ลดน้ำหนักอย่างถูกทางไม่มีโยโย่เอฟเฟค (YOYO Effect)

รูปร่างที่ได้ส่วนสัดนำมาซึ่งการก่อให้เกิดสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง แม้กระนั้นถ้าเกิดมนุษย์เรามีน้ำหนักมากเกินความจำเป็นย่อมนำไปสู่โรคภัยไข้เจ็บต่างๆน้ำหนักที่เพิ่มสูงมากขึ้นจากการทานอาหารที่มากเกินความจำเป็นหรือการทานอาหารที่ผิดหลักโภชนาการ ทำให้ร่างกายมีการสะสมของไขมันส่วนเกินนำมาซึ่งเป็นโรคอ้วน ซึ่งพวกเราสามารถตรวจทานได้ว่าพวกเราเป็นโรคอ้วนหรืออยู่ในสภาวะเสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วนหรือเปล่าด้วยการหาค่าดรรชนีมวลกาย (Body Mass Index : BMI) ของตน ว่ามีค่าอยู่ในระดับที่เป็นโรคอ้วนเกิดขึ้นแล้วหรือเปล่า ซึ่งค่าที่ BMI นี้สามารถคำนวณได้จาก
ด้วยเหตุนี้เมื่ออยู่ในภาวการณ์อ้วนพวกเราก็เลยจำต้องลดความอ้วนลงเพื่อสร้างสุขภาพให้แข็งแรง ซึ่งกรรมวิธีการลดหุ่นก็มีอยู่ร่วมกันหลายแนวทาง แต่ละแนวทางก็มีทั้งยังส่วนที่ดีและส่วนที่เสียที่ต่างๆนาๆ บางแนวทางก็ได้ผลช้าแต่ว่าดีต่อร่างกายในระยะยาว บางแนวทางได้ผลเร็วสามารถลดหุ่นได้รวดเร็วทันใจ แต่ถ้าว่าภายหลังที่ลดหุ่นไปแล้วสิ่งหนึ่งที่คนจำนวนไม่น้อยจำเป็นต้องพบเจอ ก็คือ การเกิดโยโย่เอฟเฟค (YOYO Effect) ที่ทำให้พวกเรากลับมาอ้วนมากยิ่งกว่าก่อนจะกระทำการลดหุ่นเสียอีก

การโยโย่เอฟเฟค (YOYO Effect) เป็นอย่างไร?
โยโย่เอฟเฟคเป็นการที่ร่างกายของพวกเราไปสู่โหมดที่อยากได้เอาชีวิตรอด มีต้นเหตุที่เกิดจากการที่พวกเรากระทำการลดความอ้วนแบบเอาจริงเอาจังด้วยการงดของกิน รับประทานยาลดหุ่น หรือออกแรงอย่างมากถ่วงกระทั่งทำให้น้ำหนักตัวลดอย่างเร็ว ทำให้ร่างกายรู้ผิดรู้สึกว่าร่างกายกำลังจะตาย เมื่อร่างกายคิดว่าต้องตาย ร่างกายก็จะกระทำการส่งสัญญาณไปยังทุกระบบของร่างกายให้ใชัพลังงานน้อยลงอย่างเร่งด่วน เพื่อที่ร่างกายจะได้มีพลังงานเก็บไว้ใช้ได้นานขึ้นจะได้รอดชีวิตช้านานขึ้นนั่นเอง เมื่อร่างกายมีสัญญาณดังที่กล่าวถึงมาแล้วออกมาจะก่อให้ระบบการเผาพลาญแล้วก็ระบบการเผาผลาญไขมันกำเนิดลดลงตามไปด้วย นำมาซึ่งการทำให้น้ำหนักตัวที่เคยน้อยลงอย่างเร็วหยุดลงทันทีทันใด เมื่อน้ำหนักไม่ลดดังที่อยากก็จะมีผลให้ความตึงเครียด ความตึงเครียดที่ก่อตัวขึ้นภายในร่างกายจะมีผลให้มีการหลั่งฮอร์โมนเกรลิน (Grelin Hormone) ที่เป็นฮอร์โมนที่ความหิวออกมาเพิ่มมากขึ้น แล้วก็หากร่างกายมี

ฮอร์โมนเกรลินมากๆจะมีผลให้พวกเราหิวจนกระทั่งลายตา นำมาซึ่งการทำให้พวกเรารับประทานมากยิ่งกว่าธรรมดาโดยที่พวกเราไม่รู้ตัว ส่งผลให้พวกเราได้รับพลังงานมากยิ่งกว่าที่พวกเราใช้ไป อย่างงี้พวกเราก็เลยอ้วนมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมนั่นเอง นี่เป็นขั้นตอนที่นำมาซึ่ง “โยโย่เอฟเฟค” ที่หลายท่านรู้จักกัน
พวกเรารู้จักกับการเกิดโยโย่เอฟเฟคกันแล้ว ต่อนี้ไปพวกเรามาดูกันเลยดีกว่าพวกเราจะสามารถลดหุ่นได้เช่นไรโดยที่ไม่ต้องกลัวว่าจะกำเนิดอาการโยโย่เอฟเฟค
โดยธรรมดาแล้วเพศชายจะมีการเผาพลายพลังงานวันละราวๆ 2,000 Kcal ส่วนสตรีจะมีการเผาพลาญพลังงานน้อยกว่าเพศชายโดยเพศหญิงจะมีการเผาพลาญพลังงานวันละ 1,800 Kcal ถ้าหากพวกเราได้รับพลังงานมากยิ่งกว่าที่พวกเราใช้ไปต่อวัน พลังงานที่เหลือก็จะเข้าไปสะสมเป็นไขมันส่วนเกินภายในร่างกายทำให้น้ำหนักตัวของพวกเรามากขึ้น ในทางตรงกันข้ามถ้าเกิดพวกเราได้พลังงานน้อยกว่าที่ใช้ไปในวันแล้ววันเล่า ร่างกายก็จะกระทำการดึงไขมันที่สะสมอยู่ภายในร่างกายมาใช้ โดยการเปลี่ยนไขมันให้เป็นพลังงานกับร่างกายทำให้น้ำหนักตัวของพวกเราลดน้อยลง

เชื่อหรือเปล่าว่า…หากพวกเราสามารถลดพลังงานที่ ufabet รับไปสู่ร่างกายได้ 7,000 Kcal พวกเราจะสามารถลดไขมันไปได้ถึง 1 กก.อย่างยิ่งจริงๆ โน่นหมายคือว่าน้ำหนักของพวกเราก็จะลดน้อยลง 1 กก.

หมายความว่าถ้าเกิดในหญิงได้รับพลังงานเข้าไปวันละ 800 Kcal พวกเราก็ต้องดึงพลังงานจากไขมันในร่างกายมาใช้ 1,000 Kcal ต่อวัน โน่นหมายคือว่าใน 1 อาทิตย์พวกเราจะสามารถดึงพลังงานภายในร่างกายมาใช้ 7,000 Kcal

นั่นนับว่าพวกเราจะสามารถลดหุ่นได้ถึง 1 กิโลเชียวนะ อย่างนี้ทำอย่างงี้ไปเรื่อยข้างใน 1 เดือนพวกเราก็จะลดความอ้วนได้ 4 โล รวมทั้งหากลดถัดไปจนกระทั่งครบ 1 ปี ก็จะสามารถน้ำหนักได้มากถึง 48 กิโลอย่างยิ่งจริงๆ ถ้าเกิดเป็นแบบนั้นร่างกายของมนุษย์ก็คงเหลือแค่กระดูกแน่นอนแม้กระนั้นจริงๆแล้วสิ่งที่พวกเราคิดช่างตรงกันข้ามกับความจริงเสียอย่างมาก เพราะถ้าหากพวกเรามีการลดหุ่นที่เร็วเหลือเกินร่างกายของพวกเราก็จะเข้าสูโหมดการเอาตัวรอดหรือโยโย่ เอฟเฟค นำมาซึ่งการทำให้การลดของน้ำหนักจะหยุดลงทันทีทันใดและก็ยังมีผลให้ร่างกายรู้สึกหิวอยากพลังงานมากยิ่งขึ้นเพื่อจะทำให้มีชิวิโคนยู่ถัดไป บางบุคคลรับประทานมากขึ้นเรื่อยๆโดยที่ไม่รู้ตัว รับประทานมากแค่ไหนก็ไม่รู้เรื่องสึกว่าอิ่มเสียรู้ มารู้สึกตัวอีกครั้งน้ำหนักตัวก็ขึ้นเป็นสองเท่าเสียแล้ว

--

--