การมีความสุขคือกุญแจสู่ความสำเร็จ! จงออกแบบชีวิตของตัวเองซะ!

Adisak Chaiyakul
2 min readJan 18, 2019

--

การมีความสุขนั้นจะทำให้เราประสบความสำเร็จได้อย่างไรเล่า?

ความสำเร็จ กับความสุข คุณคิดว่าสองคำนี้มันเป็นเรื่องเดียวกันหรือไม่?

แล้วสำหรับคุณ ความสำเร็จกับความสุข สิ่งใดสำคัญกว่ากัน?

…และนี่คือทั้งหมดของสิ่งที่คุณกำลังจะได้อ่านต่อไปนี้

เรามาเริ่มกันที่ความสุข ซึ่งขอแบ่งเป็นความสุขระยะสั้นและความสุขระยะยาวแบบย่อๆกัน

ความสุขระยะสั้น ซึ่งก็คือความรู้สึกประจำวันที่เรารู้สึกกันทั่วไป เช่นการได้กินอาหาร การได้สังสรรค์กับเพื่อน การได้ทำกิจกรรมผ่อนคลายทั่วๆไปเช่นเล่นเกมส์ หรือแม้แต่การแค่ได้กินน้ำเปล่าๆเมื่อตอนที่เราเหนื่อยจากการออกกำลังกาย

ความสุขระยะยาว นั้นก็คือความพึงพอใจในการใช้ชีวิต ซึ่งหลักๆจะผูกติดอยู่กับเรื่องความสัมพันธ์ หน้าที่การงาน การเงิน สุขภาพ และการบรรลุเป้าหมายของชีวิต ยกตัวอย่างเช่น การมีคู่ครองที่ดี การได้ทำงานที่เรารัก การมีสุขภาพดี การได้ทำตามเป้าหมายของชีวิต เช่นบางคนอยากจะเห็นแสงเหนือซักครั้งในชีวิต หรือแม้แต่เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นก็ตาม

แล้วความสำเร็จเล่าคืออะไรกันแน่แล้วมันเกี่ยวกับความสุขยังไง?

ซึ่งคำถามนี้คงตอบไม่ยากเลยใช่มั๊ยเพราะเราก็มักจะคิดว่า ถ้าเราประสบความสำเร็จเราก็จะมีความสุขไง! ใช่แล้ว เราขอพูดง่ายๆว่าความสำเร็จคือการได้บรรลุเป้าหมายของชีวิตก็คงไม่ผิดนัก แต่ปัญหามันอยู่นี้นี่แหละ เราจะรู้และมั่นใจได้อย่างไรเล่า ว่าสิ่งนี้คือเป้าหมายของชีวิตเราจริงๆ เพราะบางคนไม่สามารถหาเป้าหมายของชีวิตได้ บางคนอาจรู้แต่ก็เมินเฉยมันไปและเห็นเป็นเรื่องไร้สาระ และบางคนได้นำเป้าหมายชีวิตของคนอื่นมาเป็นเป้าหมายของชีวิตเราเอง

เพราะฉะนั้นถ้าหากคุณเป็น “หมอ” แล้วคนรอบข้างบอกคุณว่า คุณเป็นคนที่ประสบความสำเร็จมากเพราะคุณเป็นหมอ เป็นอาชีพที่มีเกียรติและได้ช่วยชีวิตคน แต่หากคุณไม่ชอบเห็นเลือด เห็นการสูญเสีย ทุกๆวัน คุณจะคิดว่าตัวเองประสบความสำเร็จอยู่มั๊ย เพราะว่าสิ่งนี้มันไม่ใช่เป้าหมายของชีวิตคุณจริงๆ แต่ความสำเร็จนั้นคือการได้ทำตามเป้าหมายของชีวิตต่างหาก

แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าสิ่งนี้คือเป้าหมายของชีวิตจริงๆหรือป่าว?

หากเราลองสังเกตในตอนเช้าว่าเราอยากตื่นออกไปทำงานหรือไม่ ถ้าคำตอบนั้นคือไม่ นั้นอาจหมายถึงมีบางอย่างผิดไป

ดั่งคำพูดที่ว่า

“If you don’t design your own life plan, chances are you’ll fall into someone else’s plan. And guess what they have planned for you? Not much.” — Jim Rohn.

“ถ้าหากคุณไม่ออกแบบแผนสำหรับชีวิตของคุณเอง ก็คงต้องตกอยู่ในแผนของคนอื่น แล้วคุณคิดว่าคนอื่นเขาเตรียมอะไรไว้ให้คุณ? มันไม่มีอะไรมากมายรอคุณอยู่หรอก” — Jim Rohn.

เพราะฉะนั้นอย่าไปเป็นส่วนหนึ่งของแผนการชีวิตคนอื่น หากสิ่งนั้นไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องการที่จะทำมันจริงๆ

เรามาออกแบบชีวิตของตัวเองกันเถอะ!

เพราะการได้ทำตามเป้าหมายของชีวิตที่แท้จริงนั้นย่อมทำให้คุณมีความสุข ถึงแม้คุณจะยังไม่บรรลุเป้าหมายของคุณเอง แต่อย่างน้อย คุณก็คงไม่ต้องมาถามตัวเองว่าทำไมฉันต้องตื่นมาทำงานบ้าๆนี้ด้วย

แล้วการทำสิ่งที่เรารักนี่มันจะช่วยให้เราประสบความสำเร็จได้จริงหรือ?

การทำตามเป้าหมายของชีวิตนั้นยากและท้าทายเสมอ จนมันอาจทำให้เรารู้สึกว่า การทำตามที่คนอื่นบอก แล้วก็ประสบความสำเร็จอย่างที่คนอื่นบอกมันไม่ง่ายกว่าหรอ เพราะใครๆเขาก็ทำกัน

หากคุณไม่ได้ทำสิ่งที่คุณรักแล้วคุณจะทำมันออกมาได้ดีได้อย่างไร ถ้าคุณต้องทำงานที่คุณไม่ชอบทุกวัน เครียดทุกครั้งที่ต้องมีการประชุม นั่งนับเวลารอเลิกงาน กลับบ้านคุณก็พร้อมที่จะทิ้งทุกอย่างแล้วก็พักผ่อนหรือไม่ก็ไปหาความสุขช่วงสั้นๆ คุณคิดว่าคุณจะเอาชนะคนที่เค้าสนุกกับการทำงาน พูดคุยอย่างออกรสตอนเข้าประชุม ทำงานล่วงเวลาโดยไม่มีใครสั่ง กลับบ้านก็หาความรู้เพิ่มเติมมาพัฒนาตัวเองเสมอ คุณคิดว่าคุณจะเอาชนะคนเหล่านี้ และกลายเป็นที่สุดในสายงานนั้นๆได้จริงหรือ เพราะฉะนั้นถ้าหากคุณอยากประสบความสำเร็จแล้วหละก็ จงทำสิ่งที่คุณรักเถอะ

ถ้าคุณยังไม่มั่นใจแล้วหละก็ ลองคิดตามนี้นะ หากคุณเข้าไปในร้านอาหารเล็กๆแห่งหนึ่ง ซึ่งเจ้าของร้านออกมารับเมนูช้า พูดจาไม่ดีใส่คุณแล้วก็ลูกน้องของเขา ทำให้บรรยากาศในร้านไม่ดีเลย แต่อาหารอร่อยมาก กับอีกร้านหนึ่งที่เจ้าของร้านพูดจาดี บริการดี และดูแลลูกน้องเป็นอย่างดีทุกคนยิ้มแย้มมีความสุข แต่อาหารอร่อยแต่ไม่เท่าร้านแรก ครั้งต่อไปคุณจะกินร้านไหน?

บ้าบอ…ทำตามเป้าหมายตัวเองแล้วไม่มีข้าวกินฉันไม่ทำหรอก!!!

เราเข้าใจว่าหลายคนต้องคิดแบบนี้แน่นอน การเปลี่ยนแปลงนั้นยากเสมอ และส่วนมากเป้าหมายที่แท้จริงของชีวิตแต่ละคนมักจะยิ่งใหญ่เสมอ ทำให้มันดูยุ่งยากเข้าไปอีก จนทำให้ดูเหมือนว่า เฮ้ยมันเป็นไปไม่ได้ ฟังดูเหมือนเป็นความฝันลมๆแล้งๆ แล้วยิ่งหากเล่าให้คนรอบข้างหรือแม้แต่คนที่เรารักฟังยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่ เพราะสิ่งนั้นมันอาจกระทบกับแผนของคนอื่นที่เขาได้นำคุณเข้าไปอยู่ในแผนโดยไม่รู้ตัวก็เป็นได้

การจะทำตามเป้าหมายที่แท้จริงของเรานั้น ไม่จำเป็นต้องทิ้งทุกอย่างและออกไปตามฝัน เพราะเรานั้นต่างมีหน้าที่ ความรับผิดชอบ และพื้นฐานที่แตกต่างกัน ถ้าหากที่บ้านคุณมีฐานะสามารถทำได้เลยก็ถือว่าโชคดีไป แต่หากเรายังต้องส่งเงินให้คนที่บ้าน ยังมีภาระมากมายที่ต้องดูแล ก็ขอเพียงแค่คุณอย่ายอมแพ้ และย่อท้อเป็นอันขาด เพราะถ้าหากเราอยู่กับเป้าหมายของเรานานพอ เราจะค่อยๆหาทางออกได้ ขอเพียงแค่คุณใช้เวลาที่เหลือในแต่ละวันเริ่มทำสิ่งที่คุณรักโดยไม่มีข้อแม้และไม่คาดหวังใดๆกับมัน คุณจะค่อยๆเดินเข้าใกล้เป้าหมายของคุณทีละก้าวอย่างแน่นอน

เพราะ Wilbur และ Orville Wright นั้นก็ไม่ได้จบการศึกษาสูงและมีเงินมากมายแต่เขาก็สามารถเอาชนะคนที่มีการศึกษาสูงและมีทุนสนับสนุนมากมาย จนสามารถสร้างเครื่องบินได้ครั้งแรก

เพราะ J.K.Rowling ผู้ที่ล้มเหลวในชีวิตแต่งงาน กลายเป็นแม่เลี้ยงเดียว ตกงาน เป็นโรคซึมเศร้าและเคยพยายามฆ่าตัวตาย ถูกปฏิเสธจากสำนักพิมพ์ถึง 12 แห่ง และต้องใช้เวลาหนึ่งปีกว่าที่จะมีสำนักพิมพ์ยอมนำนิยายชื่อ Harry Potter ไปตีพิมพ์จนกลายเป็นนิยายที่โด่งดั่งครองใจคนทั่วโลกได้

เพราะ Colonel Sanders (ผู้ก่อตั้ง KFC) ผู้ที่ใช้โอกาสสุดท้ายของชีวิตนำสูตรไก่ทอดของเขาซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของเพื่อนๆ เดินไปทางเสนอร้านอาหารท้องถิ่น และถูกปฏิเสธ 1009 ครั้ง จนกระทั่งเขาได้ร้านที่สนใจร้านแรก (Kentucky Fried Chicken) จนกลายเป็นแฟรนไชส์ที่โด่งดังที่สุดของโลก

และอีกมากมาย…

เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะจน จะแก่ ไม่มีการศึกษาแค่ไหน สิ่งเหล่านั้นไม่ใช่อุปสรรคของการประสบความสำเร็จเลย จงอย่าให้ใครมาบอกคุณว่า คุณควรจะต้องทำอย่างไรกับชีวิต ไม่ต้องให้ใครมาบอกคุณหรอกว่า คุณประสบความสำเร็จแค่ไหน เพราะสิ่งเหล่านั้นต่างหากเล่าที่ชักจูงคุณให้ออกจากเป้าหมายของชีวิตคุณมากขึ้นไปทุกที

โดยเฉพาะวัยหนุ่มสาว ถ้าหากมีคนมาบอกคุณว่า เป้าหมายของคุณมันเป็นไปไม่ได้ แล้วหละก็ จงตอบตัวเองว่า

“ถ้าหากวัยหนุ่มสาวไม่สามารถที่จะฝันถึงเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ได้ ถ้าเช่นนั้นแล้วจะมีวัยใดสมควรอีกเล่า”

สุดท้ายนี้เราขอปิดท้ายด้วยคำพูดที่ว่า

“Success is not the key to happiness. Happiness is the key to success. If you love what you are doing, you will be successful.” Albert Schweitzer.

“ความสำเร็จไม่ใช่กุญแจสู่ความสุข ความสุขต่างหากคือกุญแจสู่ความสำเร็จ ถ้าคุณรักสิ่งที่คุณทำ คุณจะประสบความสำเร็จ” Albert Schweitzer.

จบแล้ว… 555

ขออนุญาติแนะนำหนังสือหนึ่งเล่ม ชื่อ The Alchemist เป็นเรื่องเกี่ยวกับการล่าฝันและพลังของจักรวาล เป็นนิยายสั้นๆและอ่านสนุกมาก

* บทความนี้ตั้งใจเขียนเพื่อเป็นกำลังใจให้กับคนที่กำลังทำตามความฝัน ผู้กำลังเหน็ดเหนื่อยกับแรงเสียดทานรอบข้างเหลือเกิน อย่างน้อยขอให้บทความนี้เป็นกำลังใจให้คุณด้วยเถิด

** บทความนี้ล้วนเป็นความคิดเห็นและทัศนคติส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้น มีเจตนาเพียงเพื่อเสนออีกมุมมองหนึ่งต่อผู้อ่าน

*** ความรู้การใช้ภาษาไทยอาจจะบกพร่องไปบ้าง ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

--

--