Kanazawa Marathon 2019 วิ่งครั้งนี้ไม่มีคำว่า DNF
“เขาว่ากันว่า มาราธอนแรกน่าจดจำเสมอ แล้วถ้าการวิ่งมาราธอนแรกของเรา เราวิ่งไม่จบละ? เราก็ต้องตามหามาราธอนแรกของเราต่อไปสินะ”
"ใช่" มาราธอนครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ที่จะกลายเป็นมาราธอนแรกของเราให้ได้ หลังจาก DNF มาแล้ว 2 ครั้ง 🤣
เอาละ ถึงเวลาแล้วสำหรับ Kanazawa Marathon 2019
วันที่ 26 ตุลาคม 2019 เมือง Kanazawa, Ishikawa
เรามาถึง Kanazawa Station ประมาณช่วงบ่ายโมง การรับ Bib ของที่นี่สะดวกมากๆ เราจะพบคุณลุง คุณป้า ถือป้ายบอกทางไปยังจุดรับ Bib พอมองไป โอ้โห สุดยอด ล้มละลาย ล้มละลาย
การเดินทาง ถ้ามาจากโอซาก้า สามารถซื้อตั๋ว JR PASS Takayama hokuriku 5 day ได้เลย สะดวกมาก ๆ แต่ถ้าเดินทางจากโตเกียว ราคาก็จะแพงหน่อยสำหรับตั๋วเที่ยวเดียว
เมื่อรับ Bib เสร็จ เราก็เดินวนชมงานไปเรื่อยๆ สุดแสนประทับใจในจุดให้น้ำและอาหาร สุดอลังการ บอกเลยว่างานนี้มีเดินกินแน่นอน 😋
ภายในงานจะมีจุดขายตั๋วรถบัสสำหรับรับเราจาก kanazawa station ไปยัง จุด Start ที่ Kanazawa Castle Park ราคา 100¥ ขากลับมีรถบัสมาส่งฟรี
* ถ้ามางานนี้ การซื้อสินค้าในงาน เป็นเรื่องที่เราต้องทำจริงๆค่ะ
วันที่ 27 ตุลาคม 2019 วันวิ่งจริงของ #aerbrunning
ที่นี่ปล่อยตัวเวลา 8.40 น. สำหรับ Block แรกๆขาแรงประจำเมือง ทุกคนเริ่มทยอยเข้า Block ประมาณ 7 โมงเช้า อากาศวันนี้ครึ้มฝน ดูพยากรณ์แล้วบอกช่วง 11 โมงเช้าจะเจอฝนตก 80% ไม่เป็นไร ขอแค่จุดที่เคยเจ็บจาก Kyoto marathon ไม่โผล่มาเล่นงานอีกก็พอ
8.40 น. เสียงสัญญาณดังขึ้นว่า Block แรกออกตัวแล้ว ขนลุกมาก เริ่มขยับขา มองดูรอบๆ มีแต่คนญี่ปุ่น ถ้าเราออกตัวไปกับเขา คงได้ออกตัวแบบเคนย่าแน่ๆ เราถึงจุด Start ตอน 8.50 น. ช้าไป 10 นาที ลุย!!
บ้าจริง!!! มองนาฬิกากิโลแรก ฉันซ้อมมา Pace8! ไม่ได้มาออกตัวเคนย่า Pace6 แบบนี้! นี่มันคนไม่ประมาณตนชัดชัด 🤣🤣
5km. ทำเวลาไป 35 นาที ยังโอเคอยู่ แต่ช่วงแรกเป็นการวิ่งขึ้นเนินซึมๆ และแล้วข้างฝ่าเท้าที่เดิมก็เริ่มออกอาการเจ็บ "พอดีกว่าไหม" ปีศาจในใจมาเร็วมาก เข้ามาทักทาย เราตอบมันไปว่า "บ้า ฉันจ่ายเงินมาเยอะนะ กว่าจะมาถึงจุดนี้" กัดฟันลดความเร็วจาก Pace7 ลงมาpace 8-8.30 วิ่งขึ้นเนินไป เจ็บไป
10km. ใช้เวลาไป 1.15 ชม. ยังวิ่งได้เรื่อยๆ พอช่วงระยะ 10 ไป 15Km. จะเป็นเนินขึ้นยาวๆ ลอดอุโมงค์ 2 อุโมงค์ไป ตอนนี้แหละ พบว่าเท้าไม่ไหวแล้ว หยุดยืดเป็นระยะๆ เอาจริงเหมือนเท้าบอกว่าไม่ไหวแล้ว แต่ใจนี่ไปถึงเส้นชัย ก็เริ่มวิ่งสลับเดินจนผ่านกิโลเมตรที่ 15km. กับเวลา 1.58 ชม. ยังอยู่ในระยะซ้อมที่สวมลุมอยู่
เข้าสู่ Half Marathon ฝนตกจ้า!!! รองเท้าทั้งสองข้างได้ทำการอุ้มชูน้ำฝน รองเท้าที่ป้องกันน้ำเข้าและป้องกันไม่ให้น้ำออก 5555 ยอมรับเลยว่าวิ่ง 500m เดิน 500m สลับกันไปยาวมาก ทั้งฝนทั้งเนิน สดชื่นและเจ็บปวดไปพร้อมๆกัน
30km. แล้วเว้ย!! หันมองนาฬิกา ใช้เวลาไป 4.24 ชม. นี่มัน Pace ไรเนียะ แต่ก็น่าจะทัน cutoff แหละ วิ่งไปเหอะ ได้ก็ได้ ไม่ได้ยังไงก็ต้องจบ ทะเลาะกับตัวเองไปเรื่อยๆ ในใจก็นึกถึงตอนที่ Prince จากเรื่อง Ekiden บอกไว้ว่า
“ทุกคนที่สำเร็จพยายามหนักกันทั้งนั้น ถ้ายอมแพ้ การแข่งขันก็จบ”
ไม่ชอบการวิ่งตอนนี้มากแค่ไหน สุดท้ายก็ต้องวิ่งอยู่ดี เพราะงั้นก็ต้องเต็มที่ให้ถึงที่สุด
35km. เหมือนสวรรค์มาโปรด ที่นี่จะมีนักวิ่งที่ใส่เสื้อ AED คอยดูแลไปตลอดการวิ่ง เขาจะพก spray ไว้เสมอ ต้องกราบขอบพระคุณมา ณ จุดจุดนี้ด้วยจริงๆค่ะ ทางเราได้ลืม spray ของตัวเองไว้ที่โรงแรม รอดตายแล้วจริงๆ
38.55km. แบตนาฬิกาหมด!!!! ตอนนั้นคือน้ำตาไหล ไหนบอก Garmin 645 แบตอึดทนไง ทำไมจากกันแบบนี้ แต่ไม่เป็นไร ขอดูนาฬิกา Uncle Ball ก็ได้ ไปด้วยกันไปได้ไกล ไปยังไงเราก็คือภาระ 🤣
นั่นไงป้าย 39 km. อีกนิดเดียว จะถึงแล้ว ตอนนั้นเพิ่งได้หันไปมองรอบๆเส้นทางวิ่งแบบจริงจัง สวยมาก สวยมากจริงๆ กองเชียร์ เชียร์กันสนุกมาก มีเด็กๆมาถือป้ายเชียร์บอกอีกนิดเดียวจะถึงแล้วนะ
ตี๊ดดดดดดด เสียงนาฬิกาของ Uncle Ball บอกระยะ 42.2Km กับเวลา 6.30 ชม.
เอ๊ะ เราต้องวิ่งไปอีกเท่าไร นั่นไง ป้ายข้างหน้าบอก 41Km. ทำไมยิ่งดูห่างไกลไปเรื่อยๆ มีลุงท่านนึงเชียร์เราตอนเราวิ่งผ่าน ลุงบอกเราว่า "คนไทยสู้ๆ!!" น้ำตาไหลเลย และสุดท้าย การได้พบป้าย 500m สุดท้าย มันทำให้ใจฮึกเหิมมาก และก็วิ่งเข้าเส้นชัยแบบเคนย่าเหมือนตอนออกตัว 55555
และฉัน..ก็จบมาราธอนในระยะ 43.65Km. ในเวลา 6.45 ชม. เป็นการวิ่งที่สนุกมาก เข้าเส้นชัยปุ๊ป เท้าหายเจ็บปั๊บ รับเหรียญ รับผ้า Finisher และคำแรกที่กล่าวออกมา "มันจบแล้วโว้ยยย ไม่วิ่งอีกแล้วโว้ยยย"
แต่ ณ ตอนเขียนนี้ ได้ทำการกดสมัครงานวิ่งมาราธอนเป็นที่เรียบร้อย
#บ่จือบ่จำ #วิ่งช้าแต่ลงวิ่ง
*เส้นชัยจะอยู่ในสนามฟุตบอล ป้ายใหญ่มาก
สรุปงาน Kanazawa Marathon
• เส้นทางวิ่ง พื้นถนนจะเป็นลาดยางที่ผิวไม่ค่อยเรียบ แต่ดีกว่าเมืองไทย วิ่งได้เรื่อยๆ เนินจะอยู่ช่วงกิโลเมตรแรกไปจนถึง 20 กิโลเมตร ช่วง 30 กิโลเมตรเป็นต้นไปจะเป็นทางเรียบ ลัดเลาะไปตามทุ่งนา สวนผัก อากาศดีเย็นสบาย (15-20 องศา) แนะนำให้ซ้อมวิ่งตากฝนค่ะ 🤣 เอาคะแนนไป 8/10
• จุดให้น้ำและอาหาร ดีมาก!! 10/10 มีทั้งน้ำเปล่า coca-cola ชา และ pocari อาหารอิ่มมากค่ะ ราเมงเลข 8 อร่อยมาก
• การให้บริการของ Staff ดีมาก ทุกคนยิ้ม เป็นมิตร คอยเก็บขยะให้เราตลอดเส้นทาง คอยเชียร์ คอยให้กำลังใจ และกองเชียร์สุดยอดมาก เอาไป 10/10
• ห้องน้ำ มีหลายจุดมาก แต่ช่วง 15km ห้องน้ำน้อยไปหน่อย มองไปเห็นคิวยาวมากๆ 7/10
• จุดบริการปฐมพยาบาล เป็นจุดที่จริงจังมาก ตั้งซุ้มกันดีมาก มุดเข้าไปนวดแล้วออกมาวิ่งต่อได้เลย แต่เราไม่ได้ใช้บริการ เพราะว่ากลัวโดน cutoff 🤣 9/10
• ถ้าเทียบกับงาน kyoto ที่เราไปวิ่งเมื่อต้นปี สำหรับเราแล้ว ที่นี่เส้นทางวิ่ง วิ่งสนุกกว่า ถนนกว้าง ปิดถนน 100% อากาศดีกว่า เพราะตอนนั้น kyoto ประมาณ 10-12 องศา แต่เรากำลังจะกลับไปล้างแค้นที่ Kyoto Marathon 2020 ทวงเหรียญของเรากลับคืนมาให้ได้ เพราะเราจะหมด Quota #วิ่งจนกว่าจะท้อง แล้ว 🤩
• เราชอบวิ่งที่ญี่ปุ่นเพราะเราอยากสู้กับตัวเอง อยากสู้กับจุด Cutoff ที่จริงจัง เราเคยโดน Cutoff ที่ Fuji 10 วินาที Kyoto ไม่ถึง 10 วินาที เพราะฉะนั้น การได้วิ่งบนความท้าทาย มันคือความทรงจำที่ดีและคงอยู่กับเราตลอดไป ❣
• ขอบคุณ Uncle Ball ที่ลากกันมาจนจบนะคะ
• ขอบคุณแกงค์ต่ำตมรันนิ่งคลับ ที่คอยลาก คอยจิก คอยด่า คอยชวนกินปิ้งย่างตลอด
• ขอบคุณน้อง staff คนไทย ที่จุดให้น้ำด้วยนะคะ น้องคือกำลังใจของพี่ค่ะ
• ขอบคุณของขวัญสำหรับการลาออกจากงาน คือการได้จบมาราธอนแรกแล้ว
แล้วเจอกันใหม่กับงานหน้า Kyoto Marathon 2020
