บันทึกความรู้สึกในห้องเรียน Skooldio Creator Square ปี 2022 — ตอนที่ 2

Komkrit Kunanusont
3 min readOct 28, 2022

--

สวัสดีครับ กลับมาอีกครั้งกับบันทึกความรู้สึกจากการเข้าร่วม Skooldio Creator Square ครับ ในตอนที่แล้วได้เล่าให้ฟังถึงช่วงสมัคร ช่วงสัมภาษณ์ และกิจกรรม 3 ครั้งแรกไป ถ้าใครยังไม่ได้อ่านก็สามารถไปตามอ่านได้ที่นี่เลย

หลังจาก Panel ครั้งที่ 1 ทุก ๆ คนก็มาเจอกันอีกครั้งใน Class ของพี่ต้าตอนสุดสัปดาห์

Effective and Creative Teaching

เช่นเคยครับ เราจะขาดโพยไปไม่ได้ เนื้อหาของวันนี้แบบละเอียดยิบก็ไปตามกันได้ที่พี่มิ้นท์ได้เลย

ผมจำได้ว่าวันนั้นพี่ต้าเริ่มต้นด้วยการถามพวกเราว่า เคยไปเข้าร่วม workshop ไหน แล้วชอบบ้าง ผมก็มีแชร์ไปนิดหน่อย และฟังจากคนอื่น ๆ ด้วย ได้ยินไอเดียดี ๆ มาประมาณนึงเลย

สิ่งที่ผมชอบมาก ๆ เกี่ยวกับเนื้อหาในวันนี้คือ พี่ต้าบอกว่า เราสามารถสอนโดยที่มีความเชื่อว่า ผู้เรียนมีศักยภาพและความรู้ดี ๆ อยู่ในตัวอยู่แล้ว เราแค่ setup บรรยากาศ และสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมแก่การ discuss แล้วเขาก็จะแบ่งปัน และตกผลึกสิ่งที่เราอยากสื่อให้เขาเอง แต่ก็จะมีบางอย่างที่เป็น knowledge concept ที่จำเป็นต้องสอนด้วย ถ้าเป็นพวกแบบ hard skills

อีกสิ่งหนึ่งที่ตรงกับใจมาก ๆ คือ ให้ “สอนเฉพาะสิ่งที่จำเป็นจะรู้” เพราะผมกำลังมีปัญหาเรื่องที่พยายามสอน พยายามให้ข้อมูลมากเกินไปเพราะเราอยากให้เขารู้เยอะ ๆ แต่กลายเป็นว่าผู้เรียนจับจุดที่ต้องโฟกัสไม่ได้ เพราะ information overload

แล้วก็อีกอย่างหนึ่ง (ทำไมชอบเยอะจังวะ) ก็คือการเรียนรู้ต้องใช้เวลาในการตกผลึก ซึ่งนี่ก็มาจากประสบการณ์ของตัวเองอีกครับ ผมเคยไปเข้า class เกี่ยวกับ leadership แล้วยอมรับว่ากว่าจะเข้าใจในเนื้อหาเหล่านั้นจริง ๆ ก็อีกประมาณหนึ่งปีให้หลัง เพราะงั้นการให้เวลาตกผลึก สำคัญมากจริง ๆ

เนื่องจากรอบที่แล้วผมกลับบ้านไปด้วยความรู้สึก inspired เลยทำให้วันนี้ผมเปิดรับกับความรู้ และโฟกัสเรื่องของตัวเองน้อยลง อีกส่วนหนึ่งอาจจะเพราะเริ่มจะคุ้นเคยกับเพื่อน ๆ แล้วด้วย (เรียกว่า stranger level เริ่มน้อยลง 555) ก็เลยเป็นวันที่ผมรู้สึก inspired มากกว่าเดิมอีก และอยากเอาเรื่องที่เรียนรู้ในวันนี้ไปปรับใช้จริง

ขอบคุณพี่ต้ามาก ๆ เลยครับ ที่ให้ความรู้ดี ๆ เหล่านี้

Time to play! — Creators Playground

ก่อนหน้านี้ผมลืมเล่าไปว่า ทางทีม Skooldio สื่อสารกับพวกเราทุกคนด้วย Line group ครับ โดยทุกคนก็ join กันตั้งแต่ Orientation นี่แหละ ทีมงานทำงานกันแบบ realtime มาก ตอบแชตไว แล้วถ้าเราติดขัดเรื่องอะไรก็จะแก้ไขให้ได้แทบจะทันทีแบบฉับไว

รูปแบบของกิจกรรม Creators Playground เนี่ย เป็นเหมือนกิจกรรมฐาน ที่ให้ผู้เข้าร่วมได้ “ทดลองผลิต Content” ในรูปแบบต่าง ๆ จริง ๆ ซึ่งเป็นอะไรที่ว้าวมาก

ทีนี้กิจกรรมฐานที่ว่าก็จะมี 5 ฐาน ประกอบด้วย Blog SEO, TikTok, Video, Podcast และ Live ซึ่งทุกคนจะเลือกเข้าได้ 3 ฐาน ที่สนใจที่สุด ด้วยข้อจำกัดทางด้านเวลา (และแต่ละคนอาจจะไม่ได้สนใจทั้งหมดทุกฐาน)

ที่ต้องเกริ่นเรื่อง Line group มาก่อนเพราะว่าอย่างนี้ครับ ทางทีม Skooldio ส่งฟอร์มมาให้แต่ละคนเลือกทางไลน์ครับ ว่าอยากเข้าอันไหน ในช่วงเวลาก่อนที่เราจะเรียนคลาสของพี่ต้า แล้วก็จัดแจงเวลาให้ทุก ๆ คน เป็นรายบุคคล (ซึ่งผมค่อนข้างเชื่อว่าต้องทำ manual แน่ ๆ อึดสุด ๆ) พร้อมกับให้เตรียม content มาเป็นการบ้าน เพื่อที่จะได้เข้าปฏิบัติฐานแต่ละฐานได้แบบเรียบเนียนไร้รอยต่อ

ผมเลือก Blog, Video กับ Podcast ไป ด้วยความสนใจส่วนตัว แอบเสียดายนิด ๆ ตอนนี้ที่ไม่ได้เลือก TikTok เพราะส่วนตัวไม่เคยเล่น แต่ว่าพี่ต้ามาขายไว้ซะน่าสนใจ จะเปลี่ยนก็ไม่ได้ซะแล้ว 5555

สำหรับใครที่สนใจหลักการของการสร้าง Content ในแบบต่าง ๆ เราก็จะส่งท่านไปที่ ต้นโพยของเรา ก็คือพี่มิ้นท์อีกเช่นเคยครับ (หากินกันง่าย ๆ วน ๆ แบบนี้แหละ)

เนื่องจากผมตั้งใจจะเขียน Blog เป็นหลักอยู่แล้ว ก็ค่อนข้างชอบ Workshop ที่ทางทีม Skooldio จัดให้มาลองดูเรื่อง SEO นะ ที่ว่าโดยทั่ว ๆ ไปคนจะค้นหาคำไหนเยอะ (แต่ไม่เยอะเกินไป) เราก็เอา keyword นั้นมากระจาย ๆ ให้ทั่ว Blog ของเรา โดยที่ไม่ให้กระทบกับเนื้อหาโดยรวม (ผมมีแอบ ๆ ทำกับ Blog เรื่อง Droidcon ของตัวเองด้วยนิดหน่อย)

Video แอบทำผมผิดคาดไปนิด ตอนแรกคิดว่าเราจะทำ Tutorial video ง่าย ๆ บ้าน ๆ แบบอัดหน้าจอพูด ๆ แต่เอาเข้าจริง elements ต่าง ๆ ของ production มันเยอะมาก จนแบบรู้สึกว่าขอถอยมาตั้งหลักตั้งใจก่อน 55555

ส่วน Podcast นี่ ผมก็เพิ่งรู้ว่ามันมีสิ่งที่เรียกว่า Anchor ซึ่งเป็น product ที่เอาไว้สร้าง podcast ของ Spotify

ซึ่งมันใช้ง่ายเอาการ กดไม่กี่ครั้งก็สร้าง podcast ที่ sync ไป Spotify ได้เลย แต่จริง ๆ แล้วสิ่งที่ทำให้ง่าย คือการเตรียมการของทีม Skooldio นี่แหละครับ เตรียมไว้หมดเลยไม่ว่าจะเป็นเพลงที่ไว้ทำ Jingle ตอนเริ่ม Episode หรือจะเป็นไมค์ดี ๆ (ที่ผมโดนป้ายยาจนต้องไปซื้อมาบ้าง) แล้วก็โปรแกรมตัดเสียง Audacity

เรียกว่าอำนวยความสะดวกให้ทุกขั้นตอน อีกนิดนึงจะมาช่วยคิด Script ให้แล้ว 5555

ผลพลอยได้ของฐาน Podcast นี่ก็คือช่องนึงใน Spotify พร้อมทั้ง Pilot Episode ครับ ซึ่งของผมก็ยกให้เป็นทรัพย์สินของทางบริษัทไปเรียบร้อยแล้ว รอติดตามกันว่าจะเป็นยังไงต่อไปครับ

โดยรวม ๆ เป็นวันที่สนุกมาก ๆ ครับ ทั้งที่เป็นวันหยุด แต่ Skooldio ขนทีมงานมาแน่นมาก ทุกคนตั้งใจสุด ๆ ทำให้พวกเราก็ตื่นเต้นแล้วก็อินไปด้วย ขอบคุณทุก ๆ คนจริง ๆ ที่สละเวลาและพลังงานมาเพื่อให้ความรู้พวกเราครับ

Panel 2 — Tech KOL: Communication is Key

รูปแนะนำ Panel จาก Post ของ Skooldio

ขอสารภาพตรงนี้ว่าผมเชยสุด ๆ และไม่รู้มาก่อนว่า KOL ย่อมาจากอะไร (รู้อีกทีคือตอนจบวันและกลับบ้านไปแล้ว ว่าคือ Key Opinion Leader) แต่คุ้น ๆ หน้าหลายท่านในที่นี้อยู่ อย่างคุณอิงเนี่ย เคยเห็นผ่านตาจากวิดิโอที่ใครซักคนแชร์มา แล้วก็เจอกันรอบนึงแล้วในคลาสของครูกรีนครับ คนที่เหลือก็อาจจะได้ยินจากชื่อช่อง หรือว่าเพจ อย่าง Data Rockie นี่ก็เป็นเพจที่รู้จัก แต่ไม่ได้ติดตามเป็นการส่วนตัวครับ

สำหรับผม Panel Discussion รอบนี้ก็เลยแตกต่างจากรอบที่แล้วโดยสิ้นเชิง ตรงที่เหมือนผมได้มาฟังคนที่เก่งมาก ๆ หลาย ๆ คนคุยกัน โดยที่รู้ว่าแต่ละคนเนี่ยมีของแน่ ๆ แต่ไม่รู้จริง ๆ จัง ๆ ว่าเป็นยังไงเพราะไม่เคยได้สัมผัสด้วยตัวเอง

สิ่งที่ผมชอบในวันนี้คือ ประสบการณ์ที่แต่ละท่านแชร์ แบบ real มาก ๆ ทั้งเรื่องที่ว่าจัดการกับความรู้สึกยังไง เมื่อสิ่งที่สร้างมาชักจะไม่ได้เป็นไปในทิศทางที่ต้องการ ย้อนมาปรับความคิดตัวเองยังไง โดย Key point ก็คือคำถามที่ว่า “เราเริ่มทำสิ่งนี้แต่แรกเพราะอะไร” หรือก็คือ “เป้าหมาย” นั่นเอง

แนวความคิดนี้สามารถนำไปใช้ได้กับทุกเรื่องจริง ๆ ยิ่งในสภาวะที่เราอาจจะ overcomplicate สิ่งต่าง ๆ ในการใช้ชีวิต การทำงาน การตัดสินใจ หรือมัวแต่สร้างและจมอยู่กับเงื่อนไขมากมาย ว่าต้องทำสิ่งนี้ เพราะติดสิ่งนี้ หรือไม่สามารถทำสิ่งนั้นได้ เพราะติดเงื่อนไขนั้น ฯลฯ ถ้าเราแค่ลองถอยมามองเป้าหมายเป็นหลัก อาจจะมองเห็นทางเลือกที่เหมาะสมมากขึ้น แทนที่จะจมอยู่กับกระบวนการ

รู้สึกตัวเองโชคดีมาก ๆ ที่ได้มาฟัง session นี้แบบที่ Skooldio ช่วยจัดการให้เราไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเองเลย

รอบต่อไป หลังจากหยุดไปประมาณ 1 สัปดาห์ เป็น Demo day แล้ว เพราะงั้นบทสนทนาของหลาย ๆ คนก็วนเวียนอยู่ตรงนี้แหละ ว่าเราจะทำอะไรกันดีนะ ในส่วนของผมก็คือ ใจไปสิงคโปร์แล้ว แล้วก็กะจะไปหยิบ Content จากสิงคโปร์นี่แหละ 5555 ถ้าใครสนใจ ลองไปอ่านเรื่องราวจากสิงคโปร์ของผมได้ที่นี่

ในส่วนของบทความนี้ก็คงขอ (ตัด) จบเลย ด้วยเหตุผลแบบสีข้างเข้าถูว่า Demo day ไม่ใช่คลาสเรียน 5555 (จริง ๆ จะมีอีกคลาสนึงของคุณอิงตอนช่วงเช้า ที่เนื้อหาก็ดีมาก ๆ เหมือนกัน แต่บทความนี้เริ่มยาวแล้วล่ะนะ)

ถ้าให้สรุปสั้น ๆ ก็คือ เพื่อน ๆ ร่วมชั้น ตั้งใจทำมาก เห็น character ของ content ที่แต่ละคนตั้งใจจะทำแบบชัดเจน ผมเชื่อว่าถ้ากลับมาอ่านบทความนี้อีกครั้งในปีหน้า เพื่อน ๆ แต่ละคนคงจะดังทะลุฟ้าไปแล้ว (ขอลายเซ็นหรือถ่ายรูปคู่ไว้ก่อนให้หมดเลยดีไหมนะ)

สุดท้ายนี้ก็ต้องขอขอบคุณ Skooldio ทั้งพี่ต้าเอง และทีมงานทุก ๆ คน ที่ริเริ่ม ผลักดัน และช่วยกันทำให้กิจกรรมนี้เกิดขึ้น และผ่านไปจนสำเร็จครับ

ไม่ได้พูดเกินความจริงเลยที่บอกว่า Skooldio Creator Square ช่วยให้ผมก้าวข้ามความกลัว ความลังเลใจของตัวเอง มีความมั่นใจมากขึ้นที่จะออกจากวังวนเงียบ ๆ ของตัวเองไปสู่ลานกว้าง ๆ ที่มีผู้คนมากมาย เพื่อจะแบ่งปันความรู้ และประสบการณ์ โดยหวังว่าจะเป็นประโยชน์กับวงการ Tech ของไทย ไม่มากก็น้อย

หวังว่าจะมีกิจกรรมนี้ต่อให้รุ่นถัด ๆ ไปครับ ผมเชื่อว่ายังมีคนอีกมากมายที่จะได้รับประโยชน์จากสิ่งนี้ ทั้งผู้เข้าร่วมเอง และผู้ที่จะมาเป็น Content Consumers ในอนาคตด้วยเช่นกัน

--

--

Komkrit Kunanusont

Mainly a Mobile developer, sometimes leading a small software devs team, sometimes thinking, sometimes coding, sometimes dreaming and coding in parallel