Write Amplification คืออะไร
ข้อมูลที่เก็บอยู่บน SSD จะถูกเรียกว่าเซลล์ของหน่วยความจำแบบแฟลช (Flash memory cell) ซึ่งมันจะถูกเรียงรวมกันเป็นส่วนที่เรียกว่า บล็อก (Block) โดยแต่ละบล็อก ก็จะมีการแบ่งออกเป็นสิ่งที่เรียกว่า เพจ (Page) ซึ่งในการใช้งานเขียนข้อมูลลง SSD จะต้องทำ Garbage Collection ก่อนซึ่งเป็นการทำสำเนาของข้อมูลในบล็อกเก่า ไปเขียนลงในบล็อกอื่นเพื่อให้ข้อมูลไม่หายไป จากนั้นทำการเขียนทับข้อมูลใหม่ลงในบล็อกนั้น
จากภาพเป็นการยกตัวอย่างแบบง่าย คือมี SSD ขนาด 2 บล็อก บล็อกละ 4 page ซึ่งต้องการเขียนข้อมูล B ขนาด 2 page แต่เมื่อทำการเขียนข้อมูลจริงๆ ต้องทำการสำเนาข้อมูล A ก่อน ซึ่งมีขนาดอีก 2 page ดังนั้นจะเกิดการเขียนทั้งหมด 4 page ซึ่งปรากฏการณ์ที่การเขียนข้อมูลจริงๆ มีจำนวนมากกว่าข้อมูลที่ต้องการเขียนแบบนี้เรียกว่า Write Amplification
ผลลัพธ์
1. อายุการใช้งานที่ลดลง: การเขียนข้อมูลบน SSD ที่บ่อยขึ้น เป็นการลดอายุของ SSD
2. สูญเสียประสิทธิภาพในการใช้งานพื้นที่: การทำงานของ SSD ถูกใช้งานอย่างไม่เป็นประสิทธิภาพ
3. เขียนข้อมูลได้ช้าลง: ทำให้ SSD ทำงานช้าลงเนื่องจากต้องเขียนข้อมูลเพิ่มเติมซึ่งไม่จำเป็น
ข้อแนะนำการใช้ SSD หรือ NVM Storage
1. เลือกใช้ SSD: เลือกใช้ SSD ที่มีเทคโนโลยีลดการเกิด Write Amplification จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้น
2. Trim: เป็นคำสั่งที่ช่วยให้ SSD ลบข้อมูลที่ไม่จำเป็นออก ซึ่งจะช่วยลด Write Amplification และเพิ่มอายุการใช้งานมากขึ้น
3. ลดการ Random Write: ลดการเขียนแบบสุ่ม (Random Write) สามารถลดการเกิด Write Amplification