ประสบการณ์การฝึกงาน UX Designer โครงการ Internship ของธนาคารกรุงศรี — Part 1

Attachai Sawangwong
2 min readJun 24, 2018

--

ก่อนจะเริ่มอ่านอยากจะบอกว่า…

  • นี่เป็นบทความใน Medium ครั้งแรกของผม ถ้ามันจัดหน้างง หรือเขียนอ่านแล้วไม่เข้าใจอย่างไร ต้องขออภัยด้วยอย่างยิ่งยวดครับ
  • เขียน Title ว่า UX Designer แต่บทความนี้ไม่มีเนื้อหาความรู้อะไรเกี่ยวกับ UX เลยนะ Focus ที่ประสบการณ์ ความเห็นส่วนตัวล้วนๆ

ในบทความนี้จะเป็นการเล่าเรื่องของนักศึกษาชั้นปีที่ 3 คนนึงที่มีความสนใจในเรื่องของ UX/UI โดยที่ไม่ได้เรียนมาตรงสาย(ไม่ตรงเลยซักนิด) คือต้องบอกว่าเรามีความสนใจเว้ย แต่เรายังไม่รู้ว่า เอ๊ะเราควรจะรู้อะไรบ้างนะ อะไรที่มันจำเป็นต่อการทำงานด้านนี้ คือที่มีที่รู้อยู่มันดาดมากๆ (เรียนคณะ ICT สาขาธุรกิจ) แล้วด้วยพรหมลิขิตอันใดไม่รู้ เด็กชายคนนั้นได้ไปฝึกงานกับทีม UX ที่ค่อนข้างใหญ่ (ใหญ่เลยแหละ) ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ผ่านทางโครงการ Internship ของทางธนาคาร

เริ่มงานวันแรก

เริ่มงานวันแรก(4 มิถุนายน) ก็มีการ Orientation กันนิดนึง ก็เด็กใหม่อะ เลยพาเดินดูตึก พาเดินดูโรงอาหาร นู้นนี้นั้น ท้ายวันก็มีการที่พี่ที่คุมเราฝึกงานในแต่ล่ะฝ่ายจะมารับเราไปพูดคุยด้วยประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งตอนนั้นเองที่พี่ๆมา คือมากันเกือบจะครบเลยแหละ

หลังจากวันนั้น ผ่านมาวันนี้ก็ใกล้จะครบเดือนแล้ว แน่นอนอย่างที่เราบอกไว้ตอนแรกว่าเรามีความรู้แบบดาดๆมากๆ การที่มาทำงานจริงในช่วงสัปดาห์แรก ก็อาจจะมีเหวอหน่อย ว่าพี่เขาพูดอะไรกันวะ มันก็ต้องมีการปรับตัวนิดนึงอะจริงมะ แล้วพี่เขาก็จะถามเราด้วยว่าเราอยากเรียนรู้เรื่องอะไรจากการทำงานบ้าง แล้วพี่จะหา Task ตามที่เรา Want มาให้เราทำ ซึ่งเราตอบไปแบบกวาดๆ ว่าอยากรู้ทั้งเรื่องการ Research แล้วก็ส่วนของการทำ Prototype เลย เพราะสิ่งที่เราอยากรู้จริงๆคือ “ต้องรู้อะไรบ้าง และต้องทำอะไรบ้าง” แล้วผลก็ปรากฎออกมาว่า เราแทบจะไม่รู้อะไรเลยเว้ย 55555555555555555555555 คือมีรู้พื้นฐาน แบบรู้แค่จำได้คร่าวๆอะ แต่เราไม่เคยใช้หรือเอามาทำอะไรอ่ะ แต่ก็นี่แหละโอกาสอันดีที่เราจะใช้รู้ได้ใช้มันซะที

เพื่อนร่วมงาน

Photo by P’Folk (พี่ผู้ชายซ้ายมือสุด) อันนี้มีทั้งเพื่อน ทั้งพี่ๆในทีม ซึ่งมีไม่ครบด้วย ยังขาดไปอีก 3–4 คน

สำหรับคนที่สนใจโครงการ หาข้อมูล รีวิวของคนที่เคยเข้าร่วมโครงการนี้ แล้วสนใจว่าเรื่องการพูดคุย การหาเพื่อนเป็นยังไง ตรงส่วนนี้ต้องขอโทษที่แนะนำไม่ได้มากนะครับ คือเราก็คุยกับแค่เพื่อนร่วมงานและคนที่มีโอกาสได้คุยด้วย เลยไม่รู้จะเล่าเรื่องการพบเพื่อนในโครงการยังไงดีอ่ะ

เล่าคร่าวๆหน่อยละกัน(ไม่รู้มีประโยชน์มั้ย) คือทางโครงการเขาก็มีกิจกรรม First Meeting ให้ไปรู้จักเพื่อนๆพี่ๆHRที่ดูแลโครงการ มีกิจกรรม Ice Breaking อะไรพวกนี้ให้เล่นด้วยนะ ซึ่งเราก็จะรู้จักกับหลายๆคนก็ตอนนั้น แล้วบางคนผมก็จำชื่อไม่ได้เลย55555 (ขอโทษค้าบ) อยากจะแนะนำเรื่องทั่วๆไปอ่ะ คือเรื่องของสกิลในการทำความรู้จักกับคนอื่น ถือเป็นสกิลที่สำคัญในการใช้ชีวิตตอนทำงานนะ ถ้ายังไม่มี หรือคิดจะฝึก ก็ต้องฝึกต้องเริ่มตั้งแต่ตอนนี้แล้วล่ะ

อ่ะ นี่ผมจะเล่าถึงเพื่อนในทีม คือนี่เท่าที่นับได้เรามีเพื่อนที่สนิท (สนิทนี่คือคุยด้วยบ่อย) อยู่ 4 คนเอง ซึ่ง 3 จาก 4 เป็นคนที่ทำงานอยู่ในทีมเดียวกัน อีกคนนึงอยู่อีกทีมที่สายงานใกล้เคียงกัน มันก็มีแค่นี้แหละ จะเล่าอะไรได้เยอะวะ อ๋อ บอกลักษณะเพื่อนหน่อยละกันเผื่อเพื่อนมาอ่าน

  • คนแรกเป็นคนอารมณ์ดี กวนประสาท เป็นคนสร้างสีสันให้ทีม ผ่านประสบการณ์การทำงานมาอย่างโชกโชน เป็นคนรักสุขภาพ กลับบ้านไว ไปฟิตเนส
  • คนที่สองเป็นผู้หญิงที่พอเปลี่ยนชุดหรือมัดผมหน่อยก็จะเปลี่ยนเป็นอีกคน เพื่อนจำไม่ได้เลย… เป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเอง กล้าลองผิดลองถูก เป็นโมเดลที่ดีของนศ. ฝึกงาน(ที่ผมก็ยังเป็นไม่ได้)
  • คนที่สาม คนนี้เป็นน้องที่กำลังจะขึ้นปี 1 คือถึงจะบอกว่าปี 1 ก็เถอะ แต่เราวัดความสามารถคนจากอายุไม่ได้หรอกนะเออ มีบางทีขี้มึนไปหน่อย สงสัยน้องจะนอนน้อย ถ้าน้องมาอ่าน ก็อยากจะบอกว่า พักผ่อนบ้างนะครับ
  • คนสุดท้าย รู้จักตอน First Meeting เป็นผู้หญิง ที่ดูภายนอกแล้วเหมือนจะเป็นคนเงียบๆ เหงาๆ นิ่งๆ แต่พอคุยด้วยแล้วก็รู้สึกว่า ที่คิดตอนแรกมันผิด คือนางดูเป็นผู้ใหญ่ที่มาพร้อมกับความเด๋ออ่ะ เป็นเพื่อนร่วมทางกลับบ้านพร้อมกันหลังเลิกเรียน,เลิกงานคนแรกในรอบ 8 ปี เลย(ไม่นับช่วงมหาลัยนะ) กลับบ้านคนเดียวตลอดเลย ฮือๆ

พอๆจบได้ละ ไปหัวข้ออื่นเถอะ

ความรู้สึก

ไฟใน Office ใหม่ สวยดี ชอบ ❤

ถ้าให้พูดสั้นๆเลยคือ “ดี” ถ้าให้พูดยาวกว่านี้ก็ “ดี๊ดี”(ยาวแล้ว?) คือเราไม่ค่อยมีความรู้เรื่องนี้อ่ะมันใช่ แต่คือมันไม่ได้แปลว่าเรายอมแพ้ที่จะเรียนรู้นะ เราก็ไปหาอ่านเอาเอง แล้วการเรียนรู้ที่นี้คือก็มีตั้งแต่การพูดคุยกับพี่ในทีม หาอ่านเอง จนไปถึงการเรียนรู้จากการทำงานจริง

ยกตัวอย่าง ช่วงสัปดาห์ที่สองของการทำงาน นี่ได้ทำ Usability Test เฉยเลยเว้ย คือนี่จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ไม่เคยทำแบบจริงจังมาก่อนเลย มากสุดคือลากคนที่มหาลัยมา ละให้มาช่วยลองเล่น Prototype ละก็นั่งฟังเขาหน่อย แค่นั้น นี่คือจัดหนัก จริงจัง เป้าหมายคืออะไร จดโน๊ตต้องจับพ้อยท์ให้ได้ ผู้ใช้พูดอะไรบลาๆ โอ๊ย แล้วผลออกมาคือ นี่ก็จดได้ไม่ครบเท่าไหร่ แต่ดีที่เพื่อนร่วมงานเก่ง เลยรอดมาได้ 55555555555 เออละหลังจากนั้นก็มาทำ Persona ต่อเลยด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีการทำ IA, Mental Model, Process Flow มีได้ช่วยงานส่วนของการทำ Prototype นิดนึงด้วย

ทั้งหมดที่ทำนี่ ไม่ได้ทำไปเปล่าๆนะ เราได้ช่วยงานพี่เขาจริงๆเลย ไอแบบที่พี่ให้โปรเจค คุณทำมาส่งนะ พี่ตรวจ แต่พี่ไม่ได้เอาไปทำอะไรต่อ ไม่มีแบบนี้ที่นี่ครับ ที่นี่มีแต่ทำงานจริงโว้ยยยย

คือมันเป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆที่ได้เป็นส่วนนึงของงานจริง ได้เห็นขั้นตอนการทำงาน การวางแผน การดำเนินงาน ถึงจะมีบางอย่างที่ยังไม่เข้าใจอยู่บ้าง แต่แม่งดีอ่ะ เป็นบุญของลูกจริงๆ ฮือๆ ถ้าทำงานไม่ดีก็ขอโทษพี่ๆด้วยครับ จะพยายามทำให้ดีขึ้นในอนาคตอันใกล้ครับ

ถึงคนที่สนใจในโครงการ Internship ของธนาคารกรุงศรี

ไม่ได้จะขายของนะครับ คือถ้าคุณมีความคิดแบบว่า อยากทำงานที่ตัวเองสนใจ อยากเห็นว่างานจริงๆมันเป็นยังไง ลองสมัครดูเถอะ ติดไม่ติดช่างมัน อย่างน้อยคุณก็ได้ลอง ได้พยายามอ่ะ แล้วถ้าเกิดโชคดีได้เข้ามาฝึกงานที่นี้จริงๆก็ถือว่าโชคดีโคตรๆ ถ้าคุณอยากได้ประสบการณ์ใหม่ อยากลองทำงาน ได้เห็นสังคม รูปแบบการทำงานของจริง มาที่นี่มีทุกอย่างที่บอกมา และที่นี่ไม่ให้คุณไปถ่ายเอกสารหรือชงกาแฟแน่นอน เพราะพี่เขาซื้อกาแฟกันเอาเอง!!!(ผ่ามมมม)

ถ้าทั้งหมดที่กล่าวมาเมื่อกี้มันคือสิ่งที่คุณคิดไว้อยู่ละก็ ที่นี้จะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่ๆ รายละเอียดของโครงการ หาเอาเองละกันนะ… เขาน่าจะจัดทุกปีแหละ ติดตามข่าวเอา ทางเว็บ เด็กฝึกงาน.com, JobDB อะไรพวกนี่เนอะ

สุดท้าย

หมดละ ไม่รู้จะเขียนอะไรและ ไว้เขียนใน Part 2 ตอนสิ้นเดือนก.ค. ก็หลังจากนี้จะพยายามเรียบเรียงสิ่งที่ได้รู้ ได้เจอ ได้เรียนมาลงใน Medium นี่แหละ อาจจะออกมาเป็นในรูปแบบของการบอกเล่าประสบการณ์ หรือเป็นแนววิชาการ ก็ถ้าสนใจก็รอดูละกัน แต่ถ้าไม่สนใจก็ไม่เป็นไร ผมเอาไว้อ่านคนเดียวก็ได้ 5555555555555555555555

จบละ, สวีดัด

--

--