Taiwan 2018 #2

Pattadon Bangthip
3 min readDec 1, 2018

--

วันที่สองของการตลอนเที่ยวไต้หวัน เป็นวันที่ได้นั่งรถไฟสายใหม่ ใช้การเดินทางแบบใหม่และทดลองอะไรใหม่ ๆ แผนการวันนี้เริ่มจาก Houtong Cat Village จากนั้นไปต่อที่ Shifen Old Street และสุดท้าย Jiufen Old Street ก่อนจะพักค้างคืนที่ Jiufen

เริ่มต้นที่ Taipei Main Station เราไปฝากกระเป๋าเดินทางกันก่อนที่ “Carry-On Baggage Centre” โดยเดินออก East Exit 3 ผ่านคิวรถแท็กซี่ เดินตามถนนจากนั้นเลี้ยวซ้ายเดินไปอีกนิดจะเห็นอาคารอยู่ทางขวามือ ข้อดีคือฝากค้างคืนได้ ราคาถูก และไม่ต้องห่วงขนาดของกระเป๋าเพราะเขาเก็บกระเป๋าไว้ในห้องแล้วติดแท็กไว้ แต่เราต้องจ่ายเงินส่วนแรกก่อนนะ แล้วค่อยจ่ายส่วนที่เหลือวันที่ไปรับกระเป๋า

ฝากของเรียบร้อยเราก็ไปเดินหาซื้อตั๋วรถไฟ TRA โดยซื้อเป็นตั๋ว Day Pass เพื่อเดินทางไป Houtong Cat Village ทีนี้มีเรื่องขำคือด้วยความที่ไม่รู้ว่าตั๋ว TRA ต้องเข้าช่องไหน เราดันไปเสียบตั๋วผิดช่องทำให้เครื่องอ่านตั๋วค้างและส่งเสียงดังจนคุณป้าที่คอยให้บริการอยู่แถวนั้นต้องเข้ามาช่วยเหลือเอาบัตรที่ติดค้างออก จากนั้นคุณป้าก็พูดภาษาที่เราไม่เข้าใจนัก แต่ท่าทางเหมือนบ่นพร้อมสื่อประมาณเดินผ่านได้เลย คิดแล้วก็ตลกดี

นั่งรถไฟมาลงที่ Ruifang Station เพื่อเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสาย Pingxi Line ไป Houtong รถไฟสายนี้จะดูเก่าหน่อย

ตอนมาถึง Houtong Station ฝนเริ่มลงเม็ดแล้ว ที่นี่สมัยก่อนเคยเป็นแหล่งขุดถ่านหินที่สำคัญจนถึงยุค 1990

สถานีอยู่ใกล้ภูเขาเลย
อาคารตรงกลางแสดงภาพการขุดเหมืองสมัยก่อน
อาคารที่ใช้ในการขุดเหมืองสมัยก่อน
อากาศเย็นสบาย

เพราะฝนที่ตกลงมาทำให้เจอน้องแมวน้อยลงตามไปด้วย

ตัวนี้ชอบเดินไปมาตามขอบกำแพง
ส่วนตัวนี้พี่เขานั่งนิ่งไม่กระดุกกระดิกเลย

เดินเล่นจนพอใจแล้วก็นั่งรถไฟกันต่อเพื่อไปสถานี Shifen Station ที่นี่จะมีกิจกรรมหลายอย่างให้ทำเช่น ปล่อยโคมที่เราสามารถเขียนคำอธิฐานลงไปในแต่ละด้าน ด้านละสีโดยที่แต่ละสีจะแทนคำขอในเรื่องต่าง ๆ ตรงนี้ก็จะเห็นคำอธิฐานหลากหลายภาษาหน่อย หรือจะเดินชมตลาดพร้อมกับชิมอาหารตามร้านรายทาง หรือจะรอชมภาพรถไฟวิ่งผ่านตลาดคล้ายตลาดร่มหุบของบ้านเราก็ได้

เมื่อไปถึงเราก็เริ่มชิมตั้งแต่ร้านแรกเลย
ไก่ยัดไส้ข้าวนอนเรียงราย
ตามด้วยของหวานเป็นไอศกรีมถั่วตัดร้านใกล้ ๆ กัน

เดินมาอีกหน่อยเจอร้านขายพวกอาหารทอดเลยลองซื้อดู ปรากฎว่าไม่ประทับใจ คือเค็มมากแถมรู้สึกเหมือนกินผงชูรสเข้าไปตลอดเวลา สุดท้ายต้องตัดใจทิ้ง ทำให้ตลอดทั้งทริปไม่เคยแวะซื้อร้านของทอดแนวนี้อีกเลย

ไม่ได้ไปต่อนะ!!!

แต่เขาว่าจากร้ายจะกลายเป็นดีเดินมาอีกหน่อยก็เจอร้านน้ำส้มคั้นร้านนี้ ดื่มแล้วชื่นใจความเซ็งทั้งหมดทั้งมวลก็มลายหายไปสิ้น

ปล่อยโคมจริง ไม่ใช่ข่าวโคมลอย
ปล่อยโคมกันบนรางรถไฟ พอพี่เขามาก็หลบ ๆ กันแบบนี้
นั่งรอรถไฟ
มองอะไรเจ้าเหมียว

พอนั่งรถไฟมาถึง Jiufen Station เรามีทางเลือกสองทางในการไปที่พักคือ รถเมล์หรือรถแท็กซี่ แต่ด้วยความเหน็ดเหนื่อยและไม่อยากไปรอคิวรถเมล์เลยเลือกแท็กซี่ในราคาเหมาที่ 250 NT ข้อดีคือเขาไปส่งใกล้ที่พัก กลายเป็นได้นั่งแท็กซี่ที่ไต้หวันครั้งแรกด้วยประการฉะนี้

เช็คอินเสร็จท้องฟ้าก็เริ่มมืดรู้ตอนเช็คอินมาว่าตลาดจะปิดประมาณทุ่มนึง ได้เวลาที่เราจะเดินเที่ยว Jiufen Old Street แล้ว

ประเดิมด้วยไส้กรอกไต้หวัน รสชาติออกหวาน ๆ บางคนว่าเหมือนกุนเชียงแต่เราว่าก็ไม่เหมือนเท่าไหร่นะ
ร้านอยู่ตรงหัวมุมโลโก้เป็นรูปคุณป้าหัวฟู
เดินมาเห็นร้านนี้กำลังทำอะไรบางอย่างกับเต้าหู้อยู่ดูน่ากินดี
ว่าแล้วก็จัดมาหนึ่งชุด
กินไปกินมาฉุกคิดได้ว่าหรือนี่จะเป็นเต้าหู้เหม็นที่เขาเล่าลือ

สรุปเกี่ยวกับเต้าหู้เหม็นสักนิด คือรสชาติก็เหมือนเต้าหู้บ้านเรา ส่วนกลิ่นก็ไม่ได้เหม็นอย่างที่คิด กินกับน้ำจิ้มรสเปรี้ยวอร่อยดี เรื่องแปลกคือ ด้วยกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ช่วงนั้นถ้าเดินไปไหนแล้วได้กลิ่นแบบนี้จะรู้เลยว่านี่กลิ่นเต้าหู้เหม็นแน่นอน

กินเยอะก็ง่วง ผ่านร้านกาแฟแปลก ๆ เลยลองซะหน่อย อเมริกาโนไม่ใส่น้ำตาลคือความดีงามที่ต้องยกนิ้วให้
มาที่นี่ไม่แวะมาถ่ายภาพร้านนี้ถือว่ายังมาไม่ถึง(เหรอ)
ร้านไส้กรอกอีกร้าน ชอบร้านนี้มากกว่าร้านแรกนะ สังเกตตรงป้ายเขียน “ไส้กรอ”

เดินไปเดินมาจนร้านส่วนใหญ่เริ่มทยอยปิดตัวลง ก็ถึงเวลาที่เราต้องกลับไปพักผ่อนบ้างเหมือนกัน

--

--