กำเนิดซินแส

Qi Men Alchemy
4 min readJul 21, 2017

--

ซินแส ในสมัยโบราณกำเนิดมาอย่างไร?

ตามปกติ เราจะเรียก ผู้ที่ทำหน้าที่ดูฮวงจุ้ย หรือ ดูดวงว่า ซินแส 先生 (xiān shēng, xiān sheng, เซียน เซิง) — คุณครู, อาจารย์ | ในภาษาญี่ปุ่น อ่านว่า เซนเซ หรือภาษาอังกฤษ ก็จะเรียกว่า Master เช่น Feng Shui Master (อาจารย์ฮวงจุ้ย)

บางครั้งถ้าเป็นศิษย์อาจารย์กัน ผู้ที่เป็นศิษย์ก็มักจะเรียกอาจากรย์ว่า ซือฟู่ (師傅 หรือ 師父, shī fù)

แต่จะเห็นได้ว่าเป็นการเรียกโดยให้เกียรติให้ความเคารพท่านนั้น ไม่ค่อยตรงความหมายเท่าไหร่ ในปัจจุบันนี้ไม่มีคำเรียกเป็นทางการ แต่ในสมัยโบราณนั้น ผู้ที่ทำหน้าที่เหล่านี้เราจะเรียกว่า 巫 (อู)

巫 (อู) คืออะไร?

巫 (wū, อู, อู๊) ตามศัพท์แปลว่า พ่อมด (Wizard), หมอผี (Exorcist), คนทรง (Medium), แชมัน (Shaman), ผู้ร่ายคาถา (Sorcerer), ผู้วิเศษ ที่สามารถสื่อสารกับพลังเหนือธรรมชาติ

ความหมายของตัวอักษรนี้ ตามตัวอักษรโบราณ จะเป็น เส้นด้านบน แทนด้วยฟ้า, ท้องฟ้า, สวรรค์ เส้นด้านล่างแทบด้วย ดิน, ปฐพี, โลก, ด้านล่าง เส้นแนวตั้งตรงกลางเชื่อมโยงฟ้า — ดิน มีคนประกบซ้ายขวาทำหน้าที่เชื่อมฟ้า — ดินนั้น โดย 巫 จะประกอบขึ้นมาจาก ตัวอักษร 工 (gōng, กง) — งาน, ภาระกิจ, การงาน และประกบซ้ายขวาด้วย 人 (rén, เญิ๋น) — คน, มนุษย์

ดังนั้นความหมาย ของ 巫 คือ

巫 คือ “ผู้ที่มีหน้าที่เชื่อมฟ้า — ดิน”

อักษร 巫 — อู

ในประเทศญี่ปุ่น จะเรียก ผู้หญิงที่นำหน้าที่นี้ว่า “มิโกะ 巫女” (女 = ผู้หญิง) หรือ ใครเคยได้อ่านการ์ตูน เรื่อง 3x3 Eyes จะเห็นว่าพระเอกเป็น “อู” ซึ่งมีหน้าที่รับใช้ตามบัญชาจากเทพ

มิโกะ หรือ อูเพศหญิง ของญี่ปุ่น

ในอดีต “อู” จะมีความสำคัญ และ ได้รับการนับถือเป็นอย่างมาก การดำเนินการที่สำคัญของประเทศ และ กษัตริย์ ล้วนแต่ต้องมีการปรึกษา อู ก่อนทั้งนั้น รวมถึงพิธีการประจำปี หรือ ตามเฉพาะการณ์ต่าง ๆ เช่น การขอฝน ก็จะดำเนินการโดย อู ซึ่ง อู จะเป็นผู้ที่รอบรู้และเข้าใจพลังงานในโลกนี้ โดยศาสตร์ที่เกี่ยวพลังงานและสุขภาพ รวมถึงเต๋า ทั้งหมดล้วนมีจุดกำเนิดมาจาก อู ทั้งสิ้น

ในอดีต อู จะแบ่งเป็น 2 ประเทศหลัก ๆ ตามเพศ คือ ชาย หญิง

อู เพศหญิง จะทำหน้าที่เกี่ยวกับหยิน หรือ พลังงานที่เกี่ยวข้องกับโลกเป็นหลัก เช่น การทำพิธีประจำปี การขอฝน การพยากรณ์ การรักษา

อู เพศชาย ในอักษรโบราณ จะเขียน ต่างจาก อู ปกติ นิดหน่อย โดยการเพิ่ม อักษร 見 (jiàn, เจี้ยน) — มองดู, เห็น, พบ, ตาทิพย์ เข้าไปที่ด้านขวา กลายเป็น 覡 (xí, ซี๋) — อูเพศชาย, พ่อมด ซึ่งอูเพศชาย หรือ ซี๋ จะมีความรับผิดชอบไปอีกส่วน คือ เน้นไปที่พิธี บูชายันต์, อัญเชิญ, ปราบภูติผี ปีศาจ

อักษร 覡 — อูเพศชาย

นอกจากนี้ คำว่า หมอ, แพทย์ ในสมัยโบราณยังใช้คำว่า 毉 (yì, อี้) ที่เกิดจาก ด้านบน 殹 (yì, อี้) — คนป่วยร้องคร่ำครวญเพราะโดนอาวุธและธนู กับ ด้านล่าง巫 อีกด้วย แสดงให้เห็นถึงหน้าที่หลักอีกอย่างหนึ่งของ อู คือการรักษาการบาดเจ็บ ก่อนจะเปลี่ยนด้านล่างมาเป็น酉 (yǒu, โหฺย๋ว) ทำให้กลายเป็น 醫 (yī, อี) — หมอ, แพทย์ อย่างในปัจจุบัน

อักษรของคำว่า “หมอ”

จากหลักฐานที่ปรากฎในช่วงสมัยราชวงศ์โจว (ประมาณ 3,000 ปีก่อน, 1123–256 ปีก่อนคริสต์ศักราช) หน้าที่ของ อู คือ

ในเบื่องต้น อาจจะดูเหมือน ว่าแต่ละส่วนไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกัน แต่คนจีนจะมีความเชื่ออยู่ว่า 天人合一 (tiān rén hé yī, เทียน เญิ๋น เฮ๋อ อี) — ฟ้าคนเป็นหนึ่งเดียว ทำให้เมื่อเข้าถึงฟ้า — ดิน หรือเข้าใจกฎฟ้า — ดิน เมื่อไหร่ ก็จะทำให้เข้าใจส่วนที่เหลือไม่ยากมากนัก

เราจึงเห็นได้ว่า ผู้ที่มีความชำนาญ จะเห็นความเชื่อมโยงกันทั้งหมด เช่น เมื่อเห็นหน้าเรา (โหวงเฮ้ง) ก็จะบอกได้ว่า ดวงเรามันจะต้องมีอะไร อยู่ตำแหน่งไหน (ไม่ต้องรู้วันเวลาเกิดก็บอกโป๊ยหยี่ของเราได้เลย) บอกได้ไปถึงที่บ้าน ทิศนี้ ตำแหน่งนี้ จะมีลักษณะเป็นอย่างไร มีอะไรอยู่ และรวมไปถึงโรคที่อาจจะเป็น และ เมื่อไหร่ เนื่องจากทุกวิชาเกี่ยวเนื่องกัน

ในการฝึกฝนเป็น อู จึงมักวนเวียนกับเรื่องการฝึกพลังงานและสมาธิ (ฝึกชี่กงและฝึกสมาธิ) เป็นหลัก

ลัทธิเต๋า

แม้แต่ลัทธิเต๋าเองก็ถือกำเนิดมาจากความรู้ของ อู เป็นหลัก (เต๋ากำเนิดเมื่อประมาณ 2,000 ปี) ซึ่งถือเป็นเรื่องดี เนื่องจากทำให้ทฤษฎี และ วิชา ต่าง ๆ ของ อู ได้รับการสืบถอดไม่สูญหาย ภายใต้ลัทธิเต๋า และ ยังได้มีการวิวัฒนาการความรู้ให้มีความก้าวหน้าขึ้นอีกมาก และ แตกแขนงเป็นวิชาอื่น ๆ อีกมาก เช่น แพทย์จีน

อย่างไรก็ดีการที่วิชาเหล่านี้ถูกหลอมรวมเข้ากับสัทธิเต๋า ทำให้ผู้ที่ศึกษาฮวงจุ้ย ดวงจีน และ วิชาจีน อื่น ๆ เสียโอกาสไป เพราะเข้าใจว่าการศึกษาเรื่องเหล่านี้ เป็นการศึกษาลัทธิเต๋า ทั้งที่แท้จริงแล้ว เป็นพื้นฐานที่สำคัญมากของวิชาเหล่านี้

หลักฐานอื่น

หลักฐานที่ขุดค้นพบจาก อู่อารยธรรมจีนโบราณ เช่น แหล่ง เผยหลีกั่ง 裴李崗, หงซาน 紅山, หย่างเสา 仰韶 ซึ่งมีอายุราว 5,000–7,000 ปีก่อนพบว่า อู มีปรากฎในประวัติศาสตร์จีนมามากกว่า 8,000 ปีมาแล้ว โดย อู เป็นบุคคลได้รับความเคารพนับถือเป็นอย่างมาก และยังเชื่อว่า เซียนในตำนาน ฮีโร่ รวมไปถึงจักพรรดิในยุคก่อนประวัติศาสตร์ทั้งหลายล้วนแต่เป็น อู ทั้งสิ้น ซึ่งนัก โบราณคดี ของจีนหลายท่านที่ได้ศึกษาจากหลักฐาน โบราณ ก็พบหลักฐานว่า

แท้จริงแล้วกษัตริย์สมัยโบราณ ก็คือ อู
(อ้างอิงจาก Chang, K.C. Art, Myth, and Ritual: The Path to Political Authority in Ancient China (Cambridge, MA: Harvard University Press, 1983:)

ยังมีหลักฐานอื่นอีกมาก ที่ ศาสตร์โบราณทั้งหมด กำเนิดมาจาก อู เช่น กรณี คัมภีร์อี้จิง 易經 สมัยโบราณ จะมีชื่อเรียกว่า 巫書 (wū shū, อูซู) — หนังสือของอู เนื่องจากเชื่อว่า ความรู้ของอี้จิง นี้ได้รับการถ่ายทอดจากสวรรค์ผ่านทาง อู

ในคัมภีร์อี้จิง ยังมีประเด็นน่าสนใจอีกมาก เช่น ตามต้นกำเนิดแล้ว คัมภีร์อี้จิง จะเป็นเรื่องของ การอธิบาย สิ่งที่ดาวบนฟ้าปรากฎ ไม่ได้เป็นการอธิบายข่วย อย่างที่เราเข้าใจโดยตรง ซึ่งถ้ามีโอกาส จะนำมาเสนอ ในคราวต่อไป

สรุป

เราจะเห็นได้ว่า ถ้าเทียบกับในปัจจุบันแล้ว วิชาที่เราศึกษา จะเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ของ สิ่งที่ อู ได้เรียนรู้สมัยก่อนมาก วิชาที่ต้องมีการฝึกฝน เป็นระยะเวลานาน ก็จะถูกกลืนหายไป ด้วยการอบรม 3–5 วันแบบสมัยใหม่

ทุกวิชาแท้จริงเป็นหนึ่งเดียวกัน คือ การเข้าใจกฎธรรมชาติ เข้าใจจักรวาล เพียงแต่เป็นการเข้าใจในแง่มุมต่าง ๆ ถ้าเข้าใจกฎธรรมชาติ ก็จะเข้าใจวิชาต่าง ๆ ได้ไม่ยาก จึงเป็นการดี ที่เหล่าผู้ที่ศึกษาวิชาต่าง ๆ ของจีน จะเปลี่ยนมุมมองมาเป็นเข้าใจธรรมชาติ เป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ ดังเช่น นักปราชญ์ หรือ อู ในสมัยก่อน

ส่งท้าย

ในโอกาสหน้า จะนำเสนอศาสตร์ของจีนเหล่านี้ ในอีกแง่มุม เช่น กำเนิดของอี้จิงมาจากดวงดาว กำเนิดของราศีบนและราศีล่าง กำเนิดทฤษฎีฮวงจุ้ย แต่ละตัวว่าแท้จริงแล้วกำเนิดมาจากไหน

มีหลายคนส่งข้อความเข้ามาคุยด้วย เนื่องจากเป็นคำถามที่ใกล้เคียงกัน และโดนถามบ่อย ผมเลยถือโอกาสสรุป ตามนี้ครับ

Q: เปิดสอนไหม/เปิดเมื่อไหร่ ?
A: ยังไม่ได้มีความคิดจะเปิดสอนอะไรครับ ถ้าเกิดมีความคิดจะเปิดสอนอะไรจะประกาศในเพจครับ

Q: ฮวงจุ้ยที่ถูกเป็นอย่างไร / ในปัจจุบันมันผิดเหรอ ?
A: ผมเองก็ตอบไม่ได้ แต่ก็ผมเริ่มจากคำถามง่าย ๆ ที่ถามอาจารย์แต่ละท่าน เช่น ทำไมข่วยในผังหลังฟ้า มันต้องเรียงแบบนั้น ? ผมเชื่อว่า ถ้าอาจารย์ท่าไหนอธิบายคำถามง่าย ๆ ที่เป็นพื้นฐานเหล่านี้ได้ ก็น่าจะเข้าใจเรื่องอื่น ๆ แบบแท้งจริงได้

จุดประสงค์หลักในการเขียนบทความเหล่านี้ คือ ผมเสียเวลาไป 20 ปี กับเงินเป็นหลักหลายล้าน เพื่อพยายามศึกษาศาสตร์เหล่านี้ เนื่องจากสมัยเริ่มศึกษาตามสำนักต่าง ๆ ที่เปิดสอน ผมก็เกิดสงสัยกับแค่คำถามง่าย ๆ เช่น ผังหลังฟ้าทำไมข่วยมันเป็นแบบนั้น, เลขเหอถู, เลขหล่อซู มาจากไหน ทำไมมันต้องเรียงแบบนั้น ซึ่งผมก็ใช้เวลาไป 20 ปีกว่าจะหาคำตอบได้จากปรมจารย์ท่านต่าง ๆ

ถึงจุดหนึ่งที่พอเริ่มเข้าใจ ก็คิดขึ้นมาได้ว่า ถ้ามันมีคนมาเขียนอธิบายไว้ก็ดี ผมจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไป 20 ปี กับเงินอีกหลักล้านบาท เมื่อคิดได้ดังนั้น เมื่อไม่มีใครเขียนมาก่อน ผมก็เลย เริ่มเขียนเองเลย เผื่อชาติหน้าเกิดมาใหม่ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปตามหาอีกรอบ ครับ.

ขอทุกท่านได้รับประโยชน์จากบทความเหล่านี้

ถ้าสนใจติดตาม บทความอื่น ๆ สามารถไปกด Like ได้ที่ Facebook
https://www.facebook.com/QiMenAlchemy/

Credit ภาพบนประกอบ Cover จาก
https://newearthparadigm.wordpress.com/2014/01/01/welcome-2014-the-year-that-heaven-and-earth-meet/

--

--