EXCHANGE STUDENTS: สามสาวจากญี่ปุ่นกับประสบการณ์แลกเปลี่ยนในรั้วมหาวิทยาลัยไทย

FA-AKSORN JOURNAL
3 min readMar 6, 2018

--

จากครั้งก่อนที่เราพาทุกคนไปรู้จักกับนักเรียนแลกเปลี่ยนจากเกาหลี วันนี้ฟ้าอักษรจะขอพาทุกคนมาทำความรู้จักกับนักเรียนแลกเปลี่ยนจากดินแดนอาทิตย์อุทัยกันบ้างค่ะ คราวนี้เราพา แก้ม แกงส้ม และต้นหอม สามสาวจากญี่ปุ่นมาพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในรั้วมหาวิทยาลัยไทย เรื่องราวความสนุกสนานของพวกเธอจะเป็นอย่างไร ไปอ่านกันได้เลยค่ะ

Q: ตอนมาอยู่ที่ไทยใหม่ๆ ปรับตัวยากไหม

ทั้งสามคน: ปรับตัวยาก

Q: ปรับตัวยากเรื่องอะไร

ต้นหอม: อากาศ

แก้ม: ปรับตัวไม่ค่อยยากค่ะ อากาศไทย ไม่ค่อยร้อนกว่าที่คิดไว้

ต้นหอม: คิดว่าร้อนกว่านี้

แกงส้ม: อากาศเหมือนกับต้นหอม เพราะว่ามาที่นี่แล้ว สิวขึ้นบ่อยๆ

แกงส้ม

Q: มีเรื่องอื่นไหม เรื่องอาหาร กินได้ไหมตอนมาแรกๆ

ทั้งสามคน: กินได้ๆ

Q: แล้วเรื่องเพื่อนล่ะ ปรับตัวกับเพื่อนยากไหม คิดว่านิสัยคนไทยเข้าถึงยากหรือเปล่า หรือปรับตัวเข้ากับเพื่อนคนไทยยังไง

ต้นหอม: ยาก เรื่องค่านิยม รู้สึกไม่เหมือนกัน

Q: มี Culture shock มีไหม

ทั้งสามคน: มี (หัวเราะ)

Q: อย่างเช่นอะไรบ้าง

แก้ม: ในชั้นเรียน นักศึกษาไทยชอบพูดกับอาจารย์ ที่ญี่ปุ่นไม่มีเลย นั่งฟังเฉยๆ จดเฉยๆ แล้วก็ขี่มอเตอร์ไซค์ไม่ใส่หมวกกันน็อก แต่ที่ญี่ปุ่นไม่มีอย่างนี้

แก้ม

Q: คิดว่าเพื่อนคนไทยเป็นยังไงโดยทั่วๆ ไป

แก้ม: คนไทยชอบ เวลาทำอะไรชอบทำกับเพื่อน

Q: แล้วเราชอบวิถีแบบนี้ไหม ชอบการที่ไปเป็นกลุ่มกับเพื่อนคนไทยไหม หรือว่าชอบอยู่คนเดียว

ทั้งสามคน: ชอบอยู่กับเพื่อนมากกว่า

Q: แล้วตอนอยู่ญี่ปุ่น คิดว่าประเทศไทยเป็นแบบไหนก่อนที่จะได้เจอจริงๆ พอมาแล้วมันเหมือนกับที่เราคิดไว้ตอนแรกหรือเปล่า

ต้นหอม: ไม่รู้เหมือนกัน

ทั้งสามคน: ลืมไปแล้ว (หัวเราะ)

Q: ตอนนี้ชอบประเทศไทยไหม

ทั้งสามคน: ชอบ

ต้นหอม

Q: คิดว่า เด็กนักเรียนญี่ปุ่นในมหาวิทยาลัยกับเด็กนักเรียนไทยใครตั้งใจเรียนมากกว่ากัน

ทั้งสามคน: (ปรึกษากันเป็นภาษาญี่ปุ่น) (หัวเราะ)

แก้ม: นักศึกษาไทยการบ้านเยอะ อ่านหนังสือตลอด

ต้นหอม: ที่ญี่ปุ่นต้องทำงานพิเศษด้วย

แกงส้ม: ในชั้นเรียน ถ้านักศึกษาญี่ปุ่นที่นั่งข้างหน้าจะหลับ แต่ว่านักศึกษาไทยที่นั่งข้างหน้าจะจด

Q: แล้วที่ไทยมีการบ้าน สอบเยอะ ก็เลยหนัก?

ทั้งสามคน: ใช่ๆ (หัวเราะ)

แกงส้ม: สอบทุกสัปดาห์ มีสอบมิดเทอมสองครั้ง…ใช่ไหม

Q: ใช่ สองครั้ง

แกงส้ม: ได้รู้ว่ามีสองครั้ง (หัวเราะ)

Q: แล้วเวลาเรียนที่ประเทศไทยชั่วโมงเรียนมากกว่าหรือน้อยกว่าที่ญี่ปุ่น วันหนึ่งที่ญี่ปุ่นเรียนประมาณกี่คาบ แล้วมาไทยเรียนประมาณกี่คาบ

แก้ม: ที่ญี่ปุ่นมากกว่า แต่ว่าเทอมนี้ที่ไทยมากกว่า

Q: แล้วแต่ละคนเรียนกันกี่วิชาที่ประเทศไทย

ต้นหอม: 13

แก้ม: 7 วิชา

แกงส้ม: 7

Q: แล้วมีวิชาไหนที่ชอบที่สุดบ้าง

ต้นหอม: เลือกยาก ชอบหมดเลย ชอบวิชาอาจารย์วันชัยมากที่สูด เรียนการแปล เรียน Structure

แก้ม: วิชาล่าม เพราะว่าไม่เก่ง แต่สนุกมากค่ะ

แกงส้ม: วิชาล่าม ถึงจะยากมาก แต่ว่าเทอมที่แล้วไม่ค่อยมีโอกาสพูดภาษาไทย

Q: เพื่อนๆ ในห้องเรียนแต่ละวิชาช่วยเหลือเรื่องการเรียนยังไงบ้าง

ต้นหอม: เพื่อนอธิบายคำศัพท์ที่ไม่เข้าใจอย่างละเอียด ก็เลยรู้สึกว่าได้รับการช่วยเหลืออย่างดีมาก

แก้ม: เหมือนกับต้นหอม แล้วก็ถ้าต้องทำพาวเวอร์พอยต์ เพื่อนคนไทยช่วยเหลือตลอดเลยรู้สึกว่าได้รับการช่วยเหลืออย่างดีมากเหมือนกัน (หัวเราะ)

แกงส้ม: เหมือนกับสองคน ถ้าฉันไม่เข้าใจการบ้าน เพื่อนทุกคน “โอเคไหม” “เข้าใจไหม”

Q: แล้วคิดว่าอาจารย์ที่ประเทศไทยกับที่ญี่ปุ่น อาจารย์ที่ไหนดุกว่ากัน

แกงส้ม: แล้วแต่คน

Q: ที่ไทย ชอบอาจารย์คนไหนมากที่สุด

ต้นหอม: เลือกยาก

แกงส้ม: อาจารย์วิมลศิริ ทุกครั้งอาจารย์วิมลศิริถามว่า “เข้าใจไหม” “ถ้าไม่เข้าใจ มาห้องอาจารย์ได้”

Q: อาจารย์สอนวิชาอะไร

แกงส้ม: การใช้ภาษาไทยและภาษาต่างประเทศในภาษาไทย

แก้ม: ทุกคนใจดี เลือกไม่ได้

ต้นหอม: เลือกไม่ได้เหมือนกันค่ะ อาจารย์ทุกคนใจดี และดูแลพวกเราดีมากๆ ก็เลยรู้สึกว่าชอบอาจารย์ทุกคนเลยค่ะ

Q: แล้วแต่ละวัน หลังเลิกเรียนแล้ว ปกติทำอะไร

แก้ม: เลิกเรียนกินข้าว

Q: ไปกินข้าวที่ไหน ชอบไปกินข้าวที่ไหนกัน

ทั้งสามคน: อินดี้

Q: แล้วเวลากลับหอ ทำอะไรกันบ้าง

แก้ม: ดูยูทูบ ที่ญี่ปุ่นมีอาชีพยูทูบเบอร์ รู้จักไหม

Q: อ๋อ รู้จัก ตามยูทูบเบอร์?

แก้ม: ใช่ๆ

ต้นหอม: ช่วงนี้ พอกลับหอ นอน แล้วค่อยตื่นตอนเที่ยงคืน

แกงส้ม: วิ่งค่ะ

Q: มาอยู่ไทยนานเท่าไหร่แล้ว กี่เดือนแล้ว

ทั้งสามคน: 6 เดือน

Q: แล้วไปเที่ยวที่ไหนบ้างไหม

แก้ม: เชียงใหม่

ทั้งสามคน: กาญจนบุรี ขอนแก่น พิษณุโลก

Q: เคย Homesick ไหม คิดถึงบ้านบ้างไหม

แก้ม: เทอมที่แล้วคิดถึงบ้านมาก แต่ว่าตอนนี้โอเค

แกงส้ม: ไม่ค่อย เพราะว่าโทรหาเพื่อนเยอะ โทรหาพ่อแม่กับพี่สาวเกือบทุกวัน

ต้นหอม: คิดถึงมาก เพราะไม่ค่อยได้คุยกับพ่อแม่ พ่อกับแม่ไม่มีโทรศัพท์แบบนี้ (สมาร์ทโฟน) ก็เลยคุยกันแค่ทาง Skype ก็เลยไม่ค่อยสะดวก

Q: ตั้งแต่มาอยู่ที่ไทย มีเรื่องที่ประทับใจบ้างไหม รู้สึกประทับใจเรื่องนี้จังเลย มีบ้างไหม

แก้ม: เคยไปเกาะพีพี สวยมาก เป็น One day tour

Q: ดำน้ำ ดูปะการังเหรอ

แก้ม: อ๋อ จริงๆ แล้วเห็นไม่ได้ มีขนมเค้กแล้วก็ปลาเยอะ ก็เลยเห็นแค่ปลา

Q: ต้นหอมกับแกงส้มมีอะไรที่ประทับใจไหม

ต้นหอม: นึกเหตุการณ์พิเศษไม่ออก แต่ว่าเวลาเดินในมหาลัย เพื่อนๆ เรียกชื่อ แล้วรู้สึกดีใจมาก

แกงส้ม: มีเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ไปสนามหลวง ฉันตกใจมากที่คนไทยเยอะ แล้วที่นั่นก็สวยมากๆ แต่ทำไมตอนนี้ถึงทำลายไปคะ

Q: พระเมรุมาศ ใช่ไหม หลังจากเสร็จพิธีแล้ว เขาจะเอาไว้ให้ประชาชนเข้าไปชมแค่สองเดือน จากนั้นก็รื้อออกเพื่อเอาพื้นที่ไปใช้ประโยชน์อย่างอื่น แต่จะเก็บไว้แค่ “พระโกศ” ตอนนี้พระโกศของในหลวงรัชกาลที่ 9 อยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร

Q: เมื่อเรียนจบจากที่นี่แล้วกลับญี่ปุ่น ตั้งใจว่าจะทำอะไรต่อ

แก้ม: อยากได้ใบขับขี่

แกงส้ม: ก็อยากฝึกงาน ฉันอยากทำงานบริษัทที่เกี่ยวกับภาษาไทย

ต้นหอม: เดือนกันยาปีนี้ จะไปฝึกสอนที่โรงเรียนมัธยมปลาย สอนภาษาอังกฤษ แล้วก็อยากเรียนภาษาไทยต่อด้วย

Q: แล้วมีคำภาษาไทยคำไหนที่คิดว่ายากที่สุดไหม

แก้ม: “พระมหากษัตริย์” ร เรือ สระอิ ต้องมี

แกงส้ม: ราชาศัพท์ เป็นคำศัพท์ที่ไม่ค่อยได้ใช้ในชีวิตประจำวันค่ะ แล้วก็พวกคำศัพท์เช่น ออกไป เข้ามา พอมาเทียบกับภาษาญี่ปุ่นแล้วเซนส์การใช้มันไม่เหมือนกัน บางทีก็งงๆ ค่ะ

แก้ม: แล้วก็คำสร้อย ใช้ยาก

Q: แล้วมีอะไรที่ตั้งใจว่าจะต้องมาทำที่ไทย แต่ยังไม่ได้ทำไหม

ต้นหอม: อยากไปทะเล เคยไปแค่หัวหิน แล้วก็อยากกินส้มตำที่ภาคอีสาน

แกงส้ม: อยากไปภูเก็ต พี่สาวเคยไปภูเก็ต แต่ฉันยังไม่เคยไป พี่สาวบอกว่าสวยมาก ผัดไทยก็อร่อยมาก

แก้ม: ไม่ใช่ไทย อยากไปเที่ยวมาเลเซียกับสิงคโปร์ เพราะว่าถ้าไปจากญี่ปุ่นตั๋วเครื่องบินแพง แต่จากไทยถูกกว่า อยากไป

Q: มีคำภาษาญี่ปุ่นอะไรที่อยากสอนคนไทยไหม

แก้ม: おもてなし (โอโมเตะนะชิ) ในชีวิตประจำวันไม่ค่อยได้ใช้ แต่แสดงถึงนิสัยคนญี่ปุ่น

「おもてなしのこころ」(โอโมเตนาชิ โนะ โคโกโระ)

ต้นหอม: เอาตัวอักษรคันจิที่ฉันชอบที่สุดได้ไหม เมื่อกี้บอกคำว่า “น้ำใจ” ใช่ไหม ภาษาญี่ปุ่นก็มีคำว่า 情 (โจ) แปลว่า ความรู้สึก หรือ จิตใจ ค่ะ ชอบเพราะว่ามันเหมือนกันคำไทยที่ชอบค่ะ (ยิ้ม)

แกงส้ม: คำว่า 義理 (กิริ) รู้จักไหมคะ กิริ คือ ความมีมารยาท เช่น ในวันวาเลนไทน์ที่ญี่ปุ่นมี Girichoco หรือถ้าแปลเป็นภาษาไทยก็คือ ช็อกโกแลตตามหน้าที่ เป็นช็อกโกแลตที่ผู้หญิงจะให้ผู้ชายที่เป็นเพื่อนร่วมงานในวันวาเลนไทน์ เพื่อรักษาบรรยากาศของที่ทำงาน หรือให้แก่เจ้านาย เพื่อแสดงแสดงความกตัญญูค่ะ

หมายเหตุ: おもてなし แปลว่า “การทำอะไรให้ด้วยความจริงใจ” หรือ “การแสดงความจริงให้ใจกับแขกผู้มาเยือน”

--

--