[Review] เที่ยว — บางกะเจ้า & ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง สมุทรปราการ

“บางกะเจ้า” นะ ไม่ใช่ “บางกระเจ้า”

Jedsada Saengow
JED-NG
7 min readMay 20, 2018

--

อยากจะปั่นจักรยานแบบชิล ๆ และเดินตลาดที่เต็มได้ด้วยอาหารหรือของกินเล่น ห้ามพลาดเลยครับ กับบางกะเจ้า & บางน้ำผึ้ง ที่จังหวัดสมุทรปราการ ครับ

ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนว่า 👍🏼 บางกะเจ้า 👍🏼ไม่มี ร.เรือนะครับ

เหตุผลที่ชื่อบทความใช้ชื่อว่า บางกะเจ้า & บางน้ำผึ้ง เป็นเพราะว่า จุดที่เราไปตามสถานที่หลัก ๆ นั้น จะอยู่ใน 2 ตำบลนี้นั่นเอง โดยขอแนบภาพจาก Google Map มาให้ดูกันนะครับ

รูปภาพจาก Google Map ที่แสดงเขตของ บางกะเจ้า และ บางน้ำผึ้ง

เมื่อรู้แล้วว่ามันอยู่ที่ไหนของโลก เรามาเริ่มกันเลย 👏👏👏

ขอแนะนำให้มาเช้า ๆ นะครับถ้าต้องการปั่นจักรยานชิล ๆ ซัก 8 โมงถึงท่าเรือกำลังดี เพราะถ้ามาเช้า รถและคนจะไม่เยอะมาก ไม่ค่อยวุ่นวาย ในบางซอยรถขับเร็ว แถมแดดก็ยังไม่แรงด้วย และแนะนำว่าให้ทาครีมกันแดดแบบจัดเต็มมาด้วยนะครับ

มาจากไหน จะไปท่าเรือวัดบางนานอกอย่างไร ?

เรื่องแรกที่จะขอพูดถึงเลยคือนั่งเรือข้ามฟากที่ท่าเรือวัดบางนานอกครับ ถ้ามาจากสุขุมวิท ขอแนะนำให้นั่ง BTS มาลงที่สถานีบางนา ถ้าต้องการนั่ง Taxi ให้ลงทางออกที่ 4 หรือถ้าจะนั่งวินมอเตอร์ไซค์ ให้ลงทางออกที่ 2 ครับ (ค่าโดยสารสำหรับ Taxi จะอยู่ราว ๆ 55–60 บาทครับ ส่วนวินมอเตอร์ไซค์ไม่ทราบครับขออภัยด้วย)

หรือจะเดินมาตรงที่สี่แยกบางนา เดินมาทางฝั่งถนนสรรพาวุธ บริเวณหน้า 7–11 ที่ 2 (7–11 ที่ 1 จะมีร้านไก่ย่างห้าดาว) จะมีรถสองแถวสีแดง ซึ่งจะสามารถนั่งยาวมาจนถึงท่าน้ำได้เลยครับ (ค่ารถสองแถว น่าจะไม่เกินคนละ 10 บาทครับ ไม่ได้ขึ้นมานานมาก ตั้งแต่สมัยค่ารถ 4 บาท)

หรือถ้านำมอเตอร์ไซค์มาเองก็สามารถข้ามฟากด้วยที่ท่าเรือนี้ได้ครับ

นั่งเรือข้ามฟาก

ค่าใช้จ่ายตรงส่วนนี้ สำหรับท่านที่นำรถมอเตอร์ไซค์ หรือจักรยานมาด้วย ทางผู้เขียนไม่แน่ใจว่าเท่าไหร่ แต่ถ้าไปแต่ตัวจะอยู่ที่ 4 บาทต่อคนครับ ส่วนทางไปขึ้นเรือข้ามฟาก หลังจากจุดสิ้นสุดถนน ทางขึ้นจะอยู่ทางซ้ายมือ มีลักษณะดังภาพด้านล่างครับ

เป็นเรือที่สามารถนำมอไซค์ขึ้นไปได้ครับ โปรดเดินด้วยความระมัดระวังครับ

การชำระเงินจะทำที่อีกฝั่งครับ เพราะฉะนั้นตอนนี้นั่งชิล ๆ กินลมไปได้เลย

เมื่อถึงท่าและชำระเงินเรียบร้อยแล้ว จะเริ่มเห็นจักรยานสำหรับเช่าเต็มไปหมด ให้ใจเย็นก่อนครับ อยากให้โฟกัสก่อนว่าเราอยู่ในเขตของวัดบางน้ำผึ้งนอกครับ มีภาพมาให้ท่านผู้อ่านได้รับชมครับ

เช่าจักรยาน ร้านไหนดี ?

สำหรับท่านผู้อ่านท่านใดอยากจะเช่าจักรยานและเริ่มลุยปั่นเลย ขอเตือนครับ ที่บอกให้ใจเย็น ๆ คือ อยากเตือนว่าให้หาคันที่เข้ากับท่านผู้อ่านมากที่สุด ทั้งการถ่ายรูป ท่านั่งการปั่น ถ้ามา 2 ท่าน แล้วอยากจะเช่าคันเดียวแบบซ้อนท้าย ให้ดูเบาะดี ๆ ครับ บางร้าน อาจจะไม่มีเบาะให้ แต่บางร้านก็มีครับ

ครั้งแรกที่ทางผู้เขียนมา มากับแฟน อย่างพลาดเลยครับ เลือกแบบไม่มีเบาะมา ก้นระบมกันเลยทีเดียว 😂😂

ส่วนครั้งนี้ ทางผู้เขียนไปเจอร้านลุงจวบ ซึ่งลุงให้คำแนะนำดีมากครับ ลุงถามว่า อยากจะปั่นแบบไหน ปั่นไปถึงไหน เอาคันใหญ่ ๆ มั้ย สบายกว่านะ โดยราคาอยู่ที่ 50 บาทต่อคัน และมีน้ำเปล่า 1 ขวดให้ตอนแรก และตอนนำจักรยานมาคืนแล้ว ลุงบอกว่าจะได้น้ำตาลสดกับผ้าเย็นอีกทีครับ โปรโมทให้ซะเลย

ไปไหนก่อนดี วางแผนกันเถอะ

อยากจะไปนั่งชิลที่ร้านกาแฟก่อนไหม ? ถ้าอยากขอแนะนำร้าน ปั่น กิน แฟ ที่ผู้เขียนได้ลองไปสัมผัส ตอนที่ไปบางกะเจ้าอีกครั้ง

ขออนุญาตินำภาพแผนที่ ที่ทางร้านพบรัก ณ บางน้ำผึ้ง มาเป็นภาพแสดงสถานที่ที่น่าสนใจแต่ละจุด โดยจุดที่เราอยู่คือท่าเรือวัดบางน้ำผึ้งนอก ซึ่งอยู่ตำแหน่งบนขวาของแผนที่ครับ

จากภาพจะเห็นว่ามีหลายสถานที่ให้ไปเลยครับ แต่สำหรับบทความนี้จะนำเสนอสถานที่ดังนี้ครับ

  • พิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย
  • สวนศรีนครเขื่อนขันธ์
  • วัดพราหมณ์ มหาเทวาลัย
  • ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง
  • Bangkok tree house

สำหรับร้านพบรัก ณ บางน้ำผึ้ง ถ้าท่านผู้อ่านสนใจสามารถดูข้อมูลเพิ่มได้ที่ Facebook และดูเมนูอาหารได้ที่ Wongnai ครับ

จุดหมายแรก พิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย

ทำไมถึงต้องไปที่พิพิธภัณฑ์ปลากัดไทยเป็นที่แรก คำตอบคือ เพราะผู้เขียนไม่ได้คิดไว้ครับว่าจะไปไหนก่อน (จริง ๆ ก็คือ ไม่ได้ plan นั่นแหละ 55555) แต่อยากให้ท่านผู้อ่านทุกท่านทราบว่า ทางทุกทางนั้นเชื่อมกันได้หมด ทำให้เราไม่ต้องกลัวหลง ไปที่ A ก่อน แล้วไป B หรือจะไป B ก่อน แล้วค่อยมา A ก็ได้ และเราสามารถถามทางกับคุณป้า คุณลุง คุณน้อง คุณพี่ ที่พบเจอได้ครับ เค้าไม่กัด ไม่ด่าเราแน่นอนครับ เมืองนี้มีแต่คนมีน้ำใจครับ (ลืมบอกไปว่าผมเกิดที่สมุทรปราการ)

แต่สำหรับท่านผู้อ่านที่ซีเรียสเรื่องเวลาก็อาจจะต้องแพลนไปหน่อยว่าไปร้านไหนก่อน ใกล้ไกลยังไง จะได้ไม่ชิลเกินและไม่เสียเวลาครับ

มาดูเส้นทางปั่นจักรยานกันดีกว่าครับ

บางเส้นทางจะต้องไปบรรจบกับถนนหลัก ซึ่งจะมีรถเยอะ ขอให้ใช้ความระมัดระวังด้วยนะครับ

กลัวว่าเห็นภาพนิ่งแล้วจะไม่พอ เลยใส่ .gif มาฝากครับ

เมื่อมาถึงแล้ว จะพบทางเข้าดังภาพด้านล่าง

ข้างในก็จะมีร้านเครื่องดื่ม Plakad Cafe, จุดชมปลากัด และจุดชมปลาน้ำจืดครับ โดยทางผู้เขียนมาถึงตรงนี้ก็เริ่มร้อนแล้ว 🌞🌞🌞 นี่แค่ 9.00 น. นะเนี่ยยยย ก็เลยเริ่มจากหากาแฟเย็น ๆ ก่อนเลย

เมื่อนั่งดื่มกาแฟเสร็จแล้วทางผู้เขียนก็เริ่มไปดูเจ้าปลากัดที่ว่าก่อน โดยทางเดินที่เข้าไปดูข้างใน ก็ยังมีอีกหลายมุมสวย ๆ ให้ได้เก็บภาพครับ

และนี่คือโฉมหน้าของเจ้าปลากัดตัวที่เห็นกล้องปุ๊ป ก็อวดความสง่างามของตัวเองปั๊ป

ถัดจากจุดที่รับชมปลากัดเล็กน้อย ก็จะเป็นปลาน้ำจืดครับ

สวนสาธารณะและสวนพฤกษชาติ ศรีนครเขื่อนขันธ์

จุดที่สองนี้ ตั้งใจว่าจะมาปั่นจักรยานชิล ๆ กันที่นี่ครับ ซึ่งจากที่เคยมาครั้งแรก ติดใจกับความสดชื่นของที่นี่มากมาย แถมยังมีมุมมหาชนสำหรับถ่ายภาพที่มีอยู่ในหลาย ๆ บทความของท่านอื่นด้วยครับ

แต่เมื่อมาถึงปั่นได้ไม่นานก็สังเกตุสัญญาณที่ไม่ดีเลยครับ นั่นคือ 🌨 ฝน 🌨!!!!

แล้วจะหลบยังไงดี … ก็นึกขึ้นได้ว่า ไปที่จุดชมนกเลยก็แล้วกัน มีที่หลบพอดี

เมื่อมาถึงจุดชมนกได้ไม่นาน ฝนก็มาทันทีครับ โชคดีที่ยังมาหลบทัน ติดอยู่ตรงนี้ประมาณ 30–45 นาทีได้ ก็ได้ยืนดูวิวในแบบที่ตั้งแต่ฝนตก จนฝนหยุด ก็ไม่เลวเหมือนกันครับ

จุดชมนก จะมี 3 ชั้น โดยที่ในปีนี้ ต้นไม้ยังไม่สูงมาก ถ้าขึ้นไปยืนชั้น 3 ก็จะเห็นมุมมองที่สูงกว่าต้นไม้นะครับ แต่ในอนาคต มุมมองอาจจะเปลี่ยนเนื่องจากต้นไม้ที่เติมโตขึ้นก็เป็นได้

สำหรับจุดชมนก ทางผู้เขียนเพิ่งเห็นว่า มีท่านอื่นที่มาตั้งใจเพื่อชมนกที่ไม่ค่อยได้เห็นทั่วไปครับ ทางผู้เขียนก็ได้บังเอิญเห็นด้วยว่ามีนกพันธ์หนึ่ง ไม่รู้พันธ์อะไร แต่มีสีฟ้าที่สว่างสวยงามดีครับ เห็นตอนจังหวะกางปีกพอดี ท่านผู้อ่านท่านใดที่อยากมาสัมผัสด้วยสายตาของท่าน ก็ขอเชิญชวนครับ

เมื่อฝนหยุดแล้ว จึงเก็บภาพอีกซักเล็กน้อยที่ข้างบนจุดชมนก

มีมุมมหาชนด้วยนะ แต่เปียกแบบนั้นขอไม่เล่นดีกว่า อิอิ

หลังจากนั้นก็ปั่นวนไปทั่วเลยครับ อากาศหลังฝนตกช่างเย็นสบายดีเยี่ยมเลย และก็มีภาพมาฝากอีกเช่นเคย

วัดพราหมณ์ มหาเทวาลัย

เมื่อเข้ามาด้านใน จะพบกับองค์พระพิฆเนศขนาดใหญ่ ซึ่งมีความสวยงามมาก หากท่านผู้อ่านท่านใดสนใจที่จะมาสักการะบูชา ก็ขอเรียนเชิญครับ

ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง

ในที่สุดก็ถึงเวลาเรื่องของการกินซักที แต่สำหรับทางผู้เขียนไม่ค่อยได้สนใจหรอกครับเรื่องของกินน่ะ จริง จริ๊งงงงงง

ขอแนะนำสำหรับสายกินน้อย แต่อยากกินเยอะ โปรดอย่ากินของหนักท้อง ให้กินจุบกินจิบไปเรื่อย ๆ จะได้หลายอย่างกว่าครับ

เริ่มแรกทางผู้อ่านก็มองหาจานหนักก่อนเลยครับ หารู้ไม่ว่ามันทำให้อิ่มเร็วไปหน่อย ก็ถือว่าพลาดไป เดินไปซักพัก เจอร้านอาหารร้านใหญ่ร้านหนึ่ง มีทั้งตามสั่ง ก๋วยเตี๋ยว ข้าวหน้าเป็ด แต่เมนูที่ทางผู้อ่านกินคือ ข้าวหมูกระเทียมครับ คือ มันอร่อยมากครับ ไม่ได้เจอร้านที่ทำเข้มข้นแบบนี้มานานแล้ว จนต้องพูดถึง ก็เลยโปรโมทให้ป้าเค้าซะเลย

เมื่อเริ่มมีพลังจากการกินบ้างแล้ว ก็ลุยต่อกับการหาของกินเล่นและหาสิ่งที่น่าสนใจต่อ ทางผู้เขียนก็โดนไป 4–5 อย่าง กินที่นี่และซื้อกลับบ้าน คือ ปลาแนม, แจงลอน, ไส้กรอกโบราณ และยำหอยดอง

ด้วยความที่เดินกินไม่ถนัด ก็เลยมองหาที่นั่ง แล้วไปเจอสถานที่นี่ครับเป็นเหมือนจุดชุมนุมของผู้ใหญ่หลาย ๆ วัย ที่ต้องการทำกิจกรรม ร้องเพลงและเต้น โดยสถานที่นี้ชื่อว่า ดนตรีในสวน @ ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง

ส่วนตัวแล้วผมรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะคนที่เริ่มสูงอายุ หรือคนที่มีครอบครัวที่ใหญ่ขึ้นแล้ว พวกเค้าจะไม่ค่อยได้เข้าสังคม ทำให้ไม่ค่อยได้มีความสนุก ความผ่อนคลายในส่วนนี้ สำหรับท่านผู้อ่านที่สนใจอย่าพลาดนะครับ

ต่อไปเป็นร้านที่พลาดไม่ได้สำหรับตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง นั่นคือ ร้านเรือนนมสด

ดูจากป้าย และหน้าร้านก็น่าจะปกติหนิ มีเมี่ยงคำ ห่อหมกปลาช่อน แล้วก็เครื่องดื่ม แล้วทำไมถึงบอกว่าพลาดไม่ได้ … เพราะว่า บรรยากาศครับ

ด้วยความที่ร้าน ตกแต่งเป็นบ้านแบบไทยเดิมในสมัยก่อน มีมุมให้ถ่ายภาพสวย ๆ อีกเช่นกันครับ เสียดายที่ทางผู้เขียน ไม่ได้ลองกินซักอย่าง เพราะพลาดไปกินอย่างอื่นจนอิ่ม 😭😭 และ plan ว่าจะไปกินต่อที่ Bangkok tree house แต่เท่าที่อ่านจาก Review ท่านอื่น ๆ เห็นว่าเครื่องดื่มมีรสชาติเข้มข้น(แต่อย่าเพิ่งเชื่อ จนกว่าจะได้ลองเอง) และเมี่ยงคำก็มีสั่งออนไลน์ด้วยนะครับ

Bangkok tree house

สำหรับสถานที่ต่อไป คือสุดท้ายสำหรับ Trip นี้ครับ ทางผู้เขียนจะพาไปชมบรรยากาศของร้าน Bangkok tree house ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นที่พัก แต่จะมีร้านอาหาร & เครื่องดื่ม เพราะฉะนั้นจะมีลูกค้าที่เป็นแขกที่มาพักอยู่แล้ว ทั้งชาวไทยและต่างชาติ ทำให้คนในร้านค่อนข้างเยอะ (หรือเพราะเราไปรบกวนที่พักเค้านะ 🤔🤔)

การเดินทางมาร้านนี้ ต้องบอกว่า แถบจะใกล้กับท่าเรือข้ามฟากที่เรามาเลยครับ เพราะฉะนั้น จริง ๆ แล้วสามารถ plan ว่าเป็นที่แรกของ Trip ก็ได้ แต่ทางผู้เขียนเลือกเป็นที่สุดท้ายครับ

เส้นทางที่จะมาร้านนี้ ค่อนข้างเล็กทีเดียว ถ้าเปิดดูจาก Google Map จะพบว่ามันมีลักษณะนี้ครับ

ตอนแรกทางผู้เขียนไม่ได้เดินไปจนสุดครับ ใช้แต่สายตามองก็เห็นว่าน่าจะเป็นทางตัน เลยงง ๆ วนไป-มาแถวนั้นอยู่ สุดท้ายก็ลองปั่นไปดูก็พบทางเข้าประมาณนี้ครับ

สังเกตุว่า จะมีป้ายอยู่ที่เสาไฟฟ้า ซึ่งไปทางเดียวกันกับร้านพบรัก ณ บางน้ำผึ้ง เช่นเดียวกันครับ

ทางค่อนข้างแคบและเล็ก แต่ว่าจักรยานสวนกันได้อยู่ เมื่อมาตามทางเรื่อย ๆ ก็จะพบกับร้าน Bangkok tree house

สำหรับบรรยากาศภายในร้านก็ค่อนข้างดีเลยครับ มีโซนที่เป็นแอร์ และพัดลมด้วย ทางผู้เขียนสั่งเมนูเป็นชาเขียวและกาแฟคาปูชิโน โดยในร้านอาจจะวุ่นวายบ้างด้วยเหตุผลที่บอก แต่ก็มีสิ่งที่น่าสนใจอย่างอื่นด้วย

สิ่งที่น่าสนใจอย่างอื่นก็คือ ข้างนอกร้านจะมีจุดชมวิวที่แม่น้ำด้วย โดยท่านผู้อ่านสามารถเดินออกไป ผ่านโซน Staff ครับก็จะพบกับวิวที่ว่า

พอชมวิวไม่นาน ก็รู้สึกว่ามันช่างร้อนเหลือเกิน ก็เลยกลับดีกว่า ก็ปั่นจักรยานกลับไปที่จุดเช่า แล้วก็คืนจักรยาน แล้วก็ได้รับน้ำตาลสด และผ้าเย็นด้วย 2 ชุด ซึ่งความจริงน่าจะต้องได้แค่ชุดเดียวเพราะผมเช่าจักรยานคันเดียว ก็รู้สึกดีครับ

สรุป

ลำดับสถานที่และเวลาคร่าว ๆ โดยประมาณ ดังนี้

  • ไปถึงที่ท่าน้ำวัดบางนานอกประมาณ 8.15 น.
  • ใช้เวลาข้ามฟากถึงจุดเช่าจักรยาน ประมาณ 10–15 นาที (เวลารอ + เวลาเรือข้ามฟาก)
  • ปั่นไปที่พิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย เป็นที่แรก
  • สถานที่ที่สองคือ สวนศรีนครเขื่อนขันธ์
  • ติดฝนที่สวนศรีนครเขื่อนขันธ์ (จุดชมนก) ประมาณ 30–45 นาที หลังจากฝนหยุดก็ปั่นเล่นอีกซักพัก รวมเวลาแล้ว ประมาณ 1 ชม.
  • จากนั้นแวะไปวัดพราหมณ์ มหาเทวาลัย
  • ที่ถัดไปคือตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง กินข้าวกลางวัน + เดินทั่วตลาด + นั่งกินของกินเล่น ใช้เวลาราว ๆ 2 ชม.
  • จบที่ Bangkok tree house นั่งกินกาแฟนประมาณ 30 นาทีและนั่งเรือกลับประมาณ 14.30 น.

ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ (เริ่มจากข้ามเรือจากวัดบางนานอก)

  • เรือข้ามฟากขาไป-กลับ คนละ 4 บาท 2 คน คือ 8*2 = 16 บาท
  • ค่าเช่าจักรยานร้านลุงจวบ 50 บาท (มีน้ำ 1 ขวดให้ตอนแรก แต่ตอนคืนจักรยานจะได้น้ำตาลสดและผ้าเย็นตามจำนวนคน)
  • ค่ากาแฟที่ร้านในพิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย ค่าอาหารกลางวัน ของกินเล่น และซื้อกลับบ้านที่ตลาดบางน้ำผึ้งประมาณ 300 บาท
  • Bangkok tree house ค่าเครื่องดื่มชาเขียว และกาแฟคาปูชิโน่ รวมกัน 75 + 85 = 160 บาท
  • รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดโดยประมาณ 16 + 50 + 300 + 160 = 526 บาท

สำหรับบทความ เที่ยว — บางกะเจ้า & ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง สมุทรปราการ นี้ก็ขอจบแต่เพียงเท่านี้ บทความที่เกี่ยวกับเที่ยว จะมีมาเรื่อย ๆ ถ้าทางผู้เขียนได้ไปเที่ยวไหนมา จะเก็บภาพและมาเล่าเรื่องราวให้ท่านผู้อ่านนะครับ ขอบคุณที่ติดตามและอ่านจนจบครับ สุดท้ายขอฝากบทความเกี่ยวกับเรื่องเที่ยวที่อื่นไว้ด้วยนะครับ

[Review] เที่ยว — เขาพนมรุ้ง บุรีรัมย์

ความจริงแล้วในบางกะเจ้า และบางน้ำผึ้งยังมีที่ที่น่าสนใจอีกหลายที่เลยนะครับ ถ้าท่านผู้อ่านอยากจะอ่านเพิ่มเติม ผมแนะนำ Review นี้ของคุณ IN MY EYE เลยครับ ค่อนข้างเยอะ และละเอียด

หากท่านผู้อ่านมีคำถามหรือข้อสงสัย หรือมีคำแนะนำ อยากติชม สามารถติดต่อผู้เขียนได้เลยครับ

--

--