Result oriented solution for the future

Mc Mooja
2 min readDec 9, 2016

--

“INNOVATIVE OR DIE”
เป็นเพียงคำสั้นๆที่สื่อถึงยุคสมัยปัจจุบันนี้ได้ดี

สิ่งที่ นพ ศุภชัย ปาจริยานนท์ หรือพี่หมอคิด ได้พูดไว้ในการสัมมนาในครั้งนี้ ทำให้เห็นได้ถึงการที่ทุกคนต้องตื่นตัวตลอดเวลาเพื่อไม่ให้เราถูกกลืนหายไปในกระแสของยุค Digital

เทคโนโลยีก้าวกระโดด DIGITAL ก้าวกระโดด ใครละที่จะหายไป ?

คนนั้นคือ “ ธุรกิจตัวกลาง “ เป็นธุรกิจที่กำลังจะหายไปในยุคนี้ ตัวอย่างง่ายๆ สมัยก่อนถ้าเราจะจองตั๋วเครื่องบิน เราก็จะโทรหาคนกลาง หรือ Agency เพื่อทำการจองตั๋ว แต่ในยุคนี้ เมื่อเทคโนโลยีทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น คนจองตั๋วแค่กด App คลิกๆ ก็สามารถจองตั๋วได้เลย ไม่จำเป็นจะต้องผ่านคนกลางอีกต่อไป

START UP!

สิ่งที่พี่หมอคิดพูดถึงคือการทำ Start Up โดยจากอดีตถึงปัจจุบันตัวเลขและบริษัทที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับ Start up ก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ โดยสิ่งที่ช่วย start up คือ
1.Venture Capital (การหาเงิน การหาเสบียงในการทำ)
2.Incubator (ช่วยฝึกฝน) / Accelerator (ฝึกฝนให้เก่งขึ้นกว่าเดิม)
3.Co-working Space (หาคนเก่งๆมาช่วยเหลือเพิ่ม / ปรับทุกข์)
4.Institute

มีคนให้ความสนใจเกี่ยวกับ Startupมาขึ้นมีรายการ มีevent มากขึ้นเทียบกับสมัยก่อน

หลายๆ Startup ในต่างประเทศได้เป็นถึง Unicorn (1 หมื่นล้านเหรียญ ) เช่น AirBNB , Uber , Garena ซึ่งเป็นบริษัทที่เราคุ้นเคยเป็นอย่างดี

แล้วทำไม ? ประเทศไทยถึงไม่มีอะไรแบบนี้บ้าง เหตุผลมาจาก

1.Startup Maturity (คล้ายๆความเชื่อที่ว่าบริษัทรุ่นพี่ทำได้เราก็ต้องทำได้)

2.Investment option
วิธีการในการลงทุน ซึ่ง Bank บ้านเราไม่เหมือนต่างประเทศ ไม่ค่อยปล่อยกู้ให้ startup เนื่องจากคนไทยชอบหนีไม่จ่ายกัน ในต่างประเทศ จะมี Venture capital ซึ่งส่วนใหญ่เมื่อจะช่วยลงทุน ก็คือเป็น project ที่มีความน่าสนใจ bank ก็ช่วยด้วยเพราะบริษัทเหล่านั้นให้ความสนใจกับ startup นี้ มี Eco system ที่แข็งแกร่ง

3.Corporate Innovation
ในที่นี้พูดถึง บริษัท SRI ที่พัฒนา siri , คิดเมาส์ , ระบบสแกนม่านตา โดยจะพัฒนา product เพื่อตอบสนองความต้องการขององค์กร หรือ product ต่างๆในบริษัทใหญ่ๆ เท่ากับ มีเงินมากมายจากการคิดสิ่งใหม่ๆเหล่านี้

ในไทยมี สวทช ซึ่งจริงๆมีคนเก่งๆมากมายแต่ขาดเงินในการลงวิจัย และ ที่สำคัญไม่มี คนที่เก่งด้านธุรกิจมาเป็นคนกลางที่จะหยิบ project ต่างๆ มาให้เป็นจริง

นอกจากนั้นการที่เกิด Start up ขึ้นอย่างมากมายในปัจจุบัน ธุรกิจที่ดูมั่นคงอย่าง BANK ยังโดนโจมตีอีกด้วยเพราะธนาคารมีรายได้จากดอกเบี้ยจากการให้กู้ เงินมาจากการฝาก แต่ดอกเบี้ยที่ผู้ฝากได้รับก็น้อยมากเหลือเกิน ซึ่งปัจจุบันก็จะมี P2P lending ซึ่งน่าจะโดนใจมากกว่าเอาเงินไปฝากแล้วรอดอกเบี้ยเงินฝาก เนื่องมากจาก Blockchain technology , Smart contracts , Unbundling of bank

สื่อ Offline → Digital เป็นการเอาตัวรอดของยุคสมัยนี้ เช่น หนังสือ ต่างๆ เมื่อทุกอย่างเริ่มย้ายมาเป็น Digital กันหมด ทำให้เกิด EBITDA (ยอดขาย — ต้นทุนขาย = กำไรขั้นต้น (Gross Profit) ,กำไรขั้นต้น — ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร = กำไรจากการดำเนินงาน ( EBIT) , กำไร EBIT + ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจ่าย = EBITDA)

เพราะขายได้จริงแต่กำไรก็เริ่มลดเอาลดเอา สิ่งที่ทำได้คือต้องสร้างมูลค่าให้กับตัวเองหรือองค์กรนั้นๆ วางแผนอนาคตต่างๆเพื่อทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

Digital Agency กำลังจะหายไป ??
ผลมาจากเมื่อทุกอย่างง่ายขึ้นแล้วจะมีคนกลางไว้ทำไม ย้อนไปหลายปีก่อน คนเริ่มใช้ facebook ยังใช้กันไม่ค่อยเป็น อยากซื้อโฆษณาก็ทำไม่เป็นเลยต้องพึ่งdigital agency ปัจจุบันคลิกๆง่ายๆก็ซื้อกันได้เลย technology เป็นคนทำแทนให้แทน

แนวแทนการแก้ไขคือ ต้องทำให้จากคนคิดว่า Agency = Fee ?? เลยทำให้ตัวเองเป็นคนแก้ปัญหาต่างๆ

สิ่งที่น่าสนใจที่สุดสำหรับผมวันนี้คือ แนวคิดเรื่องการสร้าง Innovation โดยใช้ Design Thinking ซึ่งคิดว่าแนวคิดนี้สามารถเอาไปใช้ได้จริงในชีวิตใช้ได้กับหลายๆอย่าง

1.คุยถึงปัญหากับคนที่มีปัญหาเพื่อจะได้ทราบถึงปัญหานั้นจริงๆ
2.หาวิธีการแก้ปัญหาที่ถูกต้อง
3.หาไอเดียต่างๆ ได้จากไอเดียเยอะๆ แล้วจะเกิดไอเดียใหม่ๆ
4.re-design ทำให้จับต้องได้
5.Test ให้ผู้บริโภคเข้าใจและจะได้รู้ว่ามันดีหรือไม่ดี

นอกจากนั้นวิธีการใช้ post it แปะๆไว้ พี่หมอคิด เห็นจากการที่เดินทางไปหลายบริษัทในต่างประเทศเพื่อหาแนวคิดต่างๆในการแก้ไขปัญหาต่างๆ หรือการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ โดยใช้post it

“ไม่ใช่แนวคิดอันที่ดีที่สุดคือสิ่งที่ดีที่สุด แต่แนวคิดหลายๆอัน ไอเดียหลายๆอย่างจะทำให้เกิด Innovation”

--

--