Olympus OM-4Ti, The 1st Camera ever to break the light barrier (1987–2002)
สวัสดีวันเสาร์กันอีกครั้ง ตอนนี้อยากจะเชื้อเชิญให้ทุกๆท่านพบกับสุดยอดกล้องของ OM เลขเดี่ยว นั่นก็คือ!!
Olympus OM-4 Ti
หรืออีกชื่อนึงคือ OM-4 T (US release)
เห็นแค่ชื่อก็รู้แล้วว่าเป็นกล้องรุ่นต่อจาก OM-4 อันโด่งดังที่เราก็เคยพูดถึงกันมาแล้ว
แต่สงสัยกันล่ะสิว่ามันต่างยังไงกับตัวก่อนหน้า และตัวอักษร Ti ที่ต่อท้ายมามันแปลว่าอะไร?
ก่อนอื่น ขอเข้าประเด็นเรื่องตัวอักษร “Ti”
ตัวอักษร Ti ที่ว่านี้ย่อมาจาก “Titanium” ซึ่งบอกเราว่าวัสดุกรอบชิ้นล่างกับชิ้นบนนั้นทำมาจากไทเทเนียม ทำให้น้ำหนักเบาลงกว่า OM-4 ถึง 30 กรัม
ซึ่ง.. อืม… แค่นั้นแหละ จบบทความได้
..
ยัง!!
ถ้าจะสร้างรุ่นใหม่มาเพื่อแค่เปลี่ยนชื่อเนี่ยนะ? เราไม่เชื่อว่ามีแค่นี้ เลยไปค้นหาข้อมูลต่อว่า Olympus พัฒนาอะไรขึ้นมาใหม่ในกล้องรุ่นนี้บ้าง ซึ่งสามารถสรุปได้ว่า
- สามารถปรับช่องมองให้เข้ากับระยะสายตา (หรือเรียกว่า Diopter Adjustment) ได้ด้วย! (เช้ดเข้!! ไม่ต้องซื้อช่องมองแบบ -2 -3 มาใช้งาน ตัวนี้ได้เสร็จสรรพ)
- พัฒนาความสามารถในการทนต่อสภาพอากาศ (Weatherproofing)
- พัฒนาระบบ Electronic Flash-control จากเดิมที่ความเร็วชัตเตอร์สูงสุดได้แค่ 1/60s เป็น 1/2000s เมื่อใช้คู่กับแฟลช Olympus F280 (บร๊ะเจ้า!! มันสุดยอดมาก!)
- พัฒนาระบบ (Electronic Circuitry) แก้ปัญหากล้องกินแบตที่เลื่องชื่อใน OM-4
ถือว่า OM-4 Ti เป็นอีกตัวหนึ่งที่น่าจับมาลองเล่นดูซักครั้ง (แต่ค่าตัวนี่ก็สูงตามสเปคของมันนะฮะ)
นอกจากสีแชมเปจน์แล้ว ยังมี Olympus OM-4 Ti Black ที่ออกจำหน่ายในปี 1989
ก่อนจะจบบทความกันไป ขอแปะ Manual เผื่อมีใครอยากจะเอาไปอ่านเล่นกัน
สำหรับวันนี้ขอลากันไปก่อน พบกันใหม่ตอนหน้านะ :)
ติดตามบทความตอนอื่นๆได้ที่ “สา-ระ-บาน”
References
Olympus OM-4 Ti
Olympus OM-4
The OM-4・OM-4 Ti — The Final Model of OLYMPUS SLR Film Cameras
OM4 vs OM4 ti
THE OLYMPUS OM4TI — A ‘COMPACT’ SLR CAMERA — GUEST POST BY GUY
Olympus OM 4-Ti black