พลังงานของกินในรายการอาหารที่ได้รับความนิยมของอาหารจานด่วน แบรนด์ยักษ์ใหญ่สุดยอดอย่างแบรนด์ M ที่ทุกคนเคยชิน ในขณะนี้เมืองนอกจะมีกฎข้อบังคับให้อาหารที่จัดจำหน่ายทุกประเภทต้องแสดงข้อสรุปเรื่องพลังงานแล้วก็สารอาหารให้ผู้ซื้อรู้ ด้วยเหตุนั้นนับว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนจำเป็นต้องรู้แล้วก็ทำความเข้าใจ นับว่าเป็นคุณประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากผู้ใช้อย่างพวกเราๆมากมาย ซึ่งคนจำนวนมากจะรู้กันดีว่า จำนวนพลังงานและก็ไขมันของของกินในกลุ่มนี้ไม่น้อย

การนำเสนอก็เลยเพื่อเป็นแหล่งข้อมูลพลังงานในของกินเพื่อรู้แล้วก็ปรับจำนวนของกินให้พอเหมาะพอควรกับความปรารถนาได้ รวมทั้งขอย้ำอีกทีว่า ของกินทุกสิ่งทานได้ แต่ว่าจำเป็นต้องรู้จักจำกัดจำนวนพลังงานโดยรวม ว่าตลอดวันทานอะไรไปบ้าง มีความสมดุลกับจำนวนการใช้แรงงานไหม โดยข้อมูลนี้เอามาจาก เว็ปไซด์ของทางแบรนด์ และก็บางรายการอาหารที่ไม่มีการแสดงข้อมูลโภชนาการ จะใช้การกะจำนวนโดยประมาณ

รายการอาหาร จำนวน/ขนาด จำนวนพลังงาน/kcal
ชีสเบอร์เกอร์
1 ชิ้น 300
ดับเบิ้ล ชีสเบอร์เกอร์ 1 ชิ้น 430
ดีลักซ์ชีสเบอร์เกอร์ 1 ชิ้น 320
บิกแมค 1 ชิ้น 530
ซามูไรเบอร์เกอร์หมู 1 ชิ้น 370
แมคฟิช 1 ชิ้น 370
ดับเบิ้ลแมคฟิช 1 ชิ้น 550
แมคไก่ 1 ชิ้น 370
แมคสไปซี่ ชิกเกน เบอร์เกอร์ 1 ชิ้น 510
แมคนักเก็ต 6 ชิ้น 280
10 ชิ้น 470
20 ชิ้น 940
เฟรนช์ฟรายส์ ขนาดเล็ก 230
ขนาดกึ่งกลาง 340
ขนาดใหญ่ 510

ฟาสต์ฟู้ด มีอะไรซ่อนอยู่ข้างในกันแน่?

ฟาสต์ฟู้ด (Fast Food) หรืออาหารทานด่วน เป็นธุรกิจที่แตกสาขาเป็นทวีคุณ เปลี่ยนพฤติกรรมการกินของคนไทยไปโดยสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็น เคนตั๊กกี้ ฟราย ชิกเก้น แมคโดนัลด์ เบอร์เกอร์คิง แดรี่ควีน ฯลฯ เขาได้พัฒนาสูตร เมนู และรสชาติให้เข้ากับลิ้นคนไทย แถมยังหาซื้อง่าย และราคาถูกด้วย

วันนี้ผมจะพามาดูว่า นอกจากจำนวนแคลอรี่ที่ทำให้ผู้คนหวาดผวาความอ้วนแล้ว มันมีส่วนประกอบ/วัตถุดิบอะไรบ้าง ที่อยู่ข้างในเมนูฟาสต์ฟู้ดตามร้านอาหารชั้นนำในประเทศ

ฟาสต์ฟู้ด (Fast Food) มีอะไรอยู่ข้างในกันแน่?

เฟรนช์ ฟราย (French Fries)

คุณอาจจะตกใจไปเลย เมื่อรู้ว่าเฟรนช์ฟรายที่แสนอร่อยนั้น ไม่ใช่มันทอดโรยเกลือธรรมดาๆ แต่มันยังมีอย่างอื่นซ่อนอยู่ด้วย เมนูมันฝรั่งทอดธรรมดาๆนี้มีส่วนผสมอื่นๆซ่อนอยู่อย่างน้อย 15 รายการ เช่น น้ำตาล สีผสมอาหาร (Artificial Colouring) สารกันบูด เช่น โซเดียมแอซิด ไพโรฟอสเฟต (Sodium Acid Pyrophosphate) และ TBHQ (Tertiary Butylhydroquinone) สารกันบูด 2 ชนิดที่ผมยกตัวอย่างมานี้ ถ้ารับประทานเข้าไปมากๆ จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อการมองเห็น

แฮมเบอร์เกอร์ (Hamburger)

แฮมเบอร์เกอร์ เมนูง่ายๆที่เหมือนจะมีแค่ ขนมปัง ผักสลัด ซอส และเนื้อบด วันนี้ขอมาแฉว่า เนื้อบดที่อยู่ในเบอร์เกอร์นั้นจะปนเปื้อนฮอร์โมนเร่งโต (Growth Hormone) และยาปฏิชีวนะ (Antibiotics) ที่จะเข้าไปสะสมในร่างกาย อีกอย่าง ปริมาณพลังงานแคลอรี่ที่ทางร้านอาหาร Fast Food เขาสำแดง ส่วนใหญ่จะต่ำกว่าความเป็นจริง

น้ำอัดลม (Soda)

น้ำอัดลมที่มาพร้อมเซ็ตเมนู มันก็คือชนิดเดียวกันที่เราหาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อนั่นแหละครับ แต่ราคาน้ำอัดลมที่ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดแพงมหาโหด น้ำอัดลมขนาดกลาง (30 ออนซ์) มีแคลอรี่มากถึง 300 แคลอรี่ นักวิชาการได้ทำการสำรวจและพบว่า กว่า 90% ของคนส่วนใหญ่ จะดื่มน้ำอัดลมที่สั่งมาจนหมดแก้ว เพราะรสชาติจะเข้ากันกับอาหารนั่นเอง

แซนวิช (Sandwich)

ร้านอาหารทานด่วนบางเจ้า จะโฆษณาว่าเมนูแซนวิชของเขา ดีต่อสุขภาพด้วยการแยกไข่แดงออกไป แต่คอเลสเตอรอลจากไข่แดงไม่ได้ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพเลย ส่วนผสมอื่นๆต่างหากที่เป็นต้นเหตุของโรคอ้วน และปัญหาสุขภาพ

ยกตัวอย่างง่ายๆอย่างไข่ที่ใส่ในแซนวิช ที่ไม่ใช่แค่ไข่ทอดกับน้ำมันเท่านั้น มันยังมีส่วนผสมอื่นๆอีก เช่น

  • แป้งข้าวโพด (Corn Starch)
  • น้ำมันถั่วเหลือง ส่วนใหญ่จะใส่ไฮโดรเจนเพื่อยืดอายุ และป้องกันกลิ่นเหม็นหืน เมื่อโดนความร้อนจะเปลี่ยนเป็น ไขมันทรานส์ (Trans fat) ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
  • MCT (Medium Chain Triglycerides)
  • วัตถุปรุงแต่งกลิ่นสังเคราะห์ ซึ่งไม่ใ่ช่วัตถุดิบที่ได้จากธรรมชาติ
  • กรดซิตริก หรือ กรดมะนาว (Citric Acid) หาร่างกายได้รับในปริมาณที่สูงเกินไป อาจจะมีผลข้างเคียงตามมา เช่น ท้องอืด ท้องร่วง และ คลื่นไส้/อาเจียน
  • แซนแทน กัม (Xanthan Gum) คือสารที่ให้ความหนืด

ไส้กรอกฮอทดอก (Hot Dog)

ฮอทดอก จะมีลักษณะยาว และเล็กกว่าไส้กรอกทั่วไป ส่วนใหญ่จะมีส่วนผสมของเนื้อวัว เนื้อหมู และเนื้อไก่ข้างใน ส่วนคำว่า Dog (หมา) ไม่ได้แปลว่ามันทำมาจากเนื้อหมานะครับ

แต่ฮอทดอกที่ขายในร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดทั่วไป จะเป็นการผสมของชิ้นส่วนต่างๆของเนื้อชนิดนั้น ส่วนผสมอย่างอื่นก็จะมีเกลือ และไขมันอิ่มตัวในปริมาณที่สูงมาก อีกทั้งยังมี ไนเทรต (Nitrate) และสารเคมีที่ใช้ในการถนอมอาหารอื่นๆ ที่เป็นต้นเหตุของโรคเบาหวาน และโรคมะเร็ง

นักเก็ตไก่ (Chicken Nugget)

นักเก็ตไก่ ก็ต้องทำมาจากเนื้อไก่ คลุกกับแป้ง และก็ทอดให้สะเด็ดน้ำมัน แค่นั้นใช่ไหมครับ? จริงๆแล้วยังมีวัตถุดิบอื่นๆ เช่น เนื้อวัว เส้นเอ็น/กระดูก เครื่องใน หนัง ฯลฯ และเมนูนี้ก็มีเกลือ (โซเดียม) และไขมันที่สูงมากด้วย

มิลค์เชค (Milk Shake)

มิลค์เชค เป็นเครื่องดื่มยอดนิยมอันดับต้นๆ ผมไปอ่านข่าว และพบว่า ร้านอาหารทานด่วนยี่ห้อหนึ่ง ออกแบบหลอดดูด สุดไฮเทค ที่ดูดครั้งเดียวได้รสชาติของเครื่องดื่มทุกเลเยอร์ (จะล้ำไปถึงไหน?) ซึ่งผมว่ามันจะเปลี่ยนประสบการณ์การบริโภคไปโดยสิ้นเชิง

เครื่องดื่มมิลค์เชคนี้ ไม่ได้มีแค่นมกับน้ำตาลสูงเท่านั้นนะครับ มันยังมี น้ำเชื่อมข้าวโพดแบบฟรุคโตสสูง (HFCS) สารแต่งสีแต่งกลิ่น และสารกันบูด เช่น โซเดียมเบนโซเอต (Sodium Benzoate)

ซอสราด (Sauce)

ซอสที่ใส่ไปในเมนูอาหาร หรือซอสที่เราราดเองนั้น มีน้ำตาลในปริมาณที่สูงมาก น้ำตาลจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะน้ำตาลมีแต่แคลอรี่ที่สูง แต่ไม่มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์เลย

สรุป

แน่นอนว่า ฟาสต์ฟู้ด ไม่ดีต่อสุขภาพเลย เพราะมีทั้งสารปนเปื้อน ยาปฏิชีวนะ ไขมัน น้ำตาล และวัตถุดิบอื่นๆที่ทำให้น้ำหนักเกิน และก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเราต้องงดฟาสต์ฟู้ดไปเลยตลอดชีวิต ความพอดีต่างหากคือคำตอบ

ถ้าเรากินอาหารฟาสต์ฟู้ดแค่อาทิตย์ละ 1–2 ครั้ง มันจะไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ และไม่ทำให้น้ำหนักเกินได้ เช่นเดียวกันกับ การกินคลีนแค่ 1–2 ครั้งต่ออาทิตย์ ก็ไม่ได้ช่วยให้สุขภาพเราดีขึ้นเหมือนกัน

สิ่งที่เราควรทำคือ ค่อยๆปรับพฤติกรรมการกินให้ ufabet เหมาะกับการใช้ชีวิต และกฏที่ผมมักจะแนะนำคือ 80/20 นั่นคือกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพให้ได้ 80% และอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพแค่ 20%

การลดน้ำหนัก หรือการดูแลสุขภาพทั่วไป เราต้องวางแผนเพื่อนาคตด้วย พยายามหาอาหาร และวิธีออกกำลังกายที่เราทำได้เรื่อยๆแบบถาวรครับ

--

--