้ซื้อก็ต้องเดินออกไปหาแถวนั้นแหล่ะ หาไม่ยาก
[caption id=”attachment_127" align=”alignnone” width=”500"]
รถกระป๊อ ด่านสะพายมิตรภาพ ไทย ลาว[/caption]
คนขับแจ้งว่าจะพาเราไปที่ออฟฟิตบริษัททัวร์ก่อน เพื่อรับอาหารเที่ยงในแพคเกจ และรอเวลาขึ้นเรือ นั่งรถมาสักห้านาทีก็ถึงออฟฟิตครับ มีฝรั่งอีกกรุ๊ปรอจะไปขึ้นเรือเหมือนกัน พนักงานออกมากล่าวต้อนรับพวกเราทุกคน แล้วก็ขอเก็บพาสสปอร์ตไว้ ทุกคนก็งงๆ ฝรั่งก็งง สงสัยจะเป็นกฎหมายเกี่ยวกับทัวร์อะไรสักอย่าง แต่ก็คืนตอนก่อนขึ้นเรือนะครับ ไม่มีปัญหาอะไร
จากนั้นก็ รับอาหารเที่ยง สำหรับทานบนเรือ มันคือ “บาร์เก็ต” หรือแซนวิสลาว Fast-food แบบฉบับชาวลาว เป็นขนมปังแข็งๆ แต่ไม่แข็งเท่าขนมปังฝรั่งเศส ใส่ใส้ ไก่ ผัก ซอส แล้วแต่จะสั่ง
[caption id=”attachment_128" align=”alignnone” width=”500"]
บาร์เก็ต ลาว[/caption]
เมื่อได้เวลาแล้วเราก็ขึ้นรถคันเดิม มาที่ท่าเรือ รับพาสสปอร์ตคืนเรียบร้อย ก็เดินลงไปท่าเรือกันเลย
[caption id=”attachment_129" align=”aligncenter” width=”500"]
เรือช้า ห้วยทราย หลวงพระบาง[/caption]
เรือที่เราจะนั่งกันตลอดสองวันถัดไปนี้คล้ายๆเรือด่วนเจ้าพระยา เป็นไม้ทั้งหมด กัปตันนั่งหน้า แผ่นไม้เรือเปิดเก็บสัมภาระ เบาะเป็นเบาะรถตู้มาขันติดพื้น สองแถว นั่งหลังเสียงเครื่องดังมาก และในตั๋วเป็นเลขตั๋วเฉยๆไม่มีเลขที่นั่งให้ ฉะนั้น รีบมาจะได้จองที่นั่งดีๆ ติดหน้าต่าง
ค่าตั๋วยิงยาวไปหลวงพระบางก็ สองแสนสองหมื่นกีบ 220000/249=883บาท ราวๆนี้ ถ้าไปแค่ครึ่งทางก็ครึ่งนึง
[caption id=”attachment_130" align=”aligncenter” width=”500"]
ตั๋ว เรือช้า ห้วยทราย หลวงพระบาง[/caption]
บรรยากาศในเรือหลังจากที่นั่งที่กันเรียบร้อยแล้ว เรียกได้ว่าเป็น “เรือสหประชาติ” กันเลยทีเดียว ส่วนมากจะเป็นฝรั่งจากยุโรป มีเอเชียบ้างนิดหน่อย และที่ไม่มีเลยคือ “คนไทย” เรียกว่าได้บรรยากาศต่างประเทศมากๆ
[caption id=”attachment_131" align=”aligncenter” width=”500"]
บนเรือช้า ห้วยทราย หลวงพระบาง[/caption]
สักประมาณ 11 โมง เรือก็ออกครับ วันนี้เราจะเดินทางไปที่เมืองกลางทางคือ “ปากแบง” เด็กเรือบอกว่าถึงประมาณ 5–6 โมงเย็น
[caption id=”attachment_137" align=”alignnone” width=”500"]
การเดินทาง ห้วยทราย ปากแบง[/caption]
ด้วยความที่มาขึ้นเรือช้ากว่าชาวบ้าน เราสี่คนเลยต้องนั่งแยกกัน — -” ผมได้นั่งข้างฝรั่งสาวคนหนึ่ง เธอมาจากฟินแลนด์ อายุเท่าๆกัน เธอพักท่องเที่ยวประมาณหนึ่งเดือน ไปเชียงใหม่ เชียงราย ห้วยทราย หลวงพระบาง คุยกันถูกคอดี กิจกรรมบนเรือของชาวต่างชาติบนเรือก็จะเป็น อ่านหนังสือ ฟังเพลง กินเบียร์(บนเรือแพงมาก)
ส่วนผมก็ยก เทเลมาส่องฝรั่ง
[caption id=”attachment_132" align=”aligncenter” width=”500"]
ฝรั่งสาว เรือช้า ห้วยทราย หลวงพระบาง[/caption]
ใครที่พกกล้องไปในช่วงนั่งเรือแนะนำเปลี่ยนใส่เทเลไว้เลยนะครับ บางอย่างแปลกๆริมน้ำอาจโผ่ลมาตอนเราไม่ทันตั้งตัว
Olympus OMG + 75–150mm ครับใบนี้
[caption id=”attachment_133" align=”aligncenter” width=”500"]
ริมน้ำ เรือช้า ห้วยทราย หลวงพระบาง[/caption]
[caption id=”attachment_134" align=”aligncenter” width=”500"]
ริมน้ำ เรือช้า ห้วยทราย หลวงพระบาง[/caption]
…………
………
…..
..
6 ชั่วโมงผ่านไป..
เราก็มาถึง “ปากแบง”เย่เย่เย่
[caption id=”attachment_135" align=”aligncenter” width=”500"]
ท่าเรือปากแบง[/caption]
ปากแบง
หลังจากที่นั่งเรือมา 6 ชั่วโมง เราก็มาขึ้นฝั่งกันที่เมือง “ปากแบง” ปากแบงเป็นเมืองที่อยู่ระหว่างทางพอดี เรือทุกชนิดจะแวะกันที่นี่ (ยกเว้นเรือเร็วแว้นซ์ อันนั้นวันเดียวถึงหลวงพระบาง) ตามข้อมูลที่อ่านมา เราต้องหาเกสต์เฮ้าส์นอนกันที่นี่ ซึ่งหาไม่ยากเลย มีจนท.ตัวแทนเกสต์เฮ้าส์มารอรับ เสนอราคา กันที่ท่าเรือเลย ราคาราวๆคนละ 150–200 บาท หรือประมาณห้องละ 400 บาท(ห้องพัดลม)
มีมายืนเสนอห้องกันประมาณนี้ ไปก็ขึ้นรถเลย
[caption id=”attachment_139" align=”alignnone” width=”720"]
ห้องพัก ปากแบง[/caption]
คืนนี้เรานอนที่ “บุญมีเกสต์เฮ้าส์” ครับ ห้องธรรมดาๆ พัดลมตัว ผ้าห่มหมอน น้ำอุ่น wifi ครบ (ไม่ได้ถ่ายรูปไว้เลย แหะๆ)
อาหารการกินที่นี่ก็คล้ายๆกับไทยครับ ถ้าร้านตามสั่งเราสั่งได้หมดเหมือนไทย กระเพราไข่ดาว ข้าวผัด ที่นี่อาหารจานละ 60 (สิบห้าพันกีบ) ครับ เป็นราคาเดียวกันหมดในเมืองท่องเที่ยวเลย ชาโออิชิขวดละ 25 บาท กินเสร็จก็นอนครับ อากาศไม่หนาวมาก
[caption id=”attachment_140" align=”alignnone” width=”720"]
ข้าวผัดกระเพรา ปากแบง[/caption]
1 พฤษภาคม
ตื่นเช้ามาเพื่อจะเดินสำรวจเมือง สำรวจตลาดครับ เมื่อวานมาถึงแล้วค่ำพอดี ไม่ได้เดินอะไร
บรรยากาศในเมืองตอนเช้าๆ ร้านค้าเริ่มเปิดกันแล้ว ผู้คนออกมาตักบาตร
[caption id=”attachment_141" align=”alignnone” width=”720"]
บ้านเมือง ปากแบง ลาว[/caption]
[caption id=”attachment_142" align=”alignnone” width=”720"]
บ้านเมือง ปากแบง ลาว[/caption]
[caption id=”attachment_143" align=”alignnone” width=”720"]
บ้านเมือง ปากแบง ลาว[/caption]
แวะทานเฝอเป็นมื้อเช้าครับ ราคาชามละประมาณ 60 บาท
คราวนี้เรากะรีบมาลงเรือจองที่นั่งกันตั้งแต่ 8:30 สรุป ฝรั่งมากันจะเต็มเรือแล้ว โห้ยย สกิลเอาตัวรอดของสาย backpacker นี่มันแกร่งจริงๆ แต่สุดท้ายก็ยังพอมีที่นั่งดีๆเหลือบ้าง นิดหน่อย
สี่สาวข้างหน้านี่ผลัดกันดูดบุหรี่แบบตัวต่อตัว ชิลล์ไปมั๊ยย
บรรยากาศริมน้ำ ส่วนมากเป็นหาดทรายขาวๆสวยๆ เรือจอดแวะส่งคนตามหมู่บ้านเล็กๆริมน้ำบ้าง มีเด็กๆและชาวบ้านมารอรับกันถึงริมหาด
และแล้ว ในที่สุดเราก็มาถึงหลวงพระบางตอน 5 โมงเย็น วันนี้ใช้เวลานั่งเรือ ราวๆ 7 ชั่วโมง โดยท่าเรือหลวงพระบางได้ย้ายออกมาจากที่เดิมห่างจากตัวเมืองประมาณ 5 km ซึ่งน่าจะเป็นแผนขยายเมืองใหม่ของเค้า โดยที่เราจะต้องต่อรถกะป๊อไปอีก ราคาคนละ 40บาท วินตรงนี้เป็นวินอย่างทางการ มีการซื้อตั๋ว ติดป้ายราคาชัดเจน ไม่มีการฟันราคาแน่นอน(ชอบลาวตรงนี้)
จบภาคเรือ