เรียนเคมีคลินิกอย่างไรไม่ให้สอบตก หากพูดถึงวิชาที่นักศึกษาเทคนิคการแพทย์แขยงเป็นของขมมากที่สุด คงจะหนีไม่พ้นวิชาเคมีคลินิกที่ทั้งมีเนื้อหาสูตรคำนวณเยอะและยาก การแปลผลการตรวจก็ดูซับซ้อนจนเหมือนจะเป็นเรื่องที่มีแต่เหล่าเทพเท่านั้นที่ทำได้ อย่างไรก็ตาม การที่จะสอบผ่านได้เกรดดีๆ นั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่เกินความสามารถถ้าเรารู้จักวิธี 1. สลับไปสลับมา จากการศึกษาทางประสาทวิทยานั้น เราสามารถแบ่งภาคการทำงานของสมองได้เป็น 2 โหมดคือ 1. โหมดจดจ่อ เป็นโหมดที่ความสนใจของเราพุ่งไปยังเป้าหมายแหล่งเดียว เช่น ตีความแก้โจทย์สมดุลกรดด่าง สมาธินั้นก็เหมือนกระแสไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ แต่ละคนจะมีระยะเวลา “กำลังแบต” ที่สามารถเพ่งสมาธิได้อยู่ระดับหนึ่ง ช่วงที่ดีสุดคือช่วงต้นๆ จากนั้นสมาธิจะเริ่มลดระดับ “แตกซ่าน” และสมองจะไถลเข้าสู่ 2. โหมดผ่อนคลาย ซึ่งเป็นโหมดที่จิตใจไม่โฟกัส ฝันกลางวันล่องลอยอิสระ ช่วงนี้จะเหมือนการชาร์ตแบต ความคิดที่อยู่ในช่วงโหมดนี้มักฟุ้งเป็นจินตนาการเรื่องนั้นเรื่องนี้ เราอาจสังเกตว่าบางครั้งวิธีแก้โจทย์นั้น จู่ๆ ก็ผุดออกมาในช่วงที่กำลังเหมอลอย นั่นเพราะสมองเราจะพยายามแก้โจทย์หรือสิ่งที่เราติดใจอยู่อย่างเงียบๆ โดยที่เราไม่รู้ตัวอยู่นั่นเอง สมองเราจะทำงานได้ทีละโหมดและสามารถสลับโหมดไปมาได้ทั้งวัน เมื่อเราทุ่มสมาธิอ่านหนังสือสักพัก หากเริ่มอ่านโจทย์แล้วไม่เข้าใจว่าโจทย์ถามอะไรกันแน่ นั่นคือสมอง “แบตหมด” ไม่ไหวแล้ว สิ่งที่เราต้องทำคือ การเอาใจออกจากเรื่องนั้นสักพัก ปล่อยสมองให้เข้าสู่โหมดผ่อนคลายเพื่อชาร์ตแบต กิจกรรมที่กระตุ้นโหมดผ่อนคลายอาทิเช่น ออกกำลังกาย อาบน้ำ ฟังเพลง…