4 ข้อ ของความสุขในชีวิต จากเด็กหนุ่มผู้มีความสุขที่สุด

LIFE's Chapter TH
2 min readSep 7, 2019

ฟังและชม ได้ที่ Youtube: https://youtu.be/D6VzrMk8CFI

หลายคนคงเคยเห็นเรื่องราวหรือรู้จักกันบ้าง ถึงเด็กหนุ่มที่ชื่อว่า แซม เบิร์นส์

เด็กหนุ่มที่ถูกวินิจฉัยตั้งแต่อายุ 2 ขวบ ว่าเขาป่วยเป็นโรคแก่ก่อนวัย ที่ทั้งโลกมีคนที่เป็นโรคนี้ประมาณ 350 คน

โรคแก่ก่อนวัย หรือมีชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า “Progeria” เกิดจากรหัสทางพันธุกรรมตัวหนึ่งบกพร่อง ทำให้ร่างกายทุกส่วนจะเสื่อมเร็วกว่าวัย ผิวหนังตึง น้ำหนักตัวเพิ่มช้าร่างกายแคระแกรน

www.dovemed.com

โดยคนที่เป็นโรคนี้ ก็จะมีภาวะเสี่ยงในการเกิดโรคภัยต่างๆ แบบผู้สูงอายุ เช่น ภาวะหัวใจล้มเหลว และโรคหลอดเลือดแดงในสมองแข็งตัว โรคความดันโลหิตสูง

ลักษณะอาการของโรคในแต่ละคนจะแสดงออกมาเหมือนๆกัน

และผู้ป่วยมักจะเสียชีวิตด้วยภาวะหัวใจล้มเหลว โรคหลอดเลือดสมอง ในช่วงอายุ
8–21 ปี หรือเฉลี่ยอายุประมาณ 13 ปี

ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาโรคนี้ให้หายขาดได้

จึงทำให้ แซม เบิร์นส์ ต้องเสียชีวิตไปด้วยวัยเพียง 17 ปี
ในวันที่ 10 มกราคม 2557

แต่ตลอดเวลาที่เขาอยู่บนโลกใบนี้ แทนที่เขาจะให้คนอื่นมาคอยดูแล ทำตัวบ่นกับโชคชะตาไปวันๆ ทำตัวไร้ค่า

แต่แซม กลับ ใช้ชีวิตของเขาแบบคนปกติทั่วไป และสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนที่มีร่างกายสมประกอบ เกิดมาบนความโชคดีได้ฉุกคิดถึงการใช้ชีวิตของตัวเอง

แซม เบริร์น ได้ขึ้นพูดบนเวที TEDxMidAtlantic

เขาพูดถึงแนวคิดการใช้ชีวิตของเขาท่ามกลางโรคร้ายที่ใครๆ ก็มองว่าเป็นโชคร้ายของเขา

แต่ตลอดเวลาแซม กลับไม่ได้คิดว่ามันเป็นโชคร้าย

มันกลับทำให้เขาได้รู้ถึงคุณค่าของชีวิต และทำให้เขาได้มีโอกาสทำตามความฝันอะไรในเรื่องต่้างๆ มากมาย และยังเป็นแรงบันดาลใจให้คนทั้งโลกอีกด้วย

ถึงแม้ว่า แซม จะจากไปแล้วตั้งแต่ปี 2557 แต่ 4 ข้อคิดที่แซม ได้ทิ้งไว้บนเวที เท็ด ทอล์กนั้น เป็นแรงบันดาลใจสำหรับคน กำลังมีปัญหาในชีวิต ให้มองแซมเป็นตัวอย่าง และให้เป็นแรงผลักดันชีวิตให้สู้ต่อไป

ข้อคิดข้อที่ 1

“Be ok with what you ultimately can’t do because there is so much you CAN do.” สนใจสิ่งที่เราทำได้ มากกว่าจะไปสนใจในสิ่งที่เราทำไม่ได้

สำหรับเราบางคนอาจจะมีเป้าหมาย ในเรื่องต่างๆ ทำพยายามอย่างเต็มที่ แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันไม่ใช่ทางของเรา เราอาจจะต้องยอมสละทางที่ไม่ใช่ออกไปและหันมาสนใจ โฟกัส กับทางอื่นๆที่ยังรอเราอยู่มากมาย

หากเราทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งไม่ได้ไม่ได้หมายความว่า เราเป็นคนล้มเหลว

เราไม่ใช่คนล้มเหลว จนกว่าเราจะบอกกับตัวเราเองว่าเราคือคนล้มเหลว

คนเราไม่มีใครทำได้สมบูรณ์แบบทุกอย่าง อย่าไปเลียนแบบใครแต่ให้ทำในสิ่งที่เราสามารถทำได้ และมีความสุขไปกับมัน

สิ่งสำคัญคือ เมื่อเกิดความล้มเหลวขึ้น เราลุกขึ้นสู้ในทุกๆครั้งหรือเปล่า

Cr. npr.org

ข้อคิดข้อที่ 2

“Surround yourself with people you want to be around.” อยู่กับคนที่เราอยากอยู่ด้วย อย่าทนกับสังคมที่เราไม่ต้องการ

แซมบอกว่าเขามีความสุขเพราะเขาเลือกอยู่กับคนที่เขารู้สึกดีเสมอเขาไม่อยู่กับคนที่รังเกียจเขา หรือพูดกับเขาในทางหดหู่ เกี่ยวกับโรคนี้

แต่อย่าถึงขั้นมีอคติกับผู้คน ในสังคมของเร เราจะต้องเจอคนอยู่ทุกประเภทคนที่ต่างที่มา ต่างการเลี้ยงดู ต่างอุปนิสัย เราไม่สามารถเลือกได้ว่าให้คนๆนั้น มีนิสัยแบบนั้นแบบนี้ แต่เราเลือกได้ว่าเรา ต้องการให้ตัวเราเป็นแบบไหน เพราะสังคมที่เราเอาตัวเราเข้าไปอยู่ จะสะท้อนตัวตนของเรา

เหมือนกับที่ จิม โรห์น นักสร้างแรงบันดาลใจระดับโลก กล่าวว่า

“เราคือค่าเฉลี่ย ของคนที่เราคบหาด้วย”

ไม่ได้ได้บอกให้เราต้องแบ่งแยกประเภท หรือเกลียดคนที่ไม่ใช่ไสตล์เราแต่เราควรต้องรู้จักตัวเราเองว่า เราต้องการเป็นคนแบบไหน เพราะทางเลือกขึ้นอยู่กับเรา

พ่อ แม่ และ แซม

ข้อคิดข้อที่ 3

“Keep moving forward.”อย่าจมปลักอยู่กับที่ อย่ามั่วเสียใจกับอดีตที่ผ่านมา สู้และก้าวต่อไป

คนเรามีค่าเฉลี่ยของการมีชีวิตอยู่ที่ 80 ปี เราทุกคนเกิดมาต้องตายเราไม่อาจปฏิเสธได้แต่วันที่เราจะตาย หรือวันที่เราไม่สามารถทำอะไรได้นั้นเรากลับไม่สามารถรู้ได้

เพราะแบบนี้เราจึงไม่ควรใช้ชีวิตที่จมกับอดีต อดีตที่ไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้แต่ให้เราใช้อดีตเป็นบทเรียนให้ชีวิตเดินต่อไปข้างหน้าให้ได้

อดีต ความผิดพลาด หรือความล้มเหลวที่เกิดขึ้น มันคือสิ่งที่ทำให้เราได้เรียนรู้ว่าเรื่องแบบนั้น จะต้องไม่เกิดขึ้นอีก

แทนที่เราจะมัวจมอยู่กับอดีต ให้เราเรียนรู้ เข้าใจมัน และยอมรับความจริง

ปัญหาในอดีต ที่มันเกิดขึ้นมันคือเรื่องที่เราเคยผ่านมา

ใช้มันเป็นบทเรียน เพื่อปัจจุบันที่เราต้องใส่ใจ และมุ่งหวังกับอนาคตที่เราตั้งมั่นไว้

ปัญหาหนักที่เกิดขึ้นในชีวิต มันไม่ได้หมายความว่าชีวิตของเราจะต้องจบสิ้น

ท้อได้ หยุกพักได้ แต่อย่าคิดที่จะหยุดก้าวเดินต่อไป เราโชคดีแค่ไหนที่ไม่เจ็บป่วยแบบแซม เบิร์น ยังมีแรง มีกำลังในวันนี้

แซม บอกว่า

“ทำใจให้เกิดความกล้า

ยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่เรื่องง่าย

แต่มันคือหัวใจสำคัญที่ทำให้เราก้าวเดินต่อไปได้”

แซม บนเวที TEDxMidAtlantic

ข้อคิดข้อที่ 4

“Never miss a party if you can help it.”อย่าลืมหาช่วงเวลาผ่อนคลายให้ชีวิตในทุกๆวัน

แม้วันที่เกิดปัญหาหนัก ก็มีสิ่งที่ดีงาม มีเรื่องดีๆ อยู่เสมอ

เรื่องดีดี เกิดขึ้นได้ทุกๆวัน อยู่ที่ตัวเรานั้นจะมองหามันหรือเปล่า

แซมบอกว่า แม้ว่าจะมีอุปสรรคมากมายเกิดขึ้นในชีวิตของเขา เพราะโรคร้ายนี้แต่เขาไม่อยากให้ใครมารู้สึกแย่กับเขาปัญหาในชีวิต มันแก้ไม่ได้ด้วยความทุกข์

เราสามารถให้ตัวเราเองมองสิ่งดีดีได้ทุกวัน แม้จะมีปัญหาเข้ามาลองเปิดใจอีกด้านมุมหนึ่ง แล้วเราจะมองเห็นทางออกของปัญหาเสมอ

บางครั้งก็ให้หัวใจ และสมองได้หยุดพักและผ่อนคลายบ้าง
เพราะความสุขไม่ได้ขึ้นอยู่กับสถุานการณ์แต่ขึ้นอยู่กับวิธีคิดของเราเอง

เพราะชีวิตมันช่างแสนสั้น…

แซม เบิร์นส์เด็กผู้ชายธรรมดา ที่คนอื่นคิดว่าเขาโชคร้ายมากที่สุด

แต่เขากลับไม่เคยคิดว่าตัวเขาเองโชคร้าย

เขาโชคดีที่เกิดมาบนโลกใบนี้ ได้ทำความตามความฝันและได้ทำประโยชน์ให้ผู้อื่น

ร่างกายที่เจ็บป่วยชองเขา ไม่อาจทำลายหัวใจทีเป็นสุขของเขาได้

ร่างกายที่เจ็บป่วย ไม่ได้ทำให้เขามัวแต่โทษโชคชะตา

ร่างกายที่เจ็บป่วย ไม่อาจทำให้เขายอมแพ้ได้

แล้วตัวเราจะเลือกใช้ชีวิตแบบไหน…

ถึงเราทุกคนที่เกิดมา บนความโชคดี

อย่ายอมแพ้กับปัญหาของชีวิต

หยุดพักได้ แต่อย่าคิด ที่จะหยุดก้าวเดินต่อไป

ติดตามฟังและชม เรื่องสั้น แรงบันดาลใจ พัฒนาความคิดได้เป็นประจำ ที่
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCb9rq0YUp954n986LV4zySQ

Source:
My philosophy for a happy life | Sam Berns | TEDxMidAtlantic
https://www.youtube.com/watch?v=36m1o-tM05g

--

--

LIFE's Chapter TH

มุมเล็กๆ ที่ส่งมอบ “เรื่องราวดีๆ” https://www.youtube.com/channel/UCb9rq0YUp954n986LV4zySQ