Pronto Tools ที่ๆเป็นมากกว่าที่ฝึกงาน

Kwang Kanjanart
1 min readAug 14, 2017

--

ชีวิตนักศึกษาคนนึงที่เกรดก็ไม่ได้สวยหรูอะไร ถึงเวลาต้องหาที่ฝึกงานแล้วจะทำไงดีแม่จ๋าT^T แล้วก็นึกขึ้นมาได้ว่า เหย เห่ย เห้ยยย!! ตอนปี2ที่เราเข้าไปฟังรุ่นพี่เรื่องที่ฝึกงาน มีรุ่นพี่มาฝึกที่ Pronto Tools นี่หน่า จำได้แค่ว่าพี่เค้าเล่าประสบการณ์ไว้ดีมาก(จำได้แค่นั้นจริงๆ) เพราะงั้นอย่าช้าสมัครเลยล่ะกัน

หลังจากก็มีโทรศัพท์เรียกไปสัมภาษณ์ตอนนั้นดีใจโคตรๆ พอมาถึงเวลาที่ต้องสัมภาษณ์จริงๆตอนนั้นตื่นเต้นมาก แบบแปลกที่ แปลกคน แต่ความตื่นเต้นนั้นหายไปตอนที่พี่ๆรวมกลุ่มกันมาสัมภาษณ์ ทุกคนเฮฮา น่ารัก ใจดีเป็นกันเองสุดๆ นั่นคือความประทับใจแรกที่ Pronto Tools เลยนะ ทำให้เราอยากฝึกงานที่นี่มากๆเพราะรู้สึกว่าเห้ยมันใช่อะแก นี่แหละที่ๆฉันคู่ควร

มาถึงวันประกาศผล แอบบอกก่อนว่าเราอยากฝึกงานที่นี่มากๆตั้งแต่สัมภาษณ์เสร็จเลยแอบไปถามรุ่นพี่ว่ามีคนมาสัมภาษณ์เยอะมั๊ย พอรู้จำนวนเท่านั้นแหละเงิบจ้าา อึ้งไปเลยย 5555 เพราะค่อยข้างเยอะและก็รับไม่เยอะด้วย เราเลยเริ่มถอดใจคิดว่าไม่ติดแล้วแหละเพราะคนที่มาสัมภาษณ์ก็เก่งๆทั้งนั้นเลย หลังจากนั้นก็มีสายเรียกเข้ามาแล้วโทรมาบอกว่าสัมภาษณ์ติดเราจะยืนยันเลยมั๊ย ตอนนั้นไม่ต้องลังเลเลยพี่จ๋าหนู say yes แทบจะทันที หลังจากนั้นในใจก็กรี๊ดๆแล้วก็เล่าให้เพื่อนฟัง แบบมันดีใจ มันปริ่มมากๆ ถึงขั้นไปฉลองโดนการกินไอติมกันเพื่อนๆ 55555

เราเลยอยากจะบอกน้องๆหรือคนที่จะมาฝึกงานที่นี้ว่า ที่นี่ไม่ได้วัดคนแค่ที่เกรดแต่พี่ๆเค้าวัดที่ผลงาน และลักษณะนิสัยของเราด้วย เพราะฉะนั้นเกรดน้อยไม่ต้องน้อยใจไปน้า

ข้ามมาวันแรกที่ต้องฝึกงานเลยล่ะกัน พี่ๆจะสอนเรื่องที่เราควรจะรู้ว่าที่นี่ใช้ tools แบบไหนบ้าง แต่ละอันใช้ยังไง แล้วก็มาเริ่มทำงานกัน ที่นี่ไม่มีคำว่าเด็กฝึกงานห้ามทำนู้นทำนี่ ไม่มีการห้ามความคิด ทุกคนเคารพกัน เท่ากันในเรื่องงาน เราสามารถเสนอ และคิดได้อยากเต็มที่ไม่มีการกีดกันใดๆ นี่ก็เป็นอีกหนึ่งความประทับใจของเรา

สังคมของที่นี่เน้นการจัดการด้วยตัวเอง มาเช้าก็กลับไว มาช้าก็กลับช้า เราต้องเคารพตัวเอง ตอนเช้าจะมีสลัดให้ มีขนมปัง ซีเรียล นม และเครื่องดื่มแทบจะทุกอย่างในตู้ สามารถหยิบได้หมด ตอนบ่าย 3 จะมีผลไม้ให้ใครใคร่หยิบอะไรก็หยิบ นั่นเป็นเหตุผลให้ตอนนี้น้ำหนักเราขึ้นกว่า 3 กิโล!! และตอนนี้เราได้เป็นลูกหมูที่แข็งแรงไปแล้วเรียบร้อย T T นอกจากนี้ยังมีโต๊ะปิงปอง และสนุ๊กให้เล่นอีก เราก็จะเห็นพี่ๆมาเล่นกันในช่วงพักถ้าเราอยากเล่นก็ไปแจมกับพี่ๆได้เลย

มาถึงรูปแบบของการทำงานกันบ้าง ที่นี่จะทำงานโดยใช้ระบบ agile คือเราจะทำงานเป็น sprint โดย 1 sprint ใช้เวลา 2 อาทิตย์ และเราจะแบ่งงานออกเป็นการ์ด วันจันทร์แรกของ sprint จะเป็นการ planing [เป็นการวางแผนการทำงาน ทั้งการให้คะแนนแต่ละการ์ดและ technical ต่างๆ] และวันสุดท้ายของ sprint จะเป็นการ retrospective [เป็นการพูดความรู้สึกเกี่ยวกับ sprint นั้นๆ]

การทำงานเริ่มแรกของเราจะนั่งคู่กับพี่ๆก่อน เพื่อให้เข้าใจการทำงานและกระบวนการคิดมากขึ้น หลังจากนั้นพี่จะเริ่มปล่อยให้เราทำการ์ดเอง ถ้าไม่เข้าใจส่วนไหน อยากได้คำแนะนำหรือการสอนเพิ่มเติมถามพี่ๆได้เลย ไม่มีการดุและไม่มีการหวงความรู้ ที่นี่ให้เต็ม 100 จริงๆนะ เป็นแบบนี้ตลอดการทำงานเกือบ 2 เดือนของเรา

ตอนเราเขียนบล๊อคนี้เราเหลือเวลาการเป็นเด็กฝึกงานของทีนี้อีก 3 วัน พูดไปแล้วก็ใจหายเหมือนกันนะ ที่นี่เหมือนเป็นบ้านอีกหลังนึงของเรา พี่ๆเป็นเหมือนพ่อ แม่ ในบ้านหลังนี้เราได้รับการดูแล คำแนะนำ ทั้งในด้านการทำงาน และการใช้ชีวิตมากมาย ทำให้เราเห็นโลกกว้างมากขึ้น ทำให้เราอยากแสวงหาความรู้ ลองสิ่งใหม่ๆมากขึ้น เรากล้าพูดเลยว่าฝึกงานที่นี่ได้อะไรมากกว่าที่เราคิด เราได้พัฒนาตัวเองสูงมากๆ ทำให้เราแกร่งขึ้น เรารู้สึกว่าเราโชคดีมากที่ได้มาฝึกงานที่นี่ และก็รู้สึกขอบคุณพี่ๆมากๆที่คอยสอน คอยช่วย ขอบคุณทุกๆอย่างที่ทำให้เราได้มาอยู่ที่นี่ บ้านหลังนี้ถึงเวลาที่เราต้องจากเราคงเสียดายมาก เพราะเป็นบ้านที่เรารักมากจริงๆ และเราหวังว่าเราจะมีโอกาสได้กลับมาบ้านหลังนี้อีกครั้ง

--

--