Agile Thailand 2018 #ScrumTheme

Antira Laochote
2 min readSep 2, 2018

--

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา พวกเราไปเข้าร่วมงาน Agile Thailand มาค่ะ

ได้เจอผู้คนสาย Tech หลากหลาย role มากค่ะ ไม่ว่าจะเป็น Business role, UX/UI , QA, Agile Coach, Dev และเป็นผู้คนจากองค์กรที่หลากหลายตั้งแต่ Statup ไปจนถึง Enterpire ค่ะ

โดยงานช่วงเช้าทุกคนจะได้โหวต Theme เรื่องที่ทุกคนสนใจที่เกี่ยวกับ Agile ค่ะ แล้วต่อมาแบ่งกลุ่มตาม Theme ใครสนใจเรื่องไหนก็เข้าร่วมเรื่องนั้นค่ะ สามารถสับเปลี่ยนได้ตลอดทั้งวันค่ะ

เราได้เข้าไป join กับ Theme scrum ค่ะ

โดยเริ่มคนที่เป็น Facilitator จะให้ทุกคนเขียน Topic ตาม Theme แล้ว vote หัวข้อที่จะคุยกันค่ะ ซึ่งกลุ่มเรา ได้หัวข้อดังนี้

  • Scrum คืออะไร
  • Role ต่างๆในวง Scrum มีอะไรบ้าง แล้ว PM แตกต่างจาก Scrum master ยังไง
  • วิธีการรับมือกับ Water fall scrum

สำหรับกลุ่มเราช่วงเช้าเป็นการพูดคุยตามหัวข้อตามด้านบนค่ะ แต่ช่วงบ่ายมีโค้ชพี่หนุ่ม(Agile Coach) มาช่วยอธิบาย Process การทำ software ให้ทุกคนเข้าใจและเห็นภาพมาขึ้นค่ะ

โดยเริ่มจาก process การพัฒนา software นึงขึ้นมา *แบบไม่ใช้ Scrum* โดยที่ทุกคนมีส่วนร่วมเขียน role และวิธีการทำงานแบบต่างๆที่ทุกคนเป็นอยู่ค่ะ และโค้ชพูดเชื่อมโยงไปว่า.. ถ้าใน scrum เราเรียกสิ่งนี้ว่าแบบนี้นะ

สำหรับเราเป็น developer ปกติทำงานแบบ scrum อยู่แล้ว ทำให้เราเข้าใจเหตุผลของการทำสิ่งต่างๆในการพัฒนา software มากขึ้น ขอบคุณโค้ชและทีมผู้จัดมากค่ะ

ความรู้ใหม่วันนี้คือ..

ได้รู้ว่าผลลัพธ์ที่ success ของ Scrum master คือ..

ทุกคนในทีมสามารถ self-management ได้

self-management สำหรับทีม development หมายถึง.. (จำได้หลักๆ คราวๆนะคะ)

  • คุณสามารถนำ Requirement จากกระดาษเปลี่ยนเป็นงานระดับ Tasks ได้
  • คุณสามารถ commit กับ PO ว่าจะทำสิ่งนี้เสร็จนะ
  • คุณต้องมี Monitor และ Manage แบ่งเป็น 2 แบบคือ Progress กับ Process

ในการทำงานทุกๆวันของทีม Development คือการนำ Cost ที่ลงทุนมาใช้

  • เทียบ 2 การ์ด ใน Product Backlog คือ Cost ที่ลงทุนไป 500 บาท
  • ทีม Dev นำสองการ์ดนั้นมา implement โดยแตกเป็น Task ย่อยๆ 10 Task เปรียบเหมือน เรากำลังใช้ Cost อยู่ Task ละ 50 บาท
  • ถ้าใน 1 Sprint เราทำทั้ง 10 Task ไม่เสร็จ หมายความว่า “ทีมของเรากำลังขาดทุน”
  • ทำให้รู้ว่า Sprint ปิด (Goal สำเร็จ) นั้นสำคัญต่อการสร้าง Product เพราะ PO วางแผนมาดีแล้วค่ะว่า ถ้า Goal สำเร็จจะสร้าง Value ให้ Product ของเรา
  • ระยะเวลา 1 Sprint คือรวมถึงการ Meeting ต่างๆด้วย เวลาที่เราเสียไป = เรากำลังใช้ cost ด้วยน้าาา

แวะมาแบ่งปันหนึ่งประสบการณ์และความรู้ที่ได้เข้าร่วมงาน Agile Thailand 2018 ค่ะ

หวังว่า..​ทุกคนจะเข้าใจการพัฒนา Software มากขึ้นและอิน เอ้ยสนุกขึ้นค่ะ :D

อันปันเอง :P

--

--

Antira Laochote

Frontend Adventurer @ProntoTools 💕, Software Engineer @Simplesat