ค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียไปเมื่อน้ำไม่ร้อนในธุรกิจโรงแรม

“you don’t really know this when the things is right, you know when the thing is wrong”

คำพูดนี้สามารถใช้ได้กับระบบน้ำร้อนได้ดี คือ เราไม่รู้หรอกว่าระบบน้ำร้อนมันใช้ได้ดีอยู่รึเปล่า แต่เราจะรู้ก็ต่อเมื่อมันผิดปกติแล้ว และการที่ระบบน้ำร้อนผิดปกติตอนที่เรารู้มักจะสายเกินไปเสียแล้ว ซึ่งแน่นอนถ้าเป็นธุรกิจโรงแรมสิ่งที่ตามมาก็คือความไม่พอใจของแขกที่เข้าพัก และก็จะตามมาด้วยคำวิจารณ์ต่างๆ (หรือด่านั่นเอง) จวบจนถึงต้องเสียค่าใช้จ่ายต่างๆเพื่อชดเชยให้แก่ผู้เข้าพัก ซึ่งเป็นสิ่งที่โรงแรมต่างๆไม่อยากจะพบเจอ (ไม่ว่าจะเป็นระบบอื่นๆด้วยเช่นกัน)

เพราะจริงๆแล้วน้ำร้อนเป็นสิ่งที่ลูกค้าที่เข้าพักสัมผัสได้โดยตรงเพราะเป็นความสะดวกสะบายพื้นฐานเช่นเดียวกับแอร์ในห้องพักที่เย็นฉ่ำหรือเตียงนอนอันแสนนุ่มมากเสียกว่าบรรยากาศของห้องหรือสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆด้วยซ้ำ ซึ่งผมว่าหลายๆคนที่ไปพักโรงแรมคงมีเจอกันบ้าง ไม่ว่าจะน้ำร้อนกว่าจะร้อนใช้เวลานาน หรือบางทีก็ร้อนบ้างเย็นบ้างวูบไปวูบมา บางทีใช้ๆอยู่น้ำร้อนไม่ร้อนแล้วก็มี แล้วจริงๆปัญหามันคืออะไรที่ทำให้เกิดสิ่งเหล่านั้นกับระบบน้ำร้อน ซึ่งเป็นเรื่องน่าปวดหัวและจุกจิกมากสำหรับโรงแรมนั้นๆ

จากประสบการณ์การทำงานกับโรงแรมมากว่า 15 ปี ทั้งโรงแรมขนาดเล็กถึงขนาดใหญ่ หรือจะเป็นโรงแรมห้องคืนละร้อยกว่าบาทถึงเกินหลักแสน ระบบน้ำร้อนดูเหมือนจะเป็นระบบที่ไม่ค่อยได้รับความสำคัญซักเท่าไหร่ในการลงทุน ยกตัวอย่างเช่น กว่าจะได้ตกลงติดตั้งระบบน้ำร้อนบางครั้งโรงแรมจะเปิดอยู่แล้วยังไม่รู้เลยว่าจะใช้ระบบอะไร หรือคิดอะไรไม่ออกก็ติดเครื่องทำน้ำอุ่น-ร้อนไฟฟ้าแบบติดผนังเนี่ยแหละง่ายดี

แต่ไม่ว่าจะเป็นระบบเล็กๆอย่างเครื่องทำน้ำอุ่น-ร้อนไฟฟ้าแบบร้อนผ่าน, หม้อต้มน้ำร้อน หรือระบบศูนย์รวมขนาดใหญ่ มีส่วนประกอบหลักหลายส่วนที่ทำให้เกินปัญหาไม่ว่าจะเป็น ออกแบบระบบไม่ดีแต่แรก, เลือกใช้อุปกรณ์ประสิทธิภาพต่ำ, สภาวะการใช้งานหนัก, ขาดการดูแลรักษาที่ดี จริงๆเงื่อนไขพวกนี้เองเป็นปัจจัยพื้นฐานของระบบต่างๆไม่เพียงแค่เฉพาะกับระบบน้ำร้อน

แต่ไม่ว่าจะเกิดจากอะไรก็ตาม ผลกระทบโดยตรงกับที่โรงแรมจะต้องเจอคือความไม่พอใจของลูกค้าซึ่งก็ต้องตามมาด้วย มูลค่าส่วนลดห้องพัก, บัตรกำนัลต่างๆ, หรือต้องวุ่นวายสลับเปลี่ยนห้องพักให้แขก แล้วลองนึกภาพว่าเป็นระบบน้ำร้อนศูนย์รวมจ่ายน้ำร้อนทั้งโรงแรมเกิดมีปัญหาจะเปลี่ยนห้องให้ลูกค้าได้อย่างไร หรือพูดง่ายๆก็คือเสียเงินฟรีๆนั่นเอง

แน่นอนว่าผู้ใช้งานอย่างเราๆเวลาไปพักผ่อนโรงแรมนั้นๆเราไม่รู้หรอกว่าระบบน้ำร้อนเป็นอย่างไร แต่คนที่จะรู้ดีคงจะเป็นแผนกวิศวกรรม หรือช่างของโรงแรมนั้นเอง ซึ่งโดยปกตินั้นการที่ระบบน้ำร้อนไม่มีปัญหา ทางผู้รับผิดชอบเองก็อาจจะไม่ได้ไปตรวจสอบระบบอย่างละเอียดว่าระบบน้ำร้อนยังดีอยู่หรือไม่ นอกจากโรงแรมที่มีการวางแผนบำรุงรักษาเป็นอย่างดี

แน่นอนว่ายิ่งระบบมีปัญหาในขณะที่โรงแรมไม่สามารถปิดบริการได้นั้น ทางช่างเองก็ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ที่ชำรุดทันที หรือเสริมฮีตเตอร์ไฟฟ้าเพื่อให้ทำน้ำร้อนได้ และเมื่อการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแบบนี้ก็จะทำให้ใช้งานได้เพียงครั้งคราวก็ต้องเปลี่ยนใหม่เรื่อยๆ และแน่นอนสิ่งที่ตามมาคือค่าไฟฟ้าอันหลีกเลี่ยงไม่ได้ ยิ่งบางครั้งมีปัญหามากๆเพื่อความอุ่นใจก็อาจจะต้องเปิดฮีตเตอร์ไฟฟ้าสำรองให้ร้อนมากๆไว้ตลอดเวลา ซึ่งบางครั้งไม่ทราบเลยว่าค่าไฟฟ้าอันมหาศาลถูกเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ โดยเฉพาะระบบน้ำร้อนแบบศูนย์รวมที่ตั้งเครื่องไว้บนดาดฟ้า หรือใต้ดินที่เข้าไปตรวจสอบและดูแลรักษายาก

สรุปได้ว่าแค่น้ำไม่ร้อนก็ทำให้โรงแรมเสียค่าใช้จ่ายมากมาย ยังไม่รวมถึงการที่แขกเข้าพักไปรีวิวและพูดถึงในเว็บไซต์ต่างๆ ที่จะส่งผลเสียหายกับโรงแรมในอนาคตครับ

ฮีตเตอร์ไฟฟ้าที่ต้องติดตั้งเพิ่มเพื่อแก้ปัญหา (ฝั่งซ้าย) แต่ก็ไม่ได้เป็นการแก้ปัญหาที่ถูกจุดและยังกินไฟเยอะ