โภชนาการเพื่อผิวสวย

สารอาหารที่มีส่วนช่วยสำหรับในการบำรุงผิว
สารอาหารดูเหมือนจะทุกจำพวกล้วนมีส่วนช่วยสำหรับการดูแลรักษาสุขภาพร่างกายผิวทั้งหมดทั้งปวง ด้วยเหตุผลดังกล่าวจะต้องกินอาหารให้ได้รับสารอาหารอย่างสมบูรณ์ โดยหลักก็คือการกินอาหารให้ครบ 5 กลุ่มนั่นเอง ซึ่งสารอาหารสำคัญๆที่มีความหมายต่อผิวก็ได้แก่ วิตามินบีรวม โปรตีน สารต้านอนุมูลอิสระ ธาตุเหล็ก สังกะสี และก็กรดไขมันจำเป็นต้อง ฯลฯ โดยพบว่าแม้ร่างกายขาดสารอาหารกลุ่มนี้ จะก่อให้ผิวผลิตน้ำมันลดลงและก็มีการซ่อมเยื่อผิวน้อยลง ได้ผลให้ผิวขาดความชื้น แห้งแข็งรวมทั้งมองคล้ำเสียได้ แถมยังเสี่ยงที่จะทำให้เป็นโรคผิวหนังได้ง่ายอีกด้วย โดยเหตุนี้ก็เลยไม่สมควรปล่อยปละละเลยการรับประทานอาหารให้ได้รับสารอาหารอย่างสมบูรณ์เด็ดขาด

เหตุที่กระตุ้นให้ผิวเสื่อมก่อนวัย
นอกเหนือจากการขาดสารอาหารจะเป็นต้นเหตุที่ทำให้สุขภาพผิวห่วยแตกลงด้วยแล้ว ก็ยังมีต้นเหตุอื่นๆที่อาจส่งผลให้ผิวเสื่อมก่อนวัยได้อีกด้วย โดยหลักๆเลยก็คือ ควันที่เกิดจากบุหรี่ แดด มลภาวะต่างๆและก็โอโซนนั่นเอง ด้วยเหตุว่าสิ่งพวกนี้เป็นสิ่งที่พวกเราชอบจะต้องเผชิญอยู่เป็นประจำทุกเมื่อเชื่อวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งแดดและก็มลภาวะที่ชอบทำร้ายผิวโดยไม่ทันรู้ตัว โดยสิ่งพวกนี้จะเข้าไปทำลายคอลลาเจนของผิวให้หมดสภาพลง จนกระทั่งทำให้ผิวแห้งหยาบ หย่อนยาน ขาดความยืดหยุ่นและก็มองแก่เร็วท้ายที่สุด ทั้งยังยังมีผลให้ผิวสีคล้ำ ตกกระ เป็นฝ้ารวมทั้งบางทีอาจเป็นโรคมะเร็งผิวหนังได้อีกด้วย

อย่างไรก็ดีโดยธรรมดาแล้วผิวของมนุษย์จะมีกลไกธรรมชาติที่จะปฏิบัติภารกิจสำหรับเพื่อการคุ้มครองปกป้องผิวจากอันตรายต่างๆโดยตรง ซึ่งจะมีซีลีเนียมรวมทั้งสารแอนติออกสิดินแดนต์เป็นตัวช่วยสำหรับเพื่อการกำจัดอนุมูลอิสระแล้วก็ชะลอวัยให้ผิวมองอ่อนวัย เต่งตึงอยู่เป็นประจำนั่นเอง แม้กระนั้นสารกลุ่มนี้ก็ต้องได้รับจากการรับประทานอาหารเหมือนกัน ด้วยเหตุผลดังกล่าวถ้าเกิดรับประทานอาหารที่มีสารกลุ่มนี้น้อยกระทั่งทำให้ขาดก็จะมีผลให้ผิวถูกทำร้ายได้ง่ายท้ายที่สุด

โดยสำหรับสารแอนติออกสิดินแดนต์ที่มีความจำเป็นต่อผิวก็มีหลายประเภทร่วมกัน ยกตัวอย่างเช่น วิตามินอี ซีลีเนียม วิตามินซี เบต้าแคโรทีนแล้วก็แคโรทีนอยด์ ซึ่งจะพบได้บ่อยในผักผลไม้ แล้วก็เพราะว่าร่างกายไม่สามารถที่จะสร้างสารกลุ่มนี้ขึ้นมาเองได้ ก็เลยจำต้องได้รับจากการกินอาหารเป็นหลักนั่นเอง โดยจากการสำรวจพบว่าคนที่รับประทานผักและผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระบ่อยๆมากยิ่งกว่าวันละ 5 จำพวก ชอบมีสุขภาพผิวที่ดีแล้วก็เสื่อมช้าลงกว่าคนอื่นในวัยเดียวกัน และก็ถ้าเกิดทานพร้อมกันไปกับการดูแลรักษาและบำรุงผิวด้วยครีมที่มีไว้สำหรับกันแดดที่มีส่วนประกอบของสารแอนติออกสิดินแดนต์ด้วยแล้ว ก็จะยิ่งคุ้มครองผิวได้อย่างมีคุณภาพมากขึ้นไปอีก

วิตามินที่ต้องต่อร่างกายผิว
วิตามินที่ดีต่อร่างกายผิวมีหลากหลายประเภทร่วมกัน อย่างเช่น

1.เบต้าแคโรทีน
เป็นสารอาหารที่จะแปรไปเป็นวิตามินเอภายในร่างกายแล้วก็ปฏิบัติหน้าที่สำหรับเพื่อการดูแลผิวพรรณโดยตรง โดยจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับผิว ก็เลยสามารถคุ้มครองปกป้องการตำหนิดเชื้อรวมทั้งต่อต้านอนุมูลอิสระที่เป็นตัวการรังแกผิวได้เป็นอย่างดี ทั้งช่วยรักษาสถานการณ์เยื่อบุผิวหนังก็เลยทำให้ผิวมองอ่อนวัยรวมทั้งชะลอการเสื่อมจากการเช็ดกรังควานด้วยเหตุต่างๆดังเช่นว่าแสงอาทิตย์แล้วก็มลภาวะเจริญทีเดียว โดยเหตุนี้การกินอาหารที่มีเบต้าแคโรทีนสูง ก็จะช่วยเพิ่มระดับเบต้าแคโรทีนให้กับร่างกายและก็ลดการเสี่ยงโรคมะเร็งผิวหนังได้อย่างมีคุณภาพที่สุด

ดังนี้ถ้าร่างกายขาดเบต้าแคโรทีนหรือวิตามินเอในระยะยาว ก็จะก่อให้ผิวพรรณมองย่อยสลายลงไปอย่างชัดเจน ได้แก่ กำเนิดผิวคางคกรอบๆไหล่ ต้นแขน คอ ข้างหลัง พุงรวมทั้งต้นขา ฯลฯ และก็ถ้าเกิดได้รับวิตามินเอมากเกินความจำเป็นในช่วงเวลานานก็จะเป็นโทษได้เช่นเดียวกัน โดยจะก่อให้ผิวแห้งแตก มีลักษณะปวดหัว คลื่นไส้ กระดูกงอ ปวดกระดูกและก็ข้อ ซึ่งในบางบุคคลบางทีอาจรุนแรงถึงกับขนาดระบบประสาทถูกทำลายได้อย่างยิ่งจริงๆ ฉะนั้นจำเป็นต้องเสริมเบต้าแคโรทีนหรือวิตามินเอ้อปิ้งเหมาะสม ไม่มากมายและไม่ไม่เพียงพอ ที่สำคัญควรจะเน้นย้ำการเสริมวิตามินเอจากของกินเป็นหลัก เพราะเหตุว่าชอบไม่ค่อยเจอกับปัญหาเกิดขึ้นอย่างกับการเสริมวิตามินเอที่ไม่ใช่ของกินนั่นเอง

ของกินที่เจอเบต้าแคโรทีนสูง อย่างเช่น ผักรวมทั้งผลไม้ที่มีสีเหลืองแล้วก็สีส้มจัด รวมทั้งผักใบเขียวจัดด้วย ตัวอย่างเช่น ตำลึง มะละกอ คะน้า ผักบุ้ง แครอตแล้วก็ฟักทอง ฯลฯ ดังนี้ควรจะรับประทานร่วมกับของกินที่มีไขมันบางส่วนเพื่อมีการดูดซับและก็การสรุปยที่ดีขึ้น โดยพบว่าสำหรับการทานอาหารที่มีเบต้าแคโรทีนแต่ละครั้ง ร่างกายจะสามารถซับถึงที่เหมาะราวๆ 25–27 เปอร์เซ็นต์ ส่วนเบต้าแคโรทีนที่เจอได้ในสัตว์ ก็ชอบมีมากมายในตับ ไข่ น้ำมันตับปลาแล้วก็นมนั่นเอง

2.วิตามินซี
เป็นสารที่จะช่วยชะลอความเหี่ยวย่นของผิวแล้วก็กระตุ้นการผลิตคอลลาเจน เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและก็ทำให้ผิวมองมีความเต่งตึง ไม่หย่อนยานได้ง่าย อีกทั้งเป็นสารแอนติออกสิดินแดนต์ที่ชอบพบมากที่สุดในผิวหนังอีกด้วย แต่วิตามินซีชอบถูกทำลายได้ง่ายด้วยแสงอาทิตย์ ซึ่งการสัมผัสกับแสงอาทิตย์เพียงนิดหน่อยก็สามารถลดจำนวนวิตามินซีได้มากถึงจำนวนร้อยละ 30–55 อย่างยิ่งจริงๆ เพราะฉะนั้นร่างกายก็เลยมีความต้องการวิตามินซีสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่จะต้องปฏิบัติงานที่โล่งแจ้งบ่อยๆ ที่สามารถเสริมวิตามินซีได้จากของกิน สินค้าอาหารเสริมและก็การใช้โลชั่นกันแดดเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้วิตามินซีถูกทำลายมากจนเกินไปนั่นเอง

และก็เว้นแต่วิตามินซีจะเป็นตัวช่วยสำหรับการดูแลผิวพรรณให้มีร่างกายแข็งแรงอยู่เป็นประจำแล้ว ก็ช่วยปกป้องเลือดออกตามไรฟันรวมทั้งเพิ่มความแข็งแรงให้กับเส้นโลหิตอีกด้วย ด้วยเหตุนี้วิตามินซีก็เลยมีความสำคัญเป็นอย่างมากและก็ควรจะเสริมวิตามินซีอย่าให้ขาด เพราะว่าถ้าหากขาดวิตามินซี ผลที่ตามมาก็คือทำให้เส้นเลือดฝอยเปราะและก็กำเนิดรอยคดบอบช้ำดำเขียวได้ง่าย และก็ทำให้แผลบนผิวหายช้าด้วยนั่นเอง โดยสำหรับแหล่งของกินที่เจอวิตามินซีได้สูง ยกตัวอย่างเช่น มะนาว มะขาม มะละกอสุก มะเขือเทศ มะขามป้อม ส้มรวมทั้งกะหล่ำปลี ฯลฯ

3.วิตามินอี
เป็นสารแอนติออกสิดินแดนต์อีกประเภทหนึ่งที่จะช่วยคุ้มครองการเช็ดกรังแกของเซลล์ผิวจากอนุมูลอิสระได้อย่างดีเยี่ยม และก็สามารถปกป้องอันตรายจากแดดที่จะทำให้ผิวย่อยสลายเร็วขึ้นอีกด้วย ซึ่งผู้ที่มีความเชี่ยวชาญได้ชี้แนะว่าควรจะเสริมวิตามินอีให้ได้วันละ 400 มก.เพื่อได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด รวมทั้งสำหรับของกินที่จะเจอวิตามินอีสูง ดังเช่นว่า น้ำมันพืชต่างๆอาทิเช่น น้ำมันที่ผลิตขึ้นมาจากถั่วเหลือง จมูกข้าวสาลี ผักใบเขียว น้ำมันงา น้ำมันที่ทำจากรำข้าว น้ำมันที่ทำจากเมล็ดทานตะวัน น้ำมันเม็ดชาและก็น้ำสลัด ฯลฯ นอกจากนั้นก็สามารถเจอวิตามินอีได้สูงในของกินที่มีไขมันสูงเช่นเดียวกัน

4.ซีลีเนียม
เป็นสารอาหารอีกที่จะปฏิบัติงานร่วมกับวิตามินซี เพื่อคุ้มครองปกป้องเซลล์ผิวถูกทำลาย และก็คุ้มครองป้องกันโรคร้ายต่างๆดังเช่นว่า โรคมะเร็ง โรคหัวใจและก็ปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพอื่นๆได้ดิบได้ดี โดยยิ่งไปกว่านั้นโรคมะเร็งผิวหนัง นอกจากนั้นซีลีเนียมก็สามารถช่วยชะลอความเสื่อมถอยของผิวที่เกิดขึ้นจากปฏิกิริยาออกซิเดชั่นได้อีกด้วย โดยสำหรับเพื่อการขาดซีลีเนียมในคนนั้นยังไม่เคยมีรายงานเจอ เนื่องจากว่ามนุษย์เราชอบได้รับซีลีเนียมอย่างพอเพียงจากของกินเสมอ แม้กระนั้นได้โอกาสที่กำลังจะได้รับซีลีเนียมมากจนเกินไปจนกระทั่งทำให้เป็นอันตรายได้ โดยยิ่งไปกว่านั้นการทานซีลีเนียมเสริมในรูปของเม็ดยานั่นเอง รวมทั้งสำหรับของกินที่เจอซีลีเนียมสูง เป็นต้นว่า เนื้อสัตว์ อาหารทะเล ไต ตับ ไข่ กระเทียมรวมทั้งเมล็ดพืชต่างๆส่วนในของกินแต่ละจำพวกจะมีซีลีเนียมเยอะแค่ไหน ในกรณีที่เป็นผักผลไม้ ก็จะขึ้นกับจำนวนซีลีเนียมในดินที่ใช้ปลูกนั่นเอง โดยผู้ชำนาญชี้แนะว่า ควรจะเสริมซีลีเนียมที่ 100–200 มก.ต่อวันพร้อมกันไปกับการเสริมวิตามินซีและก็วิตามินอีจะดีเยี่ยมที่สุด

5.วิตามินบี
วิตามินบี มีส่วนช่วยสำหรับในการรักษาสุขภาพผิว โดยจะก่อให้ผิวแข็งแรงและก็มีสุขภาพผิวที่ดีขึ้น ทั้งทำให้แผลหายเร็วรวมทั้งคุ้มครองป้องกันผิวแห้งเป็นสะเก็ดได้ดิบได้ดีอีกด้วย โดยวิตามินบีสำคัญๆที่มีความสำคัญต่อผิวสูงที่สุด ก็ได้แก่ วิตามินบี 6 วิตามินบี 12 รวมทั้งกรดโฟลิกนั่นเอง ซึ่งจะปฏิบัติภารกิจสำหรับเพื่อการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงแล้วก็ฮีโมโกลบิน กระตุ้นให้เกิดสมรรถนะสำหรับในการนำออกสิเจนไปหล่อเลี้ยงผิวอย่างสม่ำเสมอ ได้ผลสำเร็จให้ผิวมีร่างกายแข็งแรง แข็งแรงและไม่มีปัญหาผิวมากมายวนหัวใจ ซึ่งถ้าขาดวิตามินบีกับขาดธาตุเหล็กด้วย ก็จะมีผลให้ผิวมองซีดเผือดรวมทั้งมองซึมเศร้าได้ อีกทั้งมีโอกาสเสี่ยงต่อปัญหาโลหิตจางเช่นเดียวกัน สำหรับแหล่งของกินที่เจอวิตามินบีสูง ดังเช่นเมล็ดพืชไม่ขัดสี ตัวอย่างเช่น นม ถั่วต่างๆข้าวซ้อม เนื้อสัตว์ ฯลฯ

6.ไบโอว่ากล่าวน
ไบโอติเตียนนเป็นอีกหนึ่งสารอาหารที่มีความจำเป็นมากมาย โดยพบว่าแม้ขาดไบโอตำหนินจะก่อให้กำเนิดความแปลกของหัวใจ กำเนิดอาการเศร้าหมอง ผิวแห้งแล้วก็มีลักษณะอาการเบื่อข้าวได้ง่าย แต่ว่าอย่างไรก็ดีปกติแล้วชอบไม่ค่อยเจอการขาดไบโอตำหนินมากนัก เนื่องจากว่าร่างกายของมนุษย์สามารถซึมซับไบโอตำหนินเจริญแล้วก็ชอบได้รับไบโอตำหนินจากของกินอย่างสมบูรณ์เสมอ โดยแหล่งที่เจอไบโอตำหนินสูงอย่างเช่น ตับ ขนมปัง ไข่ และก็เมล็ดพืชไม่ขัดสี

7.สังกะสี
เป็นธาตุอาหารที่สำคัญกับโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีมากยิ่งกว่า 70 ประเภท โดยจะช่วยทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นของโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมี แล้วก็ช่วยสำหรับในการซับของกรดไลโอเลอิกได้อย่างดีเยี่ยม โดยพบว่าถ้าหากร่างกายขาดธาตุสังกะสีจะมีผลให้กำเนิดความผิดแปลกของผิวหนังได้ แล้วก็ถ้าเกิดได้รับมากจนเกินความจำเป็นก็จะไปกีดขวางการดูดซึมทองแดงเช่นเดียวกัน อีกทั้งทำให้ภูมิคุ้มกันลดลงรวมทั้งมีการระคายต่อระบบการทำงานเกี่ยวกับการย่อยอาหารได้ ฉะนั้นจำเป็นจะต้องกินอาหารที่มีสังกะสีอย่างพอดี ไม่มากมายและไม่ไม่เพียงพอจะดีมากยิ่งกว่า

8.กรดไลโนเลอิก
เป็นกรดไขมันที่จะช่วยฟื้นฟูผิวที่ถูกทำลายให้ แทงบอลออนไลน์ คืนสู่ภาวะธรรมดาและก็ทำให้ผิวมีความเนียนนุ่ม เปียกชื้นมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งโดยทั่วไปร่างกายของมนุษย์จะมีความต้องการกรดไขมันจำพวกนี้เพียงแค่เล็กๆน้อยๆเพียงแค่นั้น ก็เลยไม่จำเป็นที่จะต้องกินอาหารที่มีไขมันในจำนวนมาก เพียงแค่รับประทานอาหารไขมันต่ำน้อยก็ได้รับกรดไลโนเลอิกอย่างพอเพียงแล้ว สำหรับแหล่งที่เจอกรดไลโนเลอิกสูงดังเช่นว่า ดอกคำฝอย ถั่วเปลือกแข็ง เม็ดทานตะวันและก็ถั่วเหลือง ฯลฯ

9.วัวโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีคิวเทน
เป็นตัวช่วยสำคัญสำหรับการคุ้มครองปกป้องการเกิดโรคมะเร็งผิวหนัง และก็ดูแลผิวให้มีสุขภาพผิวที่ดีขึ้น โดยมากก็เลยนิยมนำวัวโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีคิวเทนมาใส่ลงไปในครีมทาผิวด้วยนั่นเอง ซึ่งก็จะช่วยทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นให้กับครีมดังที่กล่าวถึงมาแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณลักษณะสำหรับในการลดริ้วรอยบนบริเวณใบหน้า

10.สารฟลาโวนอยด์
เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่จะช่วยปกป้องโรคมะเร็งผิวหนังและก็ลดการอักเสบของผิวหนังได้อย่างดีเยี่ยม ขึ้นรถประเภทนี้จะพบมากที่สุดในชาเขียว โดยเหตุนี้จำเป็นที่จะต้องดื่มชาเขียวเป็นประจำโดยดื่มบ่อยๆทุกยามเช้าก็ได้

11.น้ำ
เป็นของกินที่ต้องผิวเยอะที่สุด เพราะว่าจะมีผลให้ผิวมีความชื้นเนียนนุ่มแล้วก็ลดปัญหาผิวแห้งด้านได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งสามารถควบคุมให้ ufabet ต่อมไขมันดำเนินการได้อย่างปกติเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย โดยจากการค้นคว้าบอกว่าควรจะกินน้ำให้ได้อย่างต่ำวันละ 8 แก้ว บ่อยๆแต่ละวัน

ของกินที่ควรจะเลี่ยง
สำหรับของกินที่เป็นตัวรังควานผิวและก็ควรจะหลบหลีกโดยเด็ดขาด ก็คือของกินที่มีไขมันสูงนั่นเอง เนื่องจากของกินชนิดนี้จะเพิ่มอนุมูลอิสระให้สูงมากขึ้น รวมทั้งทำให้ร่างกายมีการอักเสบได้ง่าย โดยการลดจำนวนหรือหลีกเลี่ยงของกินที่มีไขมันก็สามารถทำได้ด้วยการลดการรับประทานอาหารทอดหรือใช้น้ำมันสำหรับเพื่อการประกอบอาหารให้ลดน้อยลง ลดการรับประทานอาหารที่ติดมันแล้วก็ลดของกินที่ใช้น้ำกะทิ รวมทั้งหลีกเลี่ยงการทานเบเกอรี่ที่มีครีมมากมายๆด้วย หรือแม้กระทั้งคาร์โบไฮเดรตขัดสี คาเฟอีนรวมทั้งน้ำตาลก็ควรจะเลี่ยงด้วยเหมือนกัน

แม้กระนั้นการหลีกเลี่ยงของกินพวกนี้ก็ต้องรอบคอบนิดหน่อย ด้วยเหตุว่าจะส่งผลต่อการลดความอ้วนด้วย ซึ่งถ้าเกิดไม่ควบคุมน้ำหนักให้ดีภายหลังที่น้ำหนักน้อยลงไปแล้ว ก็จะก่อให้มีการโยโย่กระทั่งได้ผลสำเร็จให้ผิวมีรอยแตกแล้วก็มองเป็นว่ากล่าวได้ แถมยังเหี่ยวย่นก่อนวัยอีกด้วย ด้วยเหตุนั้นก็เลยจะต้องพากเพียรควบคุมน้ำหนักอย่างสม่ำเสมอไปพร้อมด้วยนั่นเอง