หุ้น MAKRO
ค้าส่งอันดับ1 ของไทย จะไปสู่ครัวโลกจริงหรือ?
ปัจจุบัน MAKRO มีสาขาในประเทศไทย 115 สาขา และมีสาขาที่อยู่ในรูปของสินค้า Frozen ภายใต้ Brand ชื่อ Siam Frozen อีก 8 สาขาย่อย ซึ่งเราก็อาจจะได้เห็นบ้าง ซึ่งก็ต้องยอมรับว่า เป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งจริง มาดูงบการเงินย้อนหลังกัน
จะเห็นว่า กำไรก็มีการเติบโตที่แข็งแรงดี ซึ่งภายหลัง CP เป็นการตัดสินใจซื้อกิจการทั้งหมด ที่มูลค่ารวมๆ 787 บาท/หุ้น (เท่ากับ 78.7 บาท ณ ปัจจุบัน)
กระแสบอกว่า ซื้อมาแพงเกินไป หนี้สินท่วมท้นขนาดนี้ อาจยากที่จะฟื้น แต่ในแง่ของการทำธุรกิจ ก็เชื่อว่าเจ้าสัวเองคงเล็งเห็นแล้วว่า นี่คือช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าของตัวเองได้ โดยที่ไม่ต้องมีการต่อรองราคา พูดง่ายๆคือ เหมือนขายตรงให้กับลูกค้า โดยไม่ต้องโดนกดราคาโดยยี่ปั๊วนั่นเอง เหมือนกรณี BJC ซื้อ BIGC นั่นเอง
และถ้าสังเกตุให้ดี หลังจากปี 2013 ที่มีการซื้อกิจการ รายได้ก็ยังเติบโตมาเรื่อยๆจนกระทั่ง 9เดือน 2017 ทำกำไรได้มากถึง 10,000 ลบ. แต่ยังไงซะสิ่งที่ต้องจับตามองคือหนี้สินก็ยังคงเพิ่มไปเรื่อยๆเช่นกัน (ตามภาพ)
และล่าสุด MAKRO ก็ไปเปิดสาขาใหม่ที่เขมรแล้ว ซึ่งการตอบรับเป็นอย่างไรก็ต้องดูผลประกอบการต่อไปในไตรมาส4
มาดูรายชื่อผู้ถือหุ้นรายใหญ่กันบ้าง
หืมมม…Free Float หรือ รายย่อย มีแค่ 2.12% ซึ่งถือว่าน้อยมากๆ สำหรับหุ้นกิจการขนาดนี้ เบอร์1 ก็ MAKRO และเบอร์2 คือ CPALL (- -) และนี่อาจเป็นสาเหตุที่หุ้น MAKRO ไม่มีนักลงทุนให้ความสนใจ เพราะเชื่อกันว่าหุ้นที่ Free Float ต่ำแบบนี้ มักจะไม่มีเจ้ามือมาทำราคาและเมื่อไม่ทำราคา เม่าจะมีกำไรได้ล่ะ จริงป่าว?
หุ้น MAKRO บวกต่อเนื่องจาก 35 มา 40 บาท ราวๆ 15% โดยที่ไม่มีใครคาดคิด แล้วน่าซื้อมั้ยล่ะ เรามาวิเคราะห์ด้านมูลค่ากันก่อน
มาลองประเมินว่า กำไรมีการเติบโตเพียง 5% ของปี 2016 บริษัทจะสามารถมีกำไร/หุ้นราวๆ 1.19 บาท
ถ้าจ่ายปันผลเท่าๆกับปีก่อนที่ 70% ของกำไร นักลงทุนจะได้เงินสด 0.83 บาท/หุ้น
และถ้านักลงทุนส่วนมาก(ซึ่งกรณีนี้ มีแต่เจ้าสัวเอง555) พอใจกับเงินปันผลที่ 2.5% ราคาหุ้นก็ควรจะอยู่ที่ 32.6 บาท ณ PE Foreward 27 เท่า ซึ่งตอนนี้ปาเข้าใจ 40 บาทแล้วอะนะ ก็อย่างที่เคยบอก หุ้นพื้นฐานดี กับราคาหุ้น มันคนละเรื่องจ้า
“หุ้น MAKROน่าซื้อมั้ย?”
ตอบยากเหมือนกัน เพราะถ้าหากเรามองว่า MAKRO เป็นกิจการที่มีการเติบโตได้อีก แน่นอนว่า กำไร,เงินสดปันผล ย่อมสูงขึ้น และอาจจะทำให้ราคาหุ้นขึ้นไปได้อีกเช่นกัน
หลายๆครั้งที่ฟังบทวิเคราะห์จากเซียนหุ้นทั้งหลาย ก็มักจะบพูดเสมอว่า “เราซื้ออนาคตของกิจการ” การมองระยะยาว ทำให้เราใจเย็นลงและไม่รู้สึกกลัวเมื่อราคาหุ้นตกลงในช่วงตลาดขาลง แต่ก็ต้องมีการติดตามการเปลี่ยนแปลงในทุกๆปี
เพราะแม้บริษัทจะมีกำไรตลอดและราคาถูก แต่ถ้าเป็นธุรกิจขาลง ก็อาจทำให้เราแพ้ได้ และแน่นอน MAKRO ไม่ใช่ธุรกิจขาลง(ณ ตอนนี้นะ อิอิ) เพราะบริษัทมีแนวโน้มไปเปิดสาขาในต่างประเทศ เช่น จีน และ อินเดีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรสูง แต่จะเปิดรูปแบบไหนก็รอดูต่อไป อีกทั้งเวียดนามก็มีการนำร่องไปบ้างซึ่งตอนนี้ก็สะท้อนผลกำไรมาให้เห็นแล้วด้วย
วิเคราะห์แบบเดาๆ ในอนาคต หาก MAKRO อยากที่จะลดภาระหนี้สินลงบ้าง ก็คงจะต้องมีการเพิ่มทุน (และอาจทำราคาก่อนเพิ่มทุนมั้ง) หรืออาจขายหุ้นบางส่วนให้กับกองทุน ซื้อในความเห็นของผมแล้ว MAKRO คงจะไม่ได้ขายหุ้นในราคา 40 บาทแน่นอน เพราะลุงแกซื้อมาตั้ง 78 บาทแหนะ หรือถ้าขายที่ราคา 40 บาทให้กองทุนใดๆก็ตาม ราคาหุ้นก็จะต้องถูกทำราคา เพื่อให้มีกองทุนกำไร ซึ่งก็เป็น Money Game ทั่วๆไป และผมก็เชื่อว่า MAKRO มีดีพอที่กองทุนจะกล้าถือครองแหละ ราคาตอนนี้อาจเสี่ยงและดูแพงไปหน่อย แต่อย่าลืมว่า หุ้นแพงก็อาจถูกลงได้ หากมีกำไรที่โตอย่างต่อเนื่องเนอะ ^^
ฝากติดตามเพจด้วยจ้า