Google Pixel XL 2 กับการใช้งาน 7 เดือน ดี-ไม่ดียังไงน้าา

Apisit Chaiyachard
3 min readJul 5, 2018

--

สวัสดีทุกคนนะครับ นี่ก็เป็นครั้งแรกที่ผมได้เริ่มเขียนบล็อคเกี่ยวกับเจ้า Pixel 2 XL หลังจากผ่านการใช้งานมา 7 เดือน ซึ่งก็ต้องบอกได้เลยว่าตื่นเต้นมากๆครับ อาจจะใช้คำที่ไม่ทางการไปบ้างก็ขออภัยกันนะครับ โดยในวันนี้ผมก็จะพาทุกๆคนไปสวมวิญญาณความเป็นเจ้าของ Smart phone pure Android จาก Google ที่ต้องบอกว่า เพรี้ยว เพรียวววววว

Design

ในเรื่องการ Design ของเจ้าตัว Pixel 2 XL ตัวหน้าจอผมยังไม่ประทับใจเท่าไร ด้วยขอบดำที่หนาเตอะ แม้ว่าหน้าจอจะเป็น 18:9 แล้วก็ตามก็ขัดๆตา ถึงแม้ว่าด้านหน้าจะไม่ยินดีปรีดาด้วยสักเท่าไร ฮ่าๆ

Front Pixel 2 XL

แต่ด้านหลังส่วนตัวแล้วบอกเลยว่า ชอบม๊ากกกก ทั้งด้วยความเป็นสี Panda 2 Tone ที่ไม่เหมือนใคร และเจ้าตัว Body ยังเป็นโลหะที่ถูกเคลือบที่จับแล้ว Feeling Good มากๆ อีกทั้งยังเกิดรอยนิ้วมือได้ยากมาก แต่ถ้าใส่เคสระวังไม่สวยน้าาา

Rear Pixel 2 XL

PPP เอ้ย !!! Pure android P Public beta From Oreo

ประสบการณ์ความเป็น Pure android ก็ต้องบอกสั้นๆว่า โล่งๆ คลีนๆ เพราะว่ามันไม่มีอะไรเลยจริงๆ ด้วยการออกแบบ User Interface ที่ผมเองยอมรับว่ามันเข้าใจง่ายในการใช้งาน และลื่นมากๆแม้จะผ่านไป 6 เดือนการใช้งาน

หน้าตา เมื่อปัดตุ่มเล็กๆด้านล่างขึ้น จะแสดง App ที่เปิดอยู่ทั้งหมด

เมื่อแกะกล่อง เราก็จะได้ใช้งาน กับเจ้า Android Oreo และนั้นเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมมาก ทั้งการนำแถบ Google ย้ายลงมาด้านล่าง ซึ่งง่ายต่อการเอื้อมนิ้วกด แถบ Notification ที่แสดงได้น่าอ่านมากและมีประโยชน์ รายการ Setting ที่ถูกจัดอย่างมีหมวดหมู่ และสิ่งที่ผมชอบมากของ Android คือแถบ Navigation Bar หรือเจ้า 3 ปุ่มทางด้านล่างนั่นแหละ ที่สะดวกมากในการ กด Back สลับ Application หรือไม่ว่าจะเป็นการเปิดใช้งาน 2 App พร้อมกันก็ตาม

Navigation bar ซ้าย Android Oreo / ขวา Android P

และแล้วการมาของ Android P Public beta ก็มาหลังจากประกาศในงาน Google IO 2018 ซึ่งผมก็ไม่รอช้า ไปลุยกันเล๊ยยย ซึ่งสิ่งที่เปลี่ยนไปและคนพูดถึงกันก็คือ เจ้าแถบ Navigation Bar นี่แหละ รอบนี้เปลี่ยนเป็นตุ่มเล็กๆ ที่มีคุณสมบัติคล้ายๆกับเจ้า Iphone X แต่ยังคงความเป็นปุ่ม Back ไว้อยู่ ซึ่งส่วนตัวแล้วผมว่ามันก็ใช้ได้เลยเลื่อนสลับแอบอย่างเมามัน และก็ยังมีการแสดงสีสันที่มีมากขึ้นอย่างดุดัน ฉูดฉาดมากๆและมีความโค้งมน ทั้งรายการ Setting ต่างๆ และ Notification

Icon menu setting ที่สีสันช่างแทงตา บาดใจเหลือเกิน

ส่วนการใช้แอพพื้นฐานถือว่าทำได้ดีงามมาก ลื่นๆทั้ง IG Youtube Twitter และ Line เลยจ้าา

ทว่าแต่ Facebook เป็นแอพเดียว ที่ผมว่ามันยังขาดความ Smooth เลื่อนยังติดๆ งึกๆงักๆ อยู่บ้าง ซึ่งเราก็ต้องรอทาง Facebook แก้ไขกันไปแหละจ้าาา

ครึ่งทางแล้วอย่าเพิ่ง เหนื่อยและท้อ นะทุกท่าน Please!

เอาหล่ะ เราไปลุยกันต่อเลยดีกว่า ซึ่งก็ต้องบอกเลยว่าพลาดไม่ได้เลยจริงๆสำหรับความบันเทิงต่างทั้ง เกม และกล้องกัน

AI AI AI AI AI Camera

ต้องบอกเลยว่า ปีนี้เป็น Trend of AI จริงๆ เจอได้ในทุกๆเจ้าตลาด ซึ่งจุดเด่นที่สุดของเจ้า AI ใน Pixel 2 XL ก็คือกล้องโหมด Portrait ที่ถ่ายไปเลย AI เบลอให้เอง มันสุดยอดจริงๆนะ แต่ก็มีบ้างที่มันไม่เบลอให้ โดยเฉพาะในช่วงแรกๆที่ซื้อมา แต่ตอนนี้ 6 เดือนผ่านไป AI มันพลาดน้อยมาก ถ่ายเบลอได้สบายๆ แต่เรื่องกล้องนี้ยังแอบไม่ชอบเรื่องการประมวลผลภาพที่ยังช้า เมื่อเราถ่ายรูปในโหมด HDR ++ อะนะถ่ายเสร็จแล้วต้องรอแม้ว่าจะ 1–2 วิ แต่มันขัดใจอ่าาาา

ซ้ายปกติ ขวาPortrait ซึ่งก็แอบมีไม่เนียนตรงขนดำๆบริเวณคอหลังอยู่บ้าง แต่อภัยกันได้ เจ้าต้องเรียนรู้ต่อไป AI

แต่สิ่งนึงที่ชอบมากคือการถ่าย Paronama ที่ไม่น่าเชื่อว่าเนียนกริบ ไม่รู้ว่าค่ายอื่นเป็นไงตอนนี้ แต่ ณ ตอนนี้ Google Pixel 2 XL ทำให้ผมจากเป็นคนที่ไม่ชอบการถ่าย Paronama เลยตอนนี้ก็เป็นต้องหยิบถ่าย มันเกลี่ยแสง และความต่อเนื่องของภาพได้สุดยอดไปเลยจ้า

โดยรวมแล้วประทับใจจ้าาา หยิบถ่าย หยิบถ่าย ไม่ต้องคิดไรมาก มัน Auto ได้อย่างน่าประทับใจ แต่ถ้าคนชอบโหมด Pro ก็บอกเลยว่าเจ้า Pixel ไม่มีนะจ๊ะ ปรับได้น้อยมาก แต่ภาพจากกล้องเดี่ยวจะทำให้คุณหลงเลย

ถ่ายแบบ Auto ปกติเลยจ้าา

ROV ไหมละคุณณณ

เกมยอดฮิตที่ผมเล่นนั้นคือ ROV ก็ต้องบอกเลยว่า ไม่ประทับใจเท่าที่ควร คือมัน 60 FPS สบายๆนะ แต่การตอบสนองในการทัชของเจ้า Pixel นั้นยังไม่ถูกใจผมมันช้าๆ ไม่ติดนิ้วตามผมเท่าไร รวมถึงในช่วงแรกๆของการอัพเดทปัญหาสำคัญที่ทำให้ผมไม่หยิบเจ้า Pixel มาเล่นเกมเลยก็คือ ทัชเพี้ยน ซึ่งเป็นปัญหาเกี่ยวกับ Multi touch โดยทาง Google กว่าจะอัพเดทแก้ไขปัญหาก็ใช้เวลาถึงเดือน เมษายน เลยทีเดียว จึงทำให้ผมทิ้ง Iphone ไม่ลงจริงๆ ถ้าจะเล่นเกมก็จะหยิบ Iphone มาเล่น มันฟินมากๆ ทั้งตอบสนองไว ลื่นไหล ปรื๊ดปร๊าดกันเลยทีเดียว

ROV ปรับโหมด 60 FPS จะเห็นว่าอยู่แถวๆ 59–61 จ้า

จะจบละจ้า มาสรุปกัน

โดยรวมๆแล้วก็ต้องบอกว่าประทับใจในหลายๆอย่างนะ แม้ว่าจะไม่ได้มีลูกเล่นอะไรมากมาย แต่ด้วยความลื่นไหลที่ Smooth สุดๆ กับ User Interface ของเจ้า Pure Android ที่สบายตา ง่ายๆ มันทำให้การใช้งานในชีวิตประจำวันไม่ติดขัดอะไรเลย แถมหลงรักเอามากๆ แต่ถ้าใครจะซื้อมาเพื่อเล่นเกมจริงๆ ผมว่าข้ามเจ้า Pixel ไปซบ Iphone หรือมือถือ Gaming ซึ่งผมคิดว่ามันให้ประสบการณ์ในการเล่นได้ดีกว่านี้จ้าา ผมก็ขอจบแต่เพียงเท่านี้ครับในครั้งนี้

ขอบคุณทุกๆคนมากครับที่เข้ามาอ่านการเขียนบล็อคครั้งแรกของผม มีอะไรอยากจะเสนอเพิ่มเติมก็ คอมเม้นหรือบอกกันได้เลยตรงๆนะจ๊ะ

ขอบคุณร้าน Mesh สวนหลวงแสควร์มากๆครับ

--

--