Montri Boonyasat
3 min readAug 19, 2016

ซาโตชิ นักสะสมแมลงป่า [จุดเริ่มต้น Pokémon G0]

ผมอยากเล่าเรื่องของคุณซาโตชิ ทะจิริ (Satoshi Tajiri) ให้ฟังครับ
เขาคนนี้ทำให้ชีวิตผู้คนหลายสิบล้านคนทั่วโลกในวันนี้…ได้รับผลกระทบอย่างหนัก

ซาโตชิ เกิดและโตที่ชานเมืองโตเกียว
ตอนเด็กๆ เขาไม่ได้สนใจเรียนวิชาอื่น
นอกจากเฝ้ารอให้ถึงช่วงฤดูร้อน
เพื่อจะได้ออกไปจับแมลงนานาชนิดมาใส่กล่อง
การเรียนในชั้นประถมวัยของญี่ปุ่น
ชอบยั่วยุให้เด็กออกไปนอกห้อง
เด็กๆ แต่ละคนจะมีสวิงตาข่ายเล็กๆ สีขาว
มุ่งหน้าออกไปสวนละแวกบ้านหรือต่างอำเภอ
เป็นภาพที่คุ้นตาอยู่บ้างในสารคดีหรือการ์ตูน
พวกเขาใส่หมวก หน้าตาเปื้อนดินๆ หน่อย
สนุกกับการจับเต่าทองมาใส่กล่องเรียกว่า
“มอนสเตอร์ พ็อกเก็ต”

ซาโตชิคุง เรียนไม่เก่งแต่เพื่อนๆ เรียกตาคนนี้ว่า Dr.Bug
เพราะมักมีแมลงที่แปลกว่าเด็กคนอื่น
เขาเล่าได้เป็นฉากๆ จำชื่อพวกมันได้แม่น
ครูประจำชั้น ให้นักสำรวจตัวน้อยนำแมลงที่จับได้
มาบันทึกวาดรูประบายสี เขียนชื่อทางวิทยาศาสตร์
เป็นการเรียนเรื่อง “กีฏวิทยา”
ที่โลกของแมลงแบบที่ไม่ใช่ยาขม
ในเรื่อง “จักรยานสีแดง” ที่มอสกับทาทาเคยเล่น
ก็เคยมีอาขยานทำนองนี้
ไดทิสสิด ไดทิสสิด คือ ด้วงดิ่ง
แลมไพริด แลมไพริด แลมไพริด คือ หิ่งห้อย
แมลงตัวนั้น ตัวนี้ มีเยอะมากมาย ดูไปก็รักรักมัน ทุกตัว

หนุ่มน้อยฝันว่าโตขึ้นอยากจะเป็นนักกีฏวิทยา
น่าจะมีแมลงสักชนิดบนโลกที่ยังไม่ถูกค้นพบ
วงการนี้มักจะให้เกียรติ “ตั้งชื่อ” ตามชื่อผู้สำรวจพบ
นั่นเป็นฝันของนักล่าแมลงป่า

แต่ในโลกความเป็นจริง
พอความเจริญถูกขยายมายังชานเมืองโตเกียว
ย่านมะชิดะมีการก่อสร้าง มีเครื่องกลหนัก
แมลงน้อยใหญ่รอบตัวซาโตชิ
ก็อพยพหายวับไป
เหวี่ยงตาข่ายเจอแต่ความว่างเปล่า

ระหว่างที่เศร้า
เรื่องที่มาแทนที่ชีวิตวัยรุ่น
คือ วิดีโอเกมส์
ซาโตชิโดดเรียนไปเล่นจนถูกเชิญผู้ปกครองบ่อยๆ
แต่ความเป็นเลิศก็ส่งให้ลูกชายจากครอบครัวฐานะปานกลางพ่อเป็นเซลล์แมน
ชนะเกมส์คอนเทสต์จาก Sega
เวลานั้น เครื่องเกมส์ตระกูลแฟมิคอม
เริ่มเป็นความบันเทิงใหม่ในญี่ปุ่น
มันมาเปลี่ยนทีวีสีตามบ้านเป็นเครื่องเกมส์
มีจอยสติ๊กไว้กด
ย้ายเกมส์ตู้มาอยู่ในห้องนั่งเล่นทุกบ้าน
ซาโตชิคงลืมเรื่องนักแมลงวิทยาของตัวเองไปแล้วมั้ง
เพราะเขาไม่ได้เลือกเรียนสายวิทย์ เพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัย
ออกจากโรงเรียนกลางคันมาทำงานพิเศษตั้งแต่เป็นวัยรุ่น
เรียนเอาวุฒิสายอาชีพที่ Tokyo National College of Technology
ได้รับประกาศนียบัตรด้านคอมพิวเตอร์
ให้พอไปยื่นสมัครงานบริษัทเกมส์ได้

งานแรกตั้งแต่อายุ 17
เป็นงานที่คัลต์มาก
นั่นคือ รับอาสาเป็นบรรณาธิการสมัครเล่น
ทำนิตยสารที่รวมสูตรการเล่นเกมส์เอาไว้แจกจ่ายคนคอเดียวกัน
เรียกว่า “Fanzine” ใช้ชื่อว่า “Game Freak”
ความโหดของแมกกาซีนเล่มนี้ คือ
เขากับเพื่อนวาดภาพในเกมส์ต่างๆ ด้วยมือ
เพราะนั่นมันยุค 1980’s ที่ไม่มีโปรแกรมโฟโต้ช็อป
ซาโตชิ เป็นนักเขียน และ เคน ซูจิโมริ (Ken Sugimori) นักทำภาพประกอบ
ทั้งสองมองหน้ากันว่า
เราบ้าเขียนสูตรเกมส์ มาถึง 5–6 ปีแล้ว
ควรจะเปิดบริษัทออกแบบเกมส์ซะเลย
สถานการณ์ของคนบ้าที่จะทำแต่สิ่งที่ตัวเองรัก
เริ่มลุ่มๆ ดอนๆ ชายหนุ่มอายุ 25 ที่ไม่ได้เป็น Salary Man
เพราะเอาแต่ค้นหาสูตรเกมส์ เคลียร์เกมส์เป็นเกมส์ๆ ไป
ชีวิตจะเกมส์โอเวอร์อยู่แล้ว
เอายังไงดี
?

ในปี 1989 บริษัทยักษ์ใหญ่ Nintendo
ประกาศหาไอเดียพัฒนาเกมส์ใหม่ที่มีมูลค่ามหาศาล
โจทย์งานนี้หินไม่รู้ว่าจะหินยังไง
เพราะนินเทนโด “ต้องการเกมส์ใหม่ที่จะมาโค่นเกมส์ Mario Bros ที่เป็นฮีโร่ของบริษัท”

มีใครทำได้บ้าง ? มามะเราจะพิจารณาพวกคุณเป็นกรณีพิเศษ
ซาโตชิกับคู่หู ซูจิโมริ ไม่มีอะไรจะเสีย
เขาย้อนถึงความสุขในวัยเด็ก
ที่ได้ออกไปจับแมลงมาใส่กล่องสะสม ใช่แล้ว !
เขาไม่ลืมจินตนาการว่า แมลงพวกนั้นมีมาก
อาจจะตัวใหญ่ แปลงร่างได้ นำต่อสู้กันได้
คล้ายๆ จับตัวด้วง 2 ตัวมาสู้กันไง
ภาพสมุดสเก็ตในห้องเรียน…ลอยมา
หน้าสารานุกรมที่เคยเรียนบอกว่า
แค่ในบริเวณสวนหลังบ้าน
มีสิ่งมีชีวิตหลายร้อยสปีชีส์อาศัยอยู่ มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น
เขาเล่าเรื่องนี้ให้ เคน ซูจิโมริ ฟังคนแรก
เคนสเก็ตภาพเกมส์นี้ชื่อ “Capsule Monster”
เขาหันไปถามเพื่อนว่า แล้วใครจะออกไปเก็บแมลงคนแรกละ
ซาโตจิตอบ “เราเอง” นั่นเป็นที่มาว่า
พระเอกในเกมส์นี้เลยชื่อ “ซาโตชิ”
นั่นก็คือภาพจำลองของวัยเด็กที่ยังแจ่มชัด
ของซาโตชิ-คุง

First Draft : Pokemon 1989–1990 by Ken Sugimori

ผู้บริหารนินเทนโดที่เห็นแววของเกมส์นักสะสมแมลงแปลงร่างต่อสู้
เขาคนนั้นไม่ใช้ใครที่ไหน แต่คือ ชิเงะรุ มิยะโมะโตะ (Miyamoto Shigeru)
ผู้ที่เคยพับแขนเสื้อสร้างเกมส์ Mario Bros ลุงหนวดโหม่งเห็ดนั่นเอง
ชิเงะรุ รับไอเดีย นี้ไว้ “มาลองดูกัน”
จากเกมส์ชื่อ Capsule Monster ก็ถูกย่นให้เหลือ “Cupumon”
และเปลี่ยนมาใช้เป็น Pocket Monster เพื่อความเข้าใจง่าย
ที่เด็กหลายคนมีประสบการณ์ร่วม
พวกเขาร่วมหัวจมท้ายใช้เวลาทำถึง 6 ปี
แต่กว่าที่เกมส์จะสำเร็จออกมา มีการรีเสิร์จ
ดีไซน์ตัวการ์ตูนมากถึง 400 ชนิด
มากกว่าตัวละครในเกมส์มาริโอรวมกันถึง 5 เท่า
เกมส์จึงใช้งบบานปลาย ลูกน้อง 5 คน ขอลาออก
การเงินของซาโตชิพัง ! ต้องกลับไปขอเงินที่บ้านใช้จ่าย
เป็นเรื่องที่น่าละอายเหลือเกิน
นอกจากจะเจ๊งไม่ได้แล้ว
มันยังถูกออกแบบให้มีหลายภาค ตั้งแต่ยังไม่ได้วางขายสักภาค
ด้านนินเทนโดก็มีสปิริตของบริษัทที่น่าสนใจ
หากจะมีเกมส์ไหนมาล้มมาริโอ
พวกเขาต้องเป็นผู้สร้างเกมส์นั้นด้วยตัวเองเท่านั้น
เพราะมันย่อมดีกว่าให้บริษัทอื่นมาตัดหน้า !
ทำให้เกมส์จากซาโตชิ ภาคเบต้าจึงถูกทดสอบแล้ว
ทดสอบอีก บางรอบมันก็สอบตก
เกือบไม่ได้ออก
และในที่สุด
เกมส์ได้ชื่อยูนีคจาก Pocket Monster มาเป็น “Pokémon”

27 กุมภาพันธ์ ในปี 1996 นินเทนโดเปิดตัว
โปเกมอนภาคแรกในชื่อว่า
“โปเกมอน เรด แอนด์ บูล” อยู่บน Game Boy
เครื่องเกมส์แนวคิดใหม่ที่พกพาไปเล่นนอกบ้านได้
ถอด-เปลี่ยนตลับเกมส์ได้ ล้ำกว่าเกมกดในยุคเดียวกัน
เด็กๆ ญี่ปุ่นนับหมื่นคนเริ่มออกไปขว้างบอลล่าโปเกมอน (บนเกมส์บอย)
อย่างที่รู้กันว่า…แม้จะล้มแชมป์อย่างมาริโอไม่สำเร็จ
แต่โปเกมอนได้ผูกขาดความเป็นที่สองเรื่อยมา
เจ้าพิกะจูตัวสีเหลืองปรากฏอยู่ในทุกสิ่ง พิก่า พิก้า !
“Pika” เป็นเสียงแทนการ “สปาร์คของกระแสไฟฟ้า”
“Chu” เป็นเสียงหนูร้องของหนูญี่ปุ่น
เคยมีนักวิจารณ์ของ The Economist รายงานว่า
โดราเอมอน คือ แมวจากญี่ปุ่นที่คนทั่วโลกรู้จักไปแล้ว
ลำดับต่อไป คือ พิกะจู หนูที่จะไปฮิตในอเมริกาและอีกหลายประเทศตามมา (Pokémon as “Japan’s most successful export)

ไม่นานนักยอดขายเกมส์ทะลุหลัก 200 ล้านตลับ
เกมส์ทำเงินไปราวๆ 207 ล้านเหรียญฯ
นั่นทำให้ซาโตชิ ทะจิริ กับ เคน ซูจิโมริ
ได้ทำงานที่ตัวเองรักต่อมาอีก 26 ปี
เคน ซูจิโมริ เป็นคนวาดคาแรกเตอร์ของมอนสเตอร์ตัวต่างๆ
จนถึงวันนี้ซาโตชิ คือ เกมดีไซน์เนอร์ ที่ได้รับการยกย่องเป็น 1 ใน 100 บุคคล
ผู้ทรงอิทธิพลด้านเกมส์ตลอดกาลจาก IGN
ถึงไม่สมหวังได้เป็นนักกีฏวิทยา ผู้ตั้งชื่อแมลงชนิดใหม่
แต่ซาโตซิ ทะจิริ คือ ผู้ริเริ่มออกแบบพันธุกรรม
และตั้งชื่อเหล่าโปเกมอนในสารานุกรม Pokédex
ที่มีนับร้อยๆ ชนิด คงความสลับซับซ้อนละเอียดอ่อนเป็นระบบนิเวศที่สมบูรณ์
ทำให้ Niantic มาต่อยอดได้ง่าย
อย่างที่เราเล่นกันอยู่ใน Pokémon Go ทุกวันนี้
ซาโตชิ ยังคงถ่อมตัวโลว์โปร์ไฟล์
เขาเคยให้สัมภาษณ์ว่า
“ผมก็แค่นักสะสมแมลงป่า”

ซ้าย คือ ซาโตชิ ทะจิริ ผู้คิดค้นเกมส์ , ขวา คือ เคน ซูจิโมริ ผู้วาดภาพในเกมส์

***หมายเหตุในวันที่เขียนบทความชิ้นนี้เกมส์โปเกมอนโก มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ $6,000 ล้านเหรียญฯ มีผู้เล่นราว 25 ล้านคนต่อวัน มีค่าเวลาการใช้งานต่อวัน
ชนะ Instrgram

เรื่องโดย มนตรี บุญสัตย์
สนใจอ่านเพิ่มเติมได้ที่ : Satoshi Tajiri: Pokemon Creator (Innovators) , Lori Mortensen และ Wikipedia. Satoshi Tajiri

Montri Boonyasat

Storyteller | Admin Fan Page Running Insider @BuiInsider on Twitter