10 อันดับ HTTP Response status code ที่เจอบ๊อยบ่อย บน Website
เราจะมีเกริ่นกันก่อนว่า HTTP Response status code คืออะไร?
HTTP Response status code เป็นรหัสข้อความตอบกลับจาก Server เมื่อเราทำการร้องขอไปยัง Server ซึ่งจะประกอบไปด้วยตัวเลข 3 ตัว โดยกลุ่มรหัสข้อความที่ response มาจาก server นั้นจะแบ่งออกเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่
1XX : Information response
รหัสกลุ่มนี้เป็นตัวรหัสตอบกลับชั่วคราวจากเซิฟเวอร์ มีไว้บ่งบอกข้อมูลให้ผู้ใช้ได้รับรู้ว่าผู้ใช้ต้องทำอะไรต่อหรือว่าเซิฟเวอร์กำลังดำเนินการอะไรอยู่เป็นต้น2XX : Successful response
รหัสกลุ่มนี้บอกผู้ใช้ว่าข้อมูลที่ส่งมายังเซิฟเวอร์ดำเนินการเรียบร้อยแล้วไม่มีปัญหาอะไร3XX : Redirect
ผู้ใช้จะต้องทำบางอย่างเพิ่มเติมเพื่อให้การร้องขอนั้นเสร็จสมบูรณ์ เนื่องจากเซิฟเวอร์จะส่ง URL Redirect กลับมา4XX : Client Errors
เป็นรหัสที่บอกว่าข้อมูลที่ผู้ใช้ได้ทำการร้องขอไปยังเซิฟเวอร์นั้นมีความผิดพลาด5XX : Server Errors
รหัสนี้จะบ่งบอกว่าเซิฟเวอร์มีความผิดพลาดซึ่งเกิดได้จากหลาย ๆ เหตุการ์ณ เช่น เซิฟเวอร์ล่ม, เซิฟเวอร์ไม่้เข้าใจคำสั่งร้องขอที่ผู้ใช้ส่งไปให้ เป็นต้นในเมื่อเราทำความรู้จักกับ Http status code แต่ละตัวกันเสร็จแล้ว ทีนี้เราจะมีเราจะมาดูกันว่ามีตัวไหนบ้างที่เราเจอกันบ๊อยบ่อยบน Website
200 OK : เป็นข้อความมาตรฐาน สำหรับบอกว่าการดำเนินการร้องขอสำเร็จแล้ว
201 Created : ทำการร้องขอสำเร็จ ซึ่งข้อมูลในเซิฟเวอร์ถูกสร้างขึ้นมาเรียบร้อยแล้ว
204 No Content : ทำการร้องขอสำเร็จแล้ว แต่เซิฟเวอร์ไม่มีข้อมูลตอบกลับใด ๆ
304 Not Modified : เป็นรหัสที่บอกกับผู้ใช้ว่าข้อมูลที่ทำการร้องขอยังไม่มีการปรับปรุงหลังจากการร้องขอครั้งล่าสุด(จะใช้เพื่อ caching)
400 Bad Request : ไม่สามารถทำตามคำร้องขอนี้ได้
401 Unauthorized : เป็นการบอกไปยังผู้ใช้ว่าจำเป็นต้องทำการระบุตัวตนก่อน
403 Forbidden : ข้อความร้องขอถูกต้อง และผู้ใช้ระบุตัวตนสำเร็จแล้วแต่ไม่มีสิทธิ์เข้าถึงส่วนนี้
404 Not Found : ตัวนี้เจอบ่อยแน่นอน 55+ เป็นรหัสที่บอกว่าเซิฟเวอร์ไม่พบข้อมูลที่ร้องขอ (URL ไม่รู้จัก API นี้)
409 Conflict : คำร้องขอของผู้ใช้มาไม่สามารถประมวลผลได้ เนื่องจากเกิดความขัดแย้งในข้อความที่ร้องขอมา เช่น การแก้ไขชนกัน
500 Internal Server Error : เซิฟเวอร์พบการทำงานที่ไม่คาดคิด ซึ่งทำให้ไม่สามารถปฏิบัติตามคำขอของผู้ใช้ได้
อ้างอิง
