How to เตรียมตัวสอบ TOEIC ด้วยตัวเองล้วนๆ #1

Kpz Charles
2 min readMay 10, 2017

--

แนะนำวิธีเตรียมตัวสอบ TOEIC ด้วยตัวเอง สำหรับคนที่ไม่มีพื้นฐานภาษาอังกฤษ แบบต่ำเตี้ย และย้ำว่า เตรียมตัวด้วยตัวเองเท่านั้น ไม่ได้มีการเรียนพิเศษ หรือ ติว เพิ่มใดๆทั้งสิ้น :)

ข้อสอบ TOEIC นั้นแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนแรกเป็นส่วนของการฟัง ส่วนที่สองเป็นส่วนการอ่าน ไม่พูดเรื่องของสอบมากละกันไปโฟกัสที่การเตรียมตัวดีกว่า ฮ่าๆๆ

ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

คำแนะนำเบื้องต้น

สำหรับผม ผมเตรียมตัวโดยการหาข้อมูลของข้อสอบก่อนครับ ข้อสอบเป็นแบบไหน มีวิธีการอย่างไร จะได้เตรียมตัวถูกครับ

หลังจากได้ข้อมูลแล้ว ผมก็หาอ่านประสบการณ์ของคนที่ไปสอบครับ หลายๆคนบอกว่าข้อสอบส่วนการฟังเอาง่าย และข้อสอบส่วนการอ่านยาก หลังจากได้ลองเตรียมตัว ผมต้องบอกเลยว่า

จริงๆมันยากทั้งสองส่วน ฮ่าๆๆ

เพราะในส่วนของการฟัง ถ้าฟังไม่ออกก็ตายสถานเดียวครับ แต่เนื่องจากส่วนนี้ ถ้าเทียบอัตราส่วนคะแนนต่อข้อ มันจะได้คะแนนกว่าการอ่านครับ ซึ่งเหมาะแก่การเอาคะแนนในส่วนมากอย่างมาก ส่วนการอ่านนั้นบอกเลยว่าต้องเป็นคนมีพื้นฐานแกรมม่าที่ดีครับ และต้องเก่งภาษาอังกฤษระดับหนึ่งจึงจะสบาย ถ้าคิดว่าตัวเองไม่ใช่ก็ต้องเตรียมตัวหนักครับ ซึ่งผมไม่ใช่เลย 555 ต้องออกตัวก่อน

และสิ่งที่ไม่ควรละเลยอย่างมากคือ การวิเคราะห์ตัวเองครับ ว่าเรามีความรู้ภาษาอังกฤษระดับไหน แบบไม่หลอกตัวเอง

ง่ายๆก็ลองหาแนวข้อสอบมาทำครับ แล้วตรวจดูว่าได้กี่คะแนน คะแนนไม่หลอกแน่นอน 55555 เอาหละน่าจะพอรู้แนวทางละ หลังจากวิเคราะห์ตัวเองแล้วก็เข้าสู่การเตรียมตัวกันโล๊ดดด

การเตรียมตัว

ห้วงเวลาที่ผมสอบรวมทั้งหมดตั้งแต่เตรียมตัววันแรกจนถึงสอบผ่านคะแนนที่ต้องการ สิริรวมทั้งสิ้น

365 วัน

แต่อย่าเพิ่งตกใจไปครับ ผมไม่ได้อ่านทั้งหมดนั้น 555 ผมไปสอบจริงๆแค่ 3 ครั้งเองแหม (แต่ก็เยอะอยู่นะ 555) ผมขอแบ่งการเตรียมตัวสอบออกเป็น 3 ครั้งตามจำนวนที่ไปสอบแล้วกันครับ เพราะการเตรียมตัวในแต่ละรอบไม่เหมือนกันเลย ปรับตามผมสอบที่ได้ในแต่ละครั้ง

การสอบครั้งที่ 1 ประมาณเดือน พฤษภาคม 2559

หลังจากหาข้อมูลอะไรต่างๆเรียบร้อยแล้ว ผมก็ลองถามอากู๋ ถามเพื่อน ถามคนรู้จักว่ามีคนแนะนำหนังสือ หนังสือเล่มแรกที่ผมได้มาคือเล่มนี้ครับ

ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

หนังสือเล่มนี้เป็นแนวข้อสอบครับ สำหรับผมว่ามันง่ายเกินไป ถ้าสำหรับผู้เริ่มต้นแนะนำครับ จะได้คุ้นชินกับข้อสอบ ย้ำนะครับว่าเพื่อความคุ้นเคย ถ้าจะเอาเป็นตัวหลักยังไม่แนะนำ เนื่องจากสมัยนั้นผมไม่สามารถอ่านแผ่นซีดีที่แถมมาได้ ผมเลยอาศัยหาโหลดเอาครับ ซึ่งแน่นอนมันไม่ครบทุกชุดแน่นอน ถ้าจำไม่ผิดน่าจะทำได้แค่ 3 ชุดมั้ง 555 ก็ทำได้แค่นั้นครับ และผมมีความรู้สึกว่า การอ่านไม่น่ายาก เพราะเราก็อ่านภาษาอังกฤษได้อยู่(ระเบิดเวลาลูกที่ 1) 555

ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

ส่วนเล่มนี้ได้มาเพราะคิดว่าน่าจะเอาไว้อ่านแกรมม่า ทำข้อสอบส่วนการอ่านครับ เริ่มต้นด้วยการอ่านแกรมม่าแล้วก็เน้นข้อความไปเรื่อยครับ และลองทำข้อสอบด้านหลัง เนื่องจากคิดว่าตัวเองอ่านภาษาอังกฤษได้ครับ ผมเลยเลือกเฉพาะส่วนที่เป็น Incomplete Sentences และ Text Completion ซึ่งว่าน่าจะยากที่สุดครับ ซึ่งจริงๆมันก็ยากที่สุดสำหรับผมนั่นแหละ ฮ่าๆๆ

การเตรียวตัวในครั้งแรกนั้นผมอ่านแกรมม่าจนจบเล่มจากหนังสือที่มีครับ แล้วลองทำข้อสอบภายในเล่มครับ ทำของ barron ไปทั้งหมด 3 ชุด 555 น้อยมากกกกกก และไปโหลดข้อสอบที่เค้าเครมว่าคล้ายจริงที่สุดของ oxford มา 2 ชุดครับ น่าจะประมาณนี้ครับ เนื่องจากในช่วงที่เตรียมตัวผมทำงานแทบจะทุกวันครับ เลยมีเวลาเตรียมตัวหลังเลิกงานเท่านั้นคือช่วงเย็นๆ ช่วงแรกๆเลยได้แค่อ่านหนังสือเตรียมตัว ก่อนจะไปสอบมีวันหยุด 3–4 วันครับ ช่วงวันหยุดเลยมาลุยข้อสอบ ได้เท่าที่บอกครับ 5 ชุด และวนทำ oxford อีกเป็นชุดรอบ(เป็นวิธีที่ผิดมากสำหรับผม) สุดทำข้อสอบเหมือนจริงไป 7 รอบ พยามฟัเสียงงลำโพงไม่ใช้หูฟังตามที่ทำได้ และก็ไปสอบครับ

วันที่สอบ ผมเลือกสอบรอบบ่ายครับ เพราะไม่อยากตื่นเช้า การสอบครั้งนี้ผมวางแผนไปนอนกับเพื่อนก่อนสอบ หนึ่งคืนเช้าอีกวันค่อยไปสอบ และนอนคืนที่สองเพื่อรอผลสอบในวันถัดจากการสอบ แล้วกลับหลังจากเอาผลสอบแล้วครับ ครั้งแรกจึงสิริรวมเดินทางทั้งหมด 3 วัน อ่อลืมบอกผมไปสอบที่กรุงเทพทุกรอบนะครับ

ความรู้สึกหลังจากสอบครั้งแรก เอาตรงๆ ทำก็ไม่ทัน ฟังก็ไม่รู้เรื่อง 555 สรุปคือพัง แต่ก็ปลอบใจตัวเองว่า เออทำสุดความสามารถละ ตอนสอบเสร็จก็มั่นใจว่าคะแนนถึงที่ต้องการแน่นอน (แหม มั่นใจอะไรเบอร์นั้น 555) และแล้ววันที่รอคอยก็มาถึง หลังจากตื่นในวันที่สามผมก็ไปเอาผลสอบครับ ได้ซองผลมาครั้งแรกไม่เปิดครับ กะว่าจะทำเป็นวิดีโอเปิดซอง ซึ่งมันทำไม่ได้ เพราะมือถือกาก 555 เลยเปิดดูธรรมดาก็ได้ สถานที่เปิดคือ ฟูดคอร์ด ของ terminal 21 ทัวร์จีนเยอะชิบหาย มาถึงโอเคหาที่นั่ง และเปิดซอง หลังจากพยามถ่ายไปด้วยแบบที่บอกแหละครับ ไม่เวิค เลยเปิดดูเฉยๆ ซึ่งผลที่ได้คือ อือออออ

ความรู้สึกแรกหลังเห็นคะแนน ฮ่าาา แบบวุ่นวายมาก เพราะทัวร์จีน เอ้าไม่ใช่ ก็รู้สึก Fail ครับ แต่ก็ได้บอกตัวเองว่า เราอาจจะยังไม่พร้อม และยังเตรียมตัวไม่ดีพอ ก็กลับมาทำงานตัวเองต่อครับ และก็เตรียมตัวใหม่ เพื่อครั้งต่อๆไปคะแนนมันต้องดีขึ้น

วิเคราะห์ผลการสอบ

ครั้งแรกนั้นฝึกฟังก็น้อย แถมยังทำข้อสอบชุดเดิม อ่านสคลิปบทสนทนาด้วย รวมทั้งอ่านเฉลยว่าทำไมถึงผิดด้วย 555 สรุปคือตอนที่ซ้อมทำข้อสอบนั้น มีความคุ้นเคยกับคำตอบซึ่งพอทำอีกรอบมันเลยได้คะแนนเยอะขึ้น ก็เลยมั่นใจว่าตัวเองทำข้อสอบได้แน่นอน

มันคือความมั่นใจแบบผิดๆ

เพราะผมวิเคราะห์ได้ว่า ข้อสอบมันต้องเน้นการเจอข้อสอบ ซึ่งมันไม่สามารถใช้กับความเคยชินได้ มันต้องใช้ความเข้าใจในข้อความที่ให้มาในข้อสอบ และต้องเข้าใจข้อความในข้อสอบด้วย มาถึงตรงนี้ผมเลยตั้งใจว่าต้องเตรียมใหม่ ต้องให้ดีกว่าเดิม

หลังจากกลับมาก็ไม่ได้เตรียมตัวเลยครับ ผมทิ้งเวลาไปถึงสิ้นปี 555 ตั้งใจทำงาน เหตุผลหลักๆคือ ที่ที่อยากยื่นสมัครมันเปิดรับสมัครอีกทีปีหน้า เลยชิวๆไปจนถึงปีใหม่ แล้วผมก็กลับมารีบูทตัวเองเพื่อเตรียมตัวสอบอีกครั้งในช่วงต้นปี 2560

--

--