Cyberbullying | เมื่อ(พวก)คุณเข้ามาเปลี่ยนชีวิตของฉัน
“Cyberbullying” ช่วงหลังๆมานี้เราจะได้ยินคำนี้บ่อยขึ้น หลายๆที่ หลายๆคนอาจจะใช้คำอื่นเช่น Social bullying หรือ Social bully เป็นต้น แต่โดยรวมๆแล้วความหมายของมันก็คือการกลั่นแกล้งกันบนโลกออนไลน์หรือบนSocial Mediaนั่นแหละครับ
Q : ตอนเด็กๆคุณเป็นคนแกล้งหรือคนถูกแกล้งครับ?
ให้คุณลองย้อนกลับไปถามตัวเองในวัยเด็กครับว่าความรู้สึกตอนนั้นเป็นยังไง โดยส่วนตัวผมรับบทเป็นผู้ถูกกระทำครับ ด้วยความว่าตัวเล็ก ข้าวปลาไม่กิน กินแต่ขนม ซึ่งนั่นแหละครับ ความไม่มีพลังมากพอทำให้ถูกเพื่อนๆตัวใหญ่ๆแกล้งเอาบ่อยๆ แต่ก็ยังไม่เคยถึงขนาดชกต่อยหรืออะไรทำนองนั้นนะครับ
Q : แล้วตอนไหนที่คุณถูกเลิกแกล้งครับ?
บางคนอาจจะจนกระทั่งย้ายโรงเรียน ย้ายกลุ่มเพื่อน หรือบางคนอาจจะมีชั้นเชิงสามารถพลิกกลับมาเป็นผู้กลั่นแกล้งเอง อันนี้ก็แล้วแต่สถานการณ์ ส่วนผมกว่าจะถูกเลิกแกล้งก็นู่นนนน ขึ้นม.ปลายเลยครับเพราะตัวเองไปทำคณะกรรมการนักเรียนและได้เป็นรองประธานนักเรียน แต่เกมก็ไม่พลิกถึงขนาดที่ผมกลายมาเป็นผู้คนแกล้งเองนะครับแค่ลดลงบ้าง (ฮา)
“แต่แล้ววันหนึ่งอินเทอร์เน็ตก็เข้ามา หมุนความเลวร้ายซ้ำเติมที่ฉัน “
ขอยืมท่อนหนึ่งของเพลง 「 พายุหมุน 」ของวงโปรดผมอย่าง TheYers มาเกริ่นสักหน่อย … ก็นั่นแหละครับ เมื่อวันหนึ่งการกลั่นแกล้งกันไม่ได้เป็นเรื่องของ2คน แต่เป็นเรื่องของหลายคน(ที่ก็ไม่รู้ว่าเกี่ยวข้องกับคนต้นเรื่องรึเปล่า)
ตอนที่เขียนบทความนี้ผมนึกถึงหนังสั้นของผู้กำกับมากฝีมืออย่างพี่เต๋อ นวพล ที่ทำร่วมกับ Dtac ในโครงการ #STOPCyberBullying หนังสั้นเรื่องนี้ก็อย่างที่ผมเกริ่นไว้ข้างต้นครับ เมื่อวันหนึ่งอินเทอร์เน็ตเข้ามา เรื่องราวเล็กๆที่ทุกคนเห็นว่าเอาไว้แกล้งกันเล่นๆ ขำๆ กลับกลายเป็นจุดเปลี่ยนของใครบางคนที่ยากจะเอากลับคืน หรือแม้กระทั่งเปลี่ยนชีวิตประจำวันของคนๆนึงให้บิดเบี้ยวไปตลอดกาล
** เกร็ดความรู้ ** ที่ไม่รู้ก็ได้ …
ว่ากันว่าในโลกออนไลน์ มีผู้ชายเป็นเกย์มากถึง 95%
.
.
.
.
.
.
.
เพราะโดนเพื่อนแกล้งอัพสเตตัสนี่แหละครับ ยังไงก็ใส่รหัสผ่านให้โทรศัพท์ของคุณด้วยนะครับ
“คนที่โดนล้อเล่นแล้วเห็นเป็นเรื่องตลก ไม่อ่อนไหว ยินดีด้วยครับ” — นะ Polycat
หลังจาก Social media เริ่มบูมในไทย ก็เกิดคำหนึ่งขึ้นมา นั่นก็คือ… “ชาวเน็ต”
น่าจะยังจำกันได้สำหรับกรณีของ นะ — Polycat ที่เคยถูกชาวเน็ตพูดถึงว่าหน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกับหนุ่มเทพพิทักษ์ แอสละ … แล้วมัน Cyberbullying ยังไงล่ะ …
ประเด็นก็คือชาวเน็ตบางส่วนนี่แหละครับ ยังเห็นว่าการล้อเล่น การแซวดาราโดยที่ไม่คิดถึงจิตใจของพวกเขาเพราะคิดว่าพวกเขาคือบุคคลสาธารณะ ย่อมถูกวิพากษ์วิจารณ์ได้ … แต่ใครเป็นคนกำหนดการครับว่าดารา หรือผู้ที่มีชื่อเสียงเราสามารถพูดถึงเขาอะไร ยังไงก็ได้ ซึ่งเราน่าจะลืมกันไปแล้ว ถึงจะเป็นดารา เป็นพวกเขาเหล่านั้นก็เป็นประชาชน เป็นมนุษย์ที่มีความรู้สึกเหมือนกัน บางคนอาจจะบอกว่าไม่คิดอะไรมาก แต่จริงๆแล้วเขาอาจจะคิดมากอยู่ก็ได้ เพราะนั่นกระทบถึงหน้าที่การงานของพวกเขาเลยทีเดียว
“กราบรถกู ”
นี่ก็เป็นอีก 1 ประโยคจากเรื่องราวของ Cyberbullying เช่นเดียวกันครับ
แต่เดี๋ยวก่อน … เรื่องนี้มันเกิดบนท้องถนนนะ ทำไมกลายเป็น Cyberbullying ล่ะ?
เนื้อหาของเรื่องผมขอไม่กล่าวอะไรมากเพราะคาดว่าทุกคนคงทราบกันอยู่แล้วจากทั้งคลิปวิดีโอที่อยู่ใน Social media กันแล้ว …
.
.
.
นี่ไง เจอแล้วว่ามันเกี่ยวกับ Cyberbullying ยังไง
หลังจากที่คลิปถูกอัพบน Social media แน่นอนครับ ชาวเน็ต ขาประจำของเราก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมายเกี่ยวกับสิ่งที่ได้เห็น ถ้อยคำรุนแรงมากมายในนั้นหลั่งไหลเข้ามาเรื่อยๆ และไม่ใช่แค่ที่เดียว แต่คลิปนั้นยังถูกแพร่กระจายไปหลายๆเพจเฟซบุ๊คหรือแม้กระทั่งกลายเป็น #กราบรถกู ใน Twitter และยังขยายไปถึงการแสดงความคิดเห็นด้วยถ้อยคำรุนแรงใน Instagram ของน็อต อัครณัฐ แบบชนิดที่ว่าเลื่อนดูก็ไม่หมดสักที
สิ่งที่ผมกล่าวมาข้างต้นหลายคนอาจจะคิดว่ามันเป็นปกติของโลกใบนี้ ใครทำผิดก็ต้องโดนด่าหรือโดนว่า แน่นอนมันวกกลับไปที่ประเด็นที่ว่าการเป็นดารา เป็นบุคคลสาธารณะ สามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ ผมไม่ได้จะเข้าข้างหรือโจมตีฝ่ายใดๆ เพียงแต่ยกตัวอย่างการเกิด Cyberbullying เท่านั้น
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ผมยกตัวอย่างขึ้นมาเพื่อให้เข้าใจในส่วนของ Cyberbullying แต่ทุกเหตุการณ์จบลงที่ชีวิตของคนคนนึงต้องเปลี่ยนไป อาจจะเพียงนิดเดียวแต่ก็มีไม่น้อยที่เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือไปเลย
โลกออนไลน์ก็คล้ายกับความรู้สึกของคน มีทั้งอ่อนไหว ทั้งแข็งกระด้าง เราอาจจะไม่รู้ตัวว่าที่ทำลงไปมันคือ Cyberbullying แต่จากหลายๆเหตุการณ์อาจจะทำให้ใครหลายคนอาจจะตระหนักได้ถึงผลของมันว่าร้ายแรงมากน้อยแค่ไหน หรือบางคนอาจจะเคยเจอมากับตัวก็ขอให้เป็นบทเรียนที่่สามารถส่งต่อให้กับผู้อื่นได้รับรู้ถึงผลมัน
#STOPCyberBullying