BLUE LOCK คือโปรเจกต์ที่จะทำการรวบรวมนักกีฬาฟุตบอลตำแหน่งกองหน้าที่มีความสามารถ และอายุต่ำกว่า 18 ปี จากทั่วประเทศญี่ปุ่น จำนวน 300 คน เพื่อเข้ารับการฝึกฝนและพัฒนาในศูนย์ฝึกและที่พักที่จัดตั้งขึ้น เพื่อค้นหานักฟุตบอลกองหน้าที่เก่งที่สุดเพียงหนึ่งเดียว ด้วยแนวคิดที่ว่ากองหน้าที่เก่งที่สุดเพียงคนเดียวมีศักยภาพเพียงพอที่จะทำให้ทีมฟุตบอลทั้งทีมคว้าชัยชนะมาได้ และใครที่ล้มเหลวใน BLUELOCK (ถูกคัดออก) จะไม่สามารถเล่นฟุตบอลในวงการฟุตบอลญี่ปุ่นได้อีกในอนาคต

ตัวเอกของเรื่องนี้คือ อิซางิ โยอิจิ กองหน้าที่เคยเชื่อมั่นในการเล่นฟุตบอลเป็นทีม แต่แล้ววันนึงก็เกิดเหตุการณ์ที่อิซางิต้องตัดสินใจที่จะเลือกส่งฟุตบอลให้กับเพื่อนหรือทำประตูเองในช่วงสุดท้ายของการแข่งขัน ซึ่งในครั้งนั้นเค้าเลือกที่จะส่งฟุตบอลให้เพื่อน เพราะนึกถึงคำพูดของครูที่บอกว่าฟุตบอลคือกีฬาที่ต้องเล่นกันเป็นทีม และทำให้สุดท้ายก็เป็นฝ่ายโรงเรียนของอิซางิที่พ่ายแพ้ ทำให้เค้าต้องนึกย้อนทบทวนกับตัวเองซ้ำไปซ้ำมาว่าถ้าในตอนนั้นเค้าเลือกที่จะทำประตูเองอาจจะทำให้ไม่ต้องพ่ายแพ้ไปแบบนี้ และไม่กี่วันต่อจากนั้น ก็มีจดหมายมาจากสมาคมฟุตบอลญี่ปุ่นส่งจดหมายมาเชิญตัวเค้าไปที่สมาคม และเรื่องราวต่างๆก็ได้เริ่มขึ้น ตัวผมเองไม่เคยดูอนิเมะเกี่ยวกับกีฬาที่เน้นความสมจริงเลย แต่ที่เลือกดูเรื่องนี้เพราะเห็นว่าจะเป็นอนิเมะฟุตบอลที่ฉีกความเชื่อเดิม ๆ ของกีฬาฟุตบอลออกไปโดยสิ้นเชิง ต้องแข่งขัน ต้องห้ำหั่น ต้องแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกันเอง เพื่อที่จะเป็นผู้ที่ได้รับชัยชนะเพียงหนึ่งเดียว ไม่มีการร่วมมือกันเหมือนอนิเมะกีฬาหลายๆเรื่องที่มีในปัจจุบันก็เลยลองตัดสินใจดู มันเริ่มสนุกตอนที่อิซางิยิงประตูของตัวเองได้ทำให้รู้สึกถึงชัยชนะ และมีไฟที่จะต่อสู้พัฒนาตัวเอง และเนื้อหาก็เริ่มมีความแฟนตาซีมากขึ้นหลังจากนั้น ก็คือทักษะที่ทำให้อิซางิมีมุมมองที่เหมือนกับพระเจ้ากำลังดูผู้เล่นในสนาม สามารถคาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ บอลจะไปทางไหน โดนเตะโดยใคร จะยิงทางไหน ระยะยิงเท่าไหร่ ซึ่งตัวละครอื่นๆที่อยู่ทีมเดียวกับอิซางิก็มีความน่าติดตามไม่แพ้กันว่าจะมีความสามารถพิเศษอะไร อย่างคนที่ sprint ตัวเร็วมากกว่าคนปกติหลายเท่าจากการที่มีความผิดปกติทางด้านร่างกาย คนที่มีร่างกายที่ยืดหยุ่นมากๆ หรือคนจากทีมอื่นๆเองก็มีอะไรให้น่าติดตามเหมือนกัน แต่ละตอนของอนิเมะจึงมีอะไรให้น่าติดตามต่อในตอนต่อไปเรื่อยๆยังไม่มีช่วงที่เริ่มรู้สึกเบื่อเลยในปัจจุบันที่ฉายถึงตอนที่ 9 แล้ว

โดยรวมแล้วอนิเมะ BLUE LOCK เป็นอนิเมะแนวกีฬาฟุตบอลที่ทำออกมาได้น่าสนใจ และเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความแปลกใหม่ในชั้นเชิงในการดำเนินเรื่อง และทัศนคติที่ต่างออกไปจากอนิเมะแนวกีฬาฟุตบอลเรื่องอื่น ๆ และผู้ที่ชื่นชอบอนิเมะที่มีเรื่องขององค์ประกอบที่มีการเล่นเรื่องของจิตใจมนุษย์ การถกกันในปมปัญหาเรื่องของความถูกผิดในแนวคิด และชื่นชอบในอนิเมะที่มีองค์ประกอบในเรื่องของการแข่งขันก็น่าจะสนุกกับเนื้อหาที่ถูกนำเสนอใน BLUE LOCK ได้อย่างแน่นอน

ด้านงานภาพ BLUE LOCK เป็นอนิเมะที่มีงานภาพที่ทำออกมาได้ดี การดีไซน์ตัวละครแต่ละตัวละครทำออกมาได้อย่างมีเอกลักษณ์มีเสน่ห์ดึงดูด และน่าสนใจมาตั้งแต่ฉบับมังงะ การเคลื่อนไหวของตัวละคร และการแสดงสีหน้า ท่าทาง แววตา ทำออกมาได้อย่างลงตัว

โดย studio ที่มารับผิดชอบผลงานอนิเมะในครั้งนี้คือ studio 8bit ที่มีผลงานการสร้างอนิเมะที่ได้รับความนิยมมาแล้วหลายเรื่องอย่าง Mahouka Koukou no Rettousei พี่น้องปริศนาโรงเรียนมหาเวท ,IS: Infinite Stratos ปฏิบัติการรักจักรกลทะยานฟ้า,Tensei shitara Slime Datta Ken เกิดใหม่ทั้งทีก็เป็นสไลม์ไปซะแล้ว เป็นต้น

ด้านการเล่าเรื่อง BLUE LOCK มีการนำเสนอที่ทำออกมาได้ดีน่าสนใจ และน่าติดตามในทุกๆ ตอน ด้านตัวบทไม่ยืดเยื้อ และไม่เร่งเนื้อเรื่องทำให้ผู้ชมเข้าใจง่าย อาจจะมีบางช่วงบางตอนที่อาจจะต้องทำความเข้าใจกับกติกาบางอย่างของการแข่งขันฟุตบอลที่มีการดัดแปลงไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้ยากเกินกว่าจะทำความเข้าใจ

แนะนำตัวละครเบื้องต้น

อิซางิ โยอิจิ ตัวละครเอกของเรื่องเขามีความใฝ่ฝันที่จะเป็นกองหน้าที่เก่งที่สุดในโลกเช่นเดียวกับ Noel Noa นักกีฬาฟุตบอลกองหน้าทีมชาติฝรั่งเศส หลังจากที่เขาเข้ามาอยู่ใน BLUE LOCK เขาก็ได้รับการจัดอันดับให้เป็นผู้เล่นกองหน้าที่อยู่ในอันดับเกือบสุดท้าย

บาจิระ เมงุรุ หน้าตาดูน่ารักทรงผมทรงกัปปะ เก่งในด้านการเลี้ยงบอล เป็นคนนึงที่เล่นเข้าขากับอิซางิมาก เจอกับอิซางิตั้งแต่แรกๆ ชอบนอน มีความเป็นมิตร

บะโร โชเอย์ (คิดเองว่า) เป็นราชาในสนาม โคตรเอาแต่ใจตัวเอง เล่นแบบตัวเองเด่นคนเดียว ทุกคนต้องส่งบอลให้ ต้องเล่นแบบให้บะโรเล่นง่าย ชอบเรียกคนอื่นว่าไอ้ห่วย คนแบบนี้มันต้องโดนทำให้แพ้สักครั้งถึงจะสำนึก

คุนิกามิ เรนสุเกะ นักกีฬาฟุตบอลกองหน้าที่มีความจริงจังในอาชีพนักฟุตบอล เขาเป็นคนหนึ่งที่จิตใจดีและรักในความถูกต้อง

จิงิริ เฮียวมะ โดดเด่นเรื่องความเร็วมีกล้ามเนื้อไม่เหมือนคนอื่น เป็นเด็กเก่งมาตลอดจนเกิดอุบัติเหตุเอ็นขาขาด ทำให้ไม่กล้าวิ่งเร็วเหมือนเดิม นักกีฬาฟุตบอลกองหน้าอีกหนึ่งตัวละครหลักที่มีบทบาทน้อยในช่วงแรก ๆ เพราะไม่ค่อยมีส่วนร่วมกับทีมจากอดีตของเขา จนกระทั่งเขาได้เข้ามาฝึกใน BLUE LOCK เขาจึงเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองอีกครั้ง

รีวิวตอนที่ 1

ในรอบชิงชนะเลิศของทัวร์นาเมนต์ที่จังหวัดไซตามะโรงเรียนอิชินัน และมัตสึคาเสะ กำลังแข่งขันกันเพื่อผ่านการคัดเลือกไปสู่การแข่งขันระดับภูมิภาค หลังมัตสึคาเสะกำลังนำ 1–0 และเกมอยู่ในช่วงนาทีสุดท้าย โชคดีที่ในที่สุด อิซางิ โยอิจิ กองหน้าของอิชินัน ก็แย่งบอลมาได้สำเร็จ และเขาก็สามารถเลี้ยงเอาชนะกองหลังทุกคนของมัตสึคาเสะไปยังหน้าประตูของมัตสึคาเสะได้สำเร็จ แต่แล้วในช่วงที่เค้ากำลังตัดสินใจจะทำประตูด้วยตนเอง เขาตัดสินใจส่งบอลให้เพื่อนร่วมทีมที่อยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่าหลังจากที่นึกถึงคำพูดของคุณครูของเขาที่บอกว่าฟุตบอลคือกีฬาที่ต้องเล่นกันเป็นทีม แต่เพื่อนร่วมทีมของเขากลับยิงประตูพลาดไปไม่กี่นิ้ว ทำให้สุดท้ายแล้วมัตสึคาเสะโต้กลับ และทำอีกประตูได้ในเวลาต่อมาโดย เรียวสุเกะ คิระ กองหน้าของโรงเรียนมัตสึคาเสะ อิซางินึกย้อนทบทวนกับตัวเองซ้ำไปซ้ำมาว่าถ้าในตอนนั้นเค้าเลือกที่จะทำประตูเองอาจจะทำให้ทีมไม่ต้องพ่ายแพ้ไปแบบนี้ เมื่ออิซางิกลับบ้านในวันนั้น เขาได้รับคำเชิญเพื่อเข้ารับการฝึกพิเศษจากสมาพันธ์ฟุตบอลญี่ปุ่น เขาไปที่สำนักงานของสมาพันธ์ในวันรุ่งขึ้น และได้พบว่านักฟุตบอลที่อายุต่ำกว่า 18 ปีที่เก่งที่สุดจากทั่วทั้งญี่ปุ่นทุกคนก็ได้รับจดหมายเชิญเช่นกัน

ต่อมาผู้เล่นทุกคนได้พบกับ จินปาจิ เอโกะ ซึ่งบอกพวกเขาว่า ตัวเขานั้นกำลังวางแผนที่จะทำให้ 1 คนจากทั้งหมดนี้กลายเป็นกองหน้าที่เก่งที่สุดในโลกเพื่อให้ญี่ปุ่นสามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกได้ เอโกะบอกว่าฟุตบอลของประเทศญี่ปุ่นนั้นไม่ได้ขาดความสามัคคี แต่ในอดีตไม่เคยมีกองหน้าคนไหนที่เห็นแก่ตัวพอที่จะกล้าเล่นบนเวทีใหญ่ในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด เอโกะเล่าถึงความสำคัญของความเห็นแก่ตัว และความล้มเหลวที่วงการฟุตบอลญี่ปุ่นเอาแต่พึ่งพาหลักความสามัคคีกันมาตั้งแต่ในสมัยดีต เมื่อเขามองข้ามการทำงานเป็นทีม และยกย่องความยิ่งใหญ่จากความเห็นแก่ตัวนักฟุตบอลหลายคนที่มาที่นี่ก็ต่างเริ่มไม่พอใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ริวโซกุ คิระ ที่กล่าวว่าเขาเป็นแฟนตัวยงของนักเตะญี่ปุ่นบางคนที่จินปาจิไม่เคารพ อย่างไรก็ตามจินปาจิบอกว่าที่คนที่มาที่นี่ถ้าอยากที่จะกลับบ้านก็กลับไปได้เลย อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขามีหน้าที่รับผิดชอบในการช่วยให้ญี่ปุ่นคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกได้ไม่ว่าจะต้องแลกมาด้วยอะไรก็ตาม ในขณะที่เขายกตัวอย่างอย่างชาญฉลาดของนักฟุตบอลที่เก่งที่สุดในโลกไปด้วย ว่าต่างก็มีความเห็นแก่ตัวในสนามกันทั้งนั้น อย่างเช่นเปเล่ที่บอกว่าเขาเป็นนักฟุตบอลที่เก่งที่สุดในโลกในทุกตำแหน่งการเล่น

จากการโน้มน้าว และคำมั่นสัญญาถึงความยิ่งใหญ่ กองหน้าที่มีแนวโน้มมากที่สุดสามร้อยคนจากประเทศญี่ปุ่นทุกคนก็ยอมรับข้อเสนอของจินปาจิเพื่อที่จะแข่งขันกันเพื่อที่จะชิงโอกาสที่จะกลายเป็นกองหน้าที่ดีที่สุดในโลก และพวกเขาทั้งหมดก็ถูกนำตัวไปยังสถานที่ที่เรียกว่า BLUE LOCK เมื่อมาถึง อิซางิพบว่าคิระ และกองหน้าคนอื่นๆ กำลังรอการอัพเดทอย่างเป็นทางการจากสมาคม และไม่นานนักจินปาจิก็สื่อสารกับพวกเขาผ่านทางวิดีโอจินปาจิ บอกผู้เล่นทุกคนว่าใน Blue Lock ทุกคนจะได้รับการจัดอันดับตามการตัดสินใจส่วนตัวของเขาเอง ควบคู่ไปกับการวัดความสามารถของแต่ละคนจากการประเมินผลงานต่างๆ และตัวอิซางิเองก็อยู่ลำดับที่ 299 จากทั้งหมด 300 คน อย่างไรก็ตาม การจัดอันดับเหล่านี้สามารถเปลี่ยนแปลงได้ในภายหลังโดยอิงตาม ผลงานของกองหน้าในกิจกรรมการฝึกซ้อม และการแข่งขันที่จะมีขึ้นตลอดที่อยู่ใน Blue Lock และกองหน้าที่เก่งที่สุดห้าอันดับแรกจะได้เข้าร่วมการแข่งขัน U-20 World Cup ที่ประเทศญี่ปุ่น แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจจินปาจิ ยังเสริมอีกว่านักฟุตบอลที่ล้มเหลวที่ Blue Lock จะสูญเสียโอกาสในการเป็นตัวแทนของทีมฟุตบอลญี่ปุ่น และไม่สามารถเข้าร่วมการแข่งขันทุกอย่างที่จะจัดขึ้นอย่างเป็นทางการที่ญี่ปุ่นไปตลอดชีวิต และเพื่อเริ่มต้นการฝึกคัดคนออกครั้งแรก จินปาจิได้คิดเกมแท็กโดยใช้ฟุตบอล ผู้เล่นที่ครอบครองฟุตบอลเอาไว้ หรือ สัมผัสกับฟุตบอลจะกลายเป็นยักษ์ เมื่อสิ้นสุด 136 วินาที ผู้เล่นที่เป็นยักษ์จะถูกกำจัดออกจาก Blue Lock โดยทันที

โดยผู้ที่จะเริ่มต้นเป็นยักษ์ของแต่ละกลุ่มคือผู้ที่มีอันดับต่ำที่สุดในกลุ่มนั้น ส่วนของกลุ่ม Z คนที่เริ่มต้นเป็ฯยักษ์ก็คือผู้เล่นอันดับที่ 300 กุริมุ อิกาชิ พ่อแม่ของเขาเปิดวัด แต่เขาตั้งใจจะเป็นนักฟุตบอลแทน และไม่ต้องการที่จะสืบทอดวัดต่อจากครอบครัวเขา ดังนั้น Blue Lock จึงเป็นโอกาสเดียวของเขาที่จะบรรลุความฝันที่ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ น่าเสียดายที่ตอนนี้เขาเสี่ยงที่จะเสียโอกาสในการเล่นฟุตบอลให้กับญี่ปุ่นไปตลอดกาลในชีวิตของเขาหากเขาล้มเหลว และถูกคัดออกในครั้งนี้ ตอนนี้ผู้เล่นที่ทะเยอทะยานทุกคนในห้องรู้ว่าเดิมพันของพวกเขานั้นสูง พวกเขาต้องทุ่มสุดตัวในสนาม และการคัดผู้เล่นออกรอบแรกก็ได้เริ่มต้นขึ้น ในตอนแรก กุริมุพยายามตั้งเป้าไปที่อิซางิเพราะเขามีอันดับที่ต่ำที่สุดถัดมาจากตัวของกุริมุเองก็คืออันดับที่ 299 แต่เขาก็พยายามที่จะโจมตีใครก็ตามที่ทำได้ไปด้วย น่าเสียดายที่กุริมุยิงพลาดไปครั้งแล้วครั้งเล่า และเริ่มตื่นตระหนกตามธรรมชาติ จากนั้นสายตาของเขาก็จับจ้องไปที่บาจิระ ซึ่งดูเหมือนกำลังหลับสนิทอยู่ แต่เมื่อเขากำลังจะเตะฟุตบอลไปในทิศทางของบาจิระ บาจิระก็กลับพลิกตัว และเตะอย่างรุนแรงไปที่ใบหน้าของกุริมุ บาจิระหลบเลี่ยงการถูกทำให้เป็นยักษ์ไปได้ แต่เรนสุเกะไม่ชอบวิธีการที่หยาบคายของบาจิระ ดังนั้นเขาจึงบอกกับ บาจิระ ว่าอย่าเล่นสกปรก เมื่อเขาเรนสุเกะไปสนใจที่บาจิระ กุริมุก็เตะฟุตบอลไปที่เรนสุเกะ และในตอนนี้เรนสุเกะก็กลายเป็นยักษ์คนใหม่แล้ว เร็นสุเกะใช้เวลาไม่นาน และเตะบอลไปโดยอิซากิโดยไม่ได้ตั้งใจขณะที่พยายาม เตะไปหากุริมุ ลูกบอลตกลงไปที่ท้องของอิซางิ แต่ในไม่ช้าอิซางิก็รวบรวมความกล้าทั้งหมดของเขา และไล่ตามผู้เล่นที่เหลือ ในที่สุดกุริมุก็เผยช่องว่างให้อิซางิเห็น เนื่องจากเกิดข้อเท้าพลิก และล้มลงไม่สามารถวิ่งหนีได้ แม้ว่าอิซางิจะสามารถกำจัดกุริมุไปได้อย่างง่ายดาย อิซางิกลับเลือกที่จะปฏิเสธโอกาสที่จะทำเช่นนั้น เขานึกถึงนัดสุดท้ายที่เขาตัดสินใจส่งบอล เขารู้สึกว่าเขาไม่ต้องการเป็นคนเดิมอีกต่อไปแล้ว และหากเขาต้องการที่จะกลายเป็นคนที่เก่งที่สุดในโลก เขาต้องมองหา และเลือกเอาชนะผู้เล่นที่แข็งแกร่งกว่าเขา ไม่ใช่ผู้เล่นที่อ่อนแอกว่า บาจิระประทับใจในความตั้งใจของอิซางิ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจแย่งบอลไปจากอิซางิ จากนั้นเขาก็มุ่งเป้าไปที่คิระ ซึ่งเป็นผู้เล่นที่เก่งที่สุดในกลุ่ม Z แห่งนี้ แม้ว่าคิระจะหลบเลี่ยงการโจมตีจากบาจิระไปได้ทั้งหมด ในที่สุดในจังหวะสุดท้ายบาจิระก็เตะบอลไปในทิศทางของอิซากิ ซึ่งอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดที่จะเตะบอลไปหา คิระ และอีกเหตุผลที่บาจิระเลือกที่จะเตะบอลไปที่อิซางิเพราะเขาเชื่อใจว่าอิซางิจะเตะบอลไปที่คิระ อิซางิไม่มีลังเลใจเมื่อฟุตบอลเข้ามาหาเขา และเลือกกำจัดคิระในช่วงเกือบวินาทีสุดท้ายของเกมไปได้ในที่สุด ทำให้คิระต้องกลายเป็นกองหน้าคนแรกที่ออกจาก Blue Lock และนี่ก็เป็นเรื่องราวทั้งหมดของตอนแรกของอนิเมะ Blue Lock ครับ

เชื่อว่าหลายๆคนที่ได้อ่านก็น่าจะสัมผัสได้กับความแปลกใหม่ที่อนิเมะเรื่องนี้เลือกที่จะเล่า มนไม่ใช่อนิเมะกีฬาทั่วๆไปที่หลายคนเคยดูหรือเคยอ่านจากมังงะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกีฬาฟุตบอล ที่มาถึงตอนแรกไฮไลท์สำคัญของตอนกลับเป็นการแข่งขันคล้ายๆการละเล่นลิงชิงบอลในประเทศไทยไปซะอย่างงั้น และในเนื้อหาอนิเมะจริงๆก็มีส่วนเติมแต่งที่ผมไม่ได้พูดถึงในการเล่ามะกี้อย่างฉากที่แสดงให้เห็นถึงจิตใจที่มีน้ำใจนักกีฬาของ อิซางิ และคิระ ที่ทำให้เหมือนว่าพวกเขาจะกลายเป็นเพื่อนที่สนิทกันคอยพึ่งพากัน และกันใน Blue Lock แต่ท้ายที่สุดกลับเป็นอิซางิตัวเอกของเรื่องเองที่กลายเป็นคนที่หักหลังมิตรภาพของเขากับคิระ และทำให้อนาคตในวงการฟุตบอลของคิระต้องจบลง ทำให้เห็นมุมมองลักษณะนิสัยของพระเอกที่ไม่เหมือนตัวเอกในการ์ตูนหลายๆเรื่อง ทำให้กลิ่นอายของเรื่องมีความคาดเดาไม่ได้ และทำให้น่าติดตามตอนต่อๆไปหลังจากที่ได้ดูไปตอนแรก และอย่างที่พูดไปในตอนต้น งานภาพ งานเสียง ของอนิเมะนี้ทำได้เหนือคุณภาพของอนิเมะกีฬาในหลายๆเรื่องเนื่องจาก studio ที่มากำกับเป็น studeio ที่มีผลงานเกี่ยวกับอนิเมะแนวต่อสู้ action ทำให้ฉากต่างๆที่ออกมาใน อนิเมะ Blue Lock ในตอนแรกมีความลื่นไหลจนทำให้อนิเมะแนวกีฬามีความตระการตาไม่ต่างจากอนิเมะแนว action ด้านงานเสียงก็ทำได้ออกมาได้ดีตามมาตรฐานอนิเมะทั่วไปในญี่ปุ่น และได้ UNISON SQUARE GARDEN มาทำเพลงเปิดอย่าง Chaos ga Kiwamaru ให้ ส่วนเพลงปิดอย่างเพลง WINNER ก็ได้คุณ Shuugo Nakamura มาเป็นผู้ขับร้อง

สุดท้ายนี้ ถ้าหากเพื่อน ๆ นักอ่าน หรือคนที่ชื่นชอบอนิเมะ BLUE LOCK ก็เป็นอีก 1 อนิเมะที่รับรองได้เลยว่าหากเป็นคนที่ชื่นชอบการดูอนิเมะในหลายๆแนวอยู่แล้ว อนิเมะเรื่องนี้น่าจะสามารถเข้าไปนั่งอยู่ใจใครหลายๆคนได้อย่างแน่นอน คุณภาพ และความน่าติดตามของอนิเมะมาจนถึงตอนนี้ยังคงเป็นกระแสอยู่ ผนวกกับการที่กำลังขึ้นแท่นเป็นอีก 1 อนิเมะยอดเยี่ยมแห่งปีคู่ไปกับ spy x family BLUE LOCK จึงกลายเป็นอีก 1 อนิเมะที่แฟนๆที่ชื่นชอบอนิเมะญี่ปุ่นไม่ควรพลาด