Web Service vs Web Application — 3 ข้อแตกต่างระหว่าง Web Service กับ Web Application

ในตอนนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าอินเตอร์เน็ตเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันมากขึ้นกว่าเดิมมาก รวมถึงการใช้พื้นที่บนอินเตอร์เน็ตในการสื่อสารข้อมูลต่างๆนั่นก็คือ Website

ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงความแตกต่าง Web Service กับ Web Application หลายๆคนคงคิดว่ามันน่าจะเหมือนกันหรืออาจจะคล้ายกัน เพราะมีชื่อ Web นำหน้าเหมือนกัน

ก่อนที่จะไปหาคำตอบกันเรามาทำความรู้จัก Web Services กับ Web Application กันก่อนดีกว่า

Web Services คืออะไร?

คนกลางหรือตัวกลาง ทำหน้าที่เป็นตัวกลาง ระหว่าง client กับตัว database ซึ่งระบบส่วนใหญ่จะไม่อนุญาตให้ user หรือผู้ใช้งานอ่านหรือเขียนฐานข้อมูลได้โดยตรง หาก user หรือผู้ใช้งานต้องการที่จะอ่านและเขียนฐานข้อมูลต้องผ่าน web service เท่านั้น

Web Application คืออะไร?

เป็น Browser สำหรับเปิดใช้งาน Webpage ต่างๆซึ่งถูกปรับแต่งให้แสดงผลแต่ส่วนที่ต้องการ ใช้งานง่าย ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมให้วุ่นวาย เพียงแค่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตกับอุปกรณ์และเปิด Browser ก็สามารถเริ่มใช้งานได้ทันที

ต่างกันยังไง?

1. Client

• Client ของ Web Application คือ Web Browser ที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี่แหละ เช่น Firefox, Microsoft Edge, Chrome เป็นต้น
• Client ของ Web Services คือ อะไรก็ได้ที่ไม่ใช่ Web Browser เช่น Application บน IOS , Application บน Android, IoT, Smart Watch

2. Result

• Web Application จะแสดงผลออกมาในรูปแบบ HTML หรือว่าเป็นหน้าเว็บที่มนุษย์อย่างเราสามารถอ่านเข้าใจได้ง่าย สวยงามสบายตา
• Web Services จะแสดงผลออกมาในรูปแบบข้อมูล เช่น XML, JSON, Encrypted Data, Plain Text หรือภาษาที่แสดงผลออกมาเป็นข้อมูลที่อ่านยาก ปวดตากันไปเลยทีเดียว

3. Content-Type

• Web Application คือ text/html
• Web Services คือ application/json (ซึ่งแล้วแต่ชนิดของข้อมูล)

คือข้อมูลที่อยู่ข้างในเราไม่สามารถมองเห็นได้

Web Application vs Web Service

เพื่อนๆคงได้รู้จักและเห็นภาพความแตกต่างมากขึ้นระหว่าง Web Service กับ Web Application กันแล้วนะครับ เป็นสาระที่ดีเลยใช่มั้ย อย่าลืมติดตามสาระเรื่องต่อๆไปกันด้วยนะ ตามนั้นคือจบ !!!