Tense 12 tenses

Jesada
4 min readJun 2, 2023

--

1. The Simple Tenses
1.1 Simple Present
ใช้สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นนิสัย ประจำวัน หรือการกระทำที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ซึ่ง Simple Present Tense นี้ในการเติมคำกริยาสำหรับประธานที่เป็นเอกพจน์ หรือบุคคลที่สาม (he, she, it) จะต้องลงท้ายด้วย -s ส่วนสรรพนามบุคคลที่หนึ่ง และ
สอง (I, we, you) และบุดคลที่สามที่เป็นพหูพจน์ กริยาที่ลงท้ายจะไม่มี -s ในส่วนนี้ข้อสอบ GAT-English ต้องระวังและเช็คให้ดีว่า กริยาช่องที่ 1 เติม -ร สอดคล้องกับประธานที่ประโยคให้มาหรือไม่ ตัวอย่างเช่น
ㆍI always get up at 6 o’clock.
ㆍShe likes playing basketball every evening.

1.2 Simple Past
น Tense ที่เหตุการณ์เกิดขึ้นแล้วในอดีต เกิดขึ้นแล้วจบในเวลานั้น ซึ่งกริยาส่วนใหญ่จะไม่มีการเปลี่อนรูป เเต่เดิม-ed แต่ก็มีบางกริยาที่คงเดิม และเปลี่ยนรูป (Iregular Verb) ตัวอย่างเช่น
• I went to see the movie yesterday.
• I visited my grandma’s house in Pennsylvania last week.

1.3 Simple Future
รูปแบบของ Simple Future Tense คือ Auxiliary Verbs (will หรือ shall) ตามด้วยกริยาช่องที่ 1 ซึ่ง Tense นี้จะใช้ในสถานการณ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต และการวางแผนดำเนินการในอนาคต ตัวอย่างเช่น
• I will go to see the movie tomorrow.
• I am going to go to Chiangmai next week.

2. The Progressive Tenses
2.1 Present Progressive
เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ณ เวลาขณะนั้น หรือปัจจุบันนั้น ซึ่งสามารถระบุเวลาได้แน่นอน หรือกำลังทำอยู่ขณะที่พูด
ไม่เสร็จ โครงสร้างประโยคประกอบด้วย is, am, are + verb formed as a participle form ตัวอย่างเช่น

  • Evan is reading the most famous fiction book right away. (หมายถึง Evan กำลังอ่านหนังสือออ่านต่อไปเรื่อยๆ และยังอ่านไม่จบ ณ เวลาที่กล่าวถึง)
  • Adam is running in a park now.

2.2 Past Progressive
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต ซึ่งเกิดขึ้นต่อเนื่อง แต่จบไปแล้วก่อนที่จะกล่าวถึง มักจะเป็น Tense ที่ใช้คู่กับPast Simple Tense ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาแทรก ณ เวลาที่กำลังเกิดเหตุการณ์ของ Past Progressive Terse 2
ตัวอย่างเช่น
• While I was cooking for dinner, my cellphone rang. ขณะที่ฉันกำลังทำอาหารเย็น โทรศัพท์ก็ดังขึ้น ซึ่งป็นเหตุการณ์ที่แทรกเข้ามาขณะทำกับข้าว แล้วจบไปแล้วในเวลานั้น
• I was putting milk in the glass when my brother broke the glass. ฉันกำลังเทนมลงในแก้ว แต่เหตุการณ์ถูกแทรกด้วยน้องชายทำแก้วแตก

2.3 Future Progressive
Tense นี้แสดงให้เห็นการกระทำว่ากำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต หรืออาจจะยังคงต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ซึ่งเป็นการกระทำยังไม่จบ เนื่องจากมีบางสิ่งเกิดขึ้นมาแทรกก่อน ตัวอย่างเช่น
• kate will be setting up for a party when we arrive. ลำดับเวลาของเหตุการณ์นี้ Kate จะกำลังเตรียมงานปาร์ตี้เมื่อผู้พูดไปถึง ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ยังไม่เกิดขึ้นในตอนที่กล่าวถึงทั้งคู่

3. The Perfect Tenses
3.1 Present Perfect
ect Tense แสดงให้เห็นถึงสิ่งที่ทำเป็นนิสัย หรือการกระทำที่ทำซ้ำ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่
และสิ้นสุดในปัจจุบันซึ่งไม่จำเป็นต้องระบุเวลาหรือรู้เวลาที่แน่นอน ตัวอย่างเช่น
• Pat has already had lunch. แพททานอาหารที่ยงเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่ได้ระบุว่าเสร็จกี่โมง แต่ทานเรียบแพทจะพูดแล้ว
•We haven’t finished our project yet. พวกเราทำงานโปรเจ็กต์ยังไม่เสร็จ และก็ไม่รู้ว่า

3.2 Past Perfect
Past Perfect Tense คล้ายกับ Present Perfect Tense เพียงแต่ว่าสามารถระบุเวลาที่เริ่มเกิดขึ้นและการกระทำนั้น
สิ้นสุดแล้วในอดีต มักใช้คู่กับ Simple Past Tense ตัวอย่างเช่น

  • Pat had already had lunch before her friend came. แพททานอาหรกลางวันเสร็จแล้วก่อนที่เพื่อนของเธอจะมาถึง

3.3 Future Perfect
เป็นเหตุการณ์หรือการกระทำที่เกิดขึ้น และผลของการกระทำนั้นจะส่งผลไปในครั้งหน้า หรือครั้งต่อไปในอนาคต
โดยประโยดเหลำนี้มักมี Advertb of Frequency แสคงอยู่ด้วย เช่น sometimes ก็คือ early ในครั้งหน้าเมื่อเกิดเหตุการณ์
แบบนี้อีก, by then คือ ช่วงเวลาในอนาคต ตัวอย่างเช่น
• Pat will have had lunch when her friend comes. ประโยคนี้หมายความว่า แพทจะทานข้าวให้เสร็จก่อนของเธอถึงจะมา ถ้ามีเหตุการณ์แบบนี้อีกครั้งในอนาคตข้างหน้า

4. The Perfect Progressive Tenses
4.1 Present Perfect Progressive
Tense นี้เเสดงให้เห็นถึงการกระทำซึ่งอยู่ในขั้นการดำเนินการต่อเนื่องไป หรือยังเสร็จสมบูรณ์ และเสร็จสิ้นลงในปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น
• I have been working for 8 hours. ฉันทำงานมา 8 ชั่วโมงแล้ว
• Nina has not been listening for 2 hours. นินาไม่ฟังมาสองชั่วโมงแล้ว

4.2 Past Perfect Progressive
Past Perfect Progressive Tense นี้คล้ายกับ Present Perfect Progressive โดยแสดงให้เห็นถึงการกระทำยังไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่ถูกขัดจังหวะขึ้นเสียก่อน หรือมีเหตุการณ์อื่นแทรกทำให้การกระทำแรกจบลง ตัวอย่างเช่น
ㆍNina had not been listening for two hours before the teacher called her name. นินาไม่ได้กำลังฟังสิ่งที่ครูพูดเลยเป็นเวลาสองชั่วโมงมาแล้ว จนกระทั่งครูเรียกชื่อเธอ

4.3 Future Perfect Progressive
หตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อเนื่องหรือจะยังไม่สิ้นสุด ก่อนที่จะมีหตุการณ์อีกอันหนึ่งขึ้นมา ทำให้เหตุจบลง ตัวอย่างเช่น
• Nina won’t have been listening for two hours by the time the teacher calls her name. นินมาเป็นเวลาสองชั่วโมงแล้ว ขณะที่คุณครูเรียกชื่อเธอ

จัดทำโดย

นาย เจษฎา รอบโลก เลขที่ 2 ม.6/14
น.ส. ดลพร แก้วปุม เลขที่ 20 ม.6/14
น.ส. วิภาวนี บุญมา เลขที่ 23 ม.6/14

--

--