[ NongSnaily Story Ep.9 ] Internship Life At RentSpree ฝึกงานกับ PropTech Startup ของไทย 2 เดือนเป็นยังไงบ้าง?

สวัสดีจ้า เราชื่อ ฝ้าย นะ กำลังจะขึ้นปี 4 (07/2565) คณะ School Of Information Technology มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี วันนี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์ฝึกงานครั้งแรกในชีวิต! ที่บริษัท RentSpree Thailand! โดยเริ่มฝึกงานตั้งแต่เดือนมิถุนายน-กรกฎาคม 2565 เป็นเวลา 2 เดือน และฝึกในตำแหน่ง Data Engineer Internship เป็นผู้หญิงคนเดียวที่มาฝึกงาน จากเด็กฝึกงาน 6 คนที่มาฝึกงานในครั้งนี้ ชีวิตจะเป็นยังไง มาดูกันเลยยยย

ปล. เราฝึกเองนะ เพราะว่าหน่วยกิตไม่ถึง เลยไม่สามารถลงวิชาฝึกงานได้เหมือนคนอื่นๆ ใช่!! เราเรียนช้ากว่าเพื่อนๆ 1 ปีคับ แต่เราก็พยายามเรียนรู้สิ่งใหม่ๆมาตลอดเพื่อทดแทนที่เราเสียไป และการฝึกงานครั้งนี้ หวังว่าจะได้สิ่งดีๆกลับไปแน่นอนคับ =w= (เราจะจบที่ปี 5 แน่นอนคับ ไม่เหมือนกับใครบ้างคน 8–9 ปีแล้วยังไม่ออก หยอกๆ 5555+)

Chapter 1 เจอ RentSpree ได้ยังไง?

เริ่มแรกเราก็หาที่ฝึกงานมาหลายเดือน หลายที่มาก สมัครหลายที่ สัมภาษณ์หลายที่ ก็ติดบ้าง ไม่ติดบ้าง ติดตำแหน่งที่ไม่ใช่บ้าง และเราก็หาใน Google นี่แหละ จนไปเจอเว็บนี้ Grow Your Career at RentSpree | RentSpree Careers และเห็นเขาเปิดรับ Data Engineer Internship พอดีก็เลยลองสมัคร ไม่เกิน 1 อาทิตย์ก็มีคนติดต่อกลับมา และนัดวันสัมภาษณ์ ถือว่าโชคดีจริงๆเบย (ตอนสมัครเราส่งเป็น CV ไป ซึ่งผ่านการกรองจากผู้เชี่ยวชาญมาแล้ว ขอบคุณ พี่เก๊ก[AWS])

แล้ว RentSpree เขาทำอะไร??

RentSpree เป็น Prop Tech Startup ที่ไปเติบโตที่อเมริกา พัฒนา Rental Management Software เป็น Web Application สำหรับช่วยเหลือในเรื่องการคัดกรองผู้เช่าอสังหาริมทรัพย์ในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งการเช่าบ้านที่อเมริกา มี Process เยอะมากและใช้เวลานาน RentSpree เลยเข้ามาช่วยตรงจุดนี้ ทางทีมงาน RentSpree จะแบ่งเป็น 2 ฝั่งใหญ่ คือ ฝั่งอเมริกาที่ทำฝ่าย business และฝั่งไทยที่เป็นฝ่าย develop

Chapter 2 ตอนสัมภาษณ์เป็นยังไงบ้าง?

ตอนสัมภาษณ์บอกตามตรงว่าไม่ได้เตรียมอะไรเลย เราสัมภาษณ์ผ่าน google meet ก็จะมีพี่ๆ 3–4 คนเข้ามาดูสัมภาษณ์เรา ก็มีให้แนะนำตัวสั้นๆ เราชื่ออะไร เรียนที่ไหน ทำไมถึงอยากทำตำแหน่งนี้ และพี่ๆก็จะถามต่อว่า เราเรียนอะไรในมหาลัยบ้าง ได้ทำโปรเจคอะไรมาบ้าง คิดว่าตัวเองมีข้อดีข้อเสียยังไง เราจำได้แค่นี้นะ ขอโทษด้วย เพราะว่าเราสัมภาษณ์ท้ายปี กว่าจะได้ฝึกก็อีก 6–7 เดือนเลย เป็นการรอคอยที่นานมาก =w=”

พอสัมภาษณ์เสร็จ หลังจากนั้นไม่เกินอาทิตย์ก็มีพี่ติดต่อมาว่า “ผ่านสัมภาษณ์แล้ว” จากนั้นเขาก็จับเซ็นสัญญาเลย 555+

เมื่อเรามีที่ฝึกงานแล้ว เราก็ทำการไปขายเพื่อนต่อ 2–3 คน มีคนผ่าน 2 คน และเป็น 2 ใน 6 คนที่มาฝึกงานครั้งนี้ด้วยคับ เย้มีเพื่อนฝึกงานด้วยแล้ว >w<b

ส่วนเพื่อนที่เหลืออีก 3 คน มีจากจุฬา 2 คน ลาดกระบัง 1 คน สรุปมีผู้ชาย 5 คน + ผู้หญิงตัวน้อยๆ 1 คน รวมเป็น 6 คนจ้า TwT

Chapter 3 ฝึกงานวันแรก

ฝึกวันแรกคือ วันที่ 1 มิถุนายน พี่ๆนัดเจอที่Office อาคารพร้อมพันธุ์ 1 แถวยูเนี่ยน มอลล์ ลาดพร้าว เราเดินทางโดยรถตู้มาลงที่เซ็นทรัลลาดพร้าว และใช้เวลาเดินนิดหน่อยได้ออกกำลังกายมาทำงาน พอถึงOffice พี่ๆให้ได้นั่งรอที่ห้อง meeting เพื่อรอเพื่อนๆได้ครบ 6 คน เมื่อมาครบแล้ว จะมีพี่ๆจากทีมPeople เข้ามา Onboarding เกี่ยวกับบริษัท Toolsที่บริษัทใช้ ช่องทางติดต่อที่บริษัทใช้ เป็นต้น พอเสร็จแล้วก็พาทัวร์Office จากนั้นก็เริ่มแบ่งตามทีมต่างๆตามตำแหน่งของตัวเอง อย่างเช่นเราจะเป็นทีม Data เพื่อเจอกับพี่Manager พี่เลี้ยงของตัวเอง จบวันแรกไม่มีงาน =w=

ป้ายยินดีต้อนรับ

สวัสดีเราเอง

Chapter 4 ระหว่างฝึกงานได้ทำอะไรบ้าง?

หน้าที่ของฝ้ายหลักๆคือ รับงานมาจากรุ่นพี่ ส่วนใหญ่จะเขียน Python เป็นหลัก เดี๋ยวจะนั่งไล่งานที่ได้ทำมาทั้งหมด แต่โชคดีที่เราเพิ่งเริ่ม Python ปีนี้แล้วเอามาใช้ซะเลย

1. งานแรกเขียน Python หนักอยู่ ให้ทำ Geocoding หาละติจูด ลองจิจูดจาก Tableนึง และนำขึ้นcloud ให้ทำงานหาละติจูด ลองจิจูดเมื่อมีคนมาAdd ข้อมูลเพิ่ม งานนี้เป็นงานที่ชอบมากๆ เพราะว่าเคยทำแนวนี้มาก่อนถึงว่าเป็นการแสดงความสามารถให้พี่ๆเห็นเลย 555+ และสิ่งที่ได้เรียนรู้คือ ตัว GCP (Google Cloud Platform) ซึ่งเราไม่เคยใช้มาก่อนเลย ได้ถือโอกาศได้ลองทำเลย Tools ที่ใช้มี

• Big Query
• Cloud Storage
• Cloud function
• Pub/Sub
• Cloud scheduler

2. งานที่ 2 Signup Source UTM Changes เป็นงานแก้ไขตัว SQLX บน Dataform ตัวนี้ก็ไม่เคยใช้มาก่อน แต่งานนี้เป็นงานที่เสร็จเร็วที่สุดแล้ว 555+

ตัวอย่าง SQLX

3. user origin งานนี้เขียน Python หนักมาก ทำนานมาก พอขึ้นcloud แล้วหนักกว่าอีก ;-; แต่งานนี้ทำไม่เสร็จนะ ให้พี่เลี้ยงไปทำต่อเพราะมันยากสำหรับเราถ้าทำต่อเพราะต้องปรับให้cloud กินพื้นที่น้อยๆ แต่Tableที่มีนี้600–900K++ record O-O!!แต่เราก็ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เช่น

• iterator vs generator
• iterrow
• enumerate
• mode
• chunk

4. [Proof Of Concept] Check the compatibility of GE to previous DQ project เป็นงานที่ต้องศึกษาเยอะมาก ศึกษาตัว great expectations (GE) ว่านำมาใช้กับโปรเจคของรุ่นพี่ได้มั้ย ที่เป็นโปรเจค data quality ซึ่งต้องไปแงะโค้ด และเราก็ไปนั่งไล่ Expectation แต่ละตัวว่ามาตัวไหนที่มาใช้กับโปรเจค data qualityได้บ้าง และลองทำ data quality เอง รวมถึงทำตัว Custom Expectation หนัก Python เหมือนกัน แต่ก็ผ่านมาได้ แถมได้ลองทำ Unit Test ด้วยยากจุง ;w;

5. ให้ดึงข้อมูลจาก google cloud storage แล้วเอาเข้า mongodb โดยใช้ Python งานนี้ชิลๆ แต่โดน mongodb แกง! แง้ ; — ;

6. ทำ Bot Slack ที่รับแจ้งเตือน Fraud จาก HubSpot สนุกมาก เป็นการทำงานที่นำความรู้ที่ได้เรียนรู้ช่วงแรกๆมาปรับใช้กับ Bot

บอทน้อยของเลาาาาา

Chapter 5 สรุปภาพรวมการฝึกงาน

รวมๆแล้วเราชอบculture ชอบการทำงานของที่นี้มาก ทุกเช้าวันทำงาน เวลา 9.30 น. จะมี Data Team Daily Standup เป็น meeting เล็กๆที่ต้องมาเจอกันทุกเช้าเพื่ออัปเดตงานของตัวเอง เช่น เมื่อวานทำอะไร? แล้ววันนี้มีแผนทำอะไรบ้าง? มีติดBlock ตรงรึเปล่า เป็นต้น และการทำงานจะแบ่งเป็น Sprint Sprint ละ 2 อาทิตย์ ระหว่างนั้นก็จะมี meeting Sprint Planning / Mid-Sprint Check-In / Backlog refinement / Sprint review / Sprint Retrospective ด้วย

นอกจากนั้นยัง work from anywhere อีกด้วย จะนั่งทำงานที่บ้าน จะนั่งที่ Office ก็ได้ ถ้าเข้า Office ก็มีอาหารเช้า ของกินเล่น ขนม กาแฟ เครื่องดื่มรออยู่ อ้อ! มี Benefit อื่นๆอีกเช่น

• Flexible working hours
• Breakfast & Snack
• Tuesday Lunch (ต้องเข้าร่วมกิจกรรมเท่านั้น)
• Allowance ฿1000/Day

ที่สำคัญยังได้ฝึกภาษาอังกฤษอีกด้วย ไม่ว่าจะใน slack ใน notion หรือมีคนใน USA เข้ามาให้ meeting ต้องเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งเราไม่เก่งภาษาอังกฤษ โชคดีที่ได้ฝึกตรงนี้ด้วย

ยังมีของดีอีก ทาง RentSpree จะมีสิ่งที่เรียกว่า bonusly เป็นคล้ายๆบัตรสะสมแต้ม ทุกคนจะมีแต้มของตัวเอง และแต้มที่สามารถให้คนอื่นได้ซึ่งจะรีทุกๆเดือน เราจะให้ bonusly ในโอกาสสำคัญหรือแทนคำขอบคุณก็ได้ เช่นในภาพนี้

และสามารถนำแต้มมาแลกของได้ดังนี้

เราได้ทำการแลกไปเรียบร้อยแล้ว >w</ Grab Food 300 THB

งาน CTC ไปช่วยเขาขาย

สำหรับเรา เราชอบที่นี้มาก พี่ๆใจดีพร้อมรับฟังปัญหาและช่วยปัญหา เพราะว่าเราทำงานเป็นทีม (มีพี่คนนีงกล่าวไว้) อยากกลับมาฝึกที่นี้อีกอ่ะสุดๆ ตอบจบได้รับ feedback จากพี่ๆในทีมด้วย ซึ่งทำให้เรารู้ว่าเราควรพัฒนาตรงไหนปรับตรงไหน ฝ้ายมีสิ่งที่ต้องปรับกันเยอะเลย 5555+ เราได้เรียนรู้จากพี่ๆ พี่ๆก็ได้เรียนรู้จากเราคับ Win-Win โดยรวมก็ Have fun กับการทำงานมากเลยคับ ขอบคุณทุกคนมากเลยคับที่เข้ามาอ่าน หวังว่าจะมีประโยชน์กับทุกคน ถ้า RentSpree เปิดรับเด็กงานอีกอย่าลืมไปยื่น Resume กันเยอะๆละ 555+ ของดีแบบนี้ห้ามพลาด!!