หมายเหตุ : บทความจาก Apeiron Official ฉบับนี้ ถูกเผยแพร่ตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคม 2021
Official Medium : https://blog.apeironnft.com/planet-x-avatar-nft-4f06fde9587c
พวกเราได้สรุปทั้งหมดของ Apeiron อย่างคร่าว ๆ ไปแล้วในบทความที่แล้ว ในวันนี้ พวกเราจะมาเจาะลงไปอีกในหัวข้อของ NFT ดาวเคราะห์ (Planet) และ ร่างอวตาร์ของพวกมัน ซึ่งเป็นสิ่งพื้นฐาน และสำคัญมาก ๆ สำหรับวังวนแห่งการเล่นเกม Apeiron เลย เอาล่ะ.. มาเรียนรู้กัน!!
การเล่นเกมอย่างเป็นวัฏจักรของ Apeiron คือการผจญภัยไปในดันเจี้ยน และการจำลองการเป็นพระเจ้า ทั้งหมดนี้ล้วนเกิดขึ้นในดาวเคราะห์ โดนแต่ละดาวเคราะห์นั้นจะเป็น NFT ที่มีเอกลักษณ์แตกต่างกัน แล้วอะไรทำให้มันแตกต่างกันจนเป็นเอกลักษณ์ล่ะ? โอ้วว ขอบคุณ! ฉันประทับใจที่คุณถามคำถามนี้นะ คำตอบก็คือ แต่ละดาวเคราะห์นั้นมีการกระ จายธาตุต่าง ๆ ที่แตกต่างกันไป รวมถึงรูปแบบการเกิดที่มากมายจาก เซ็ตลักษณะพิเศษเฉพาะ (Traits) , คลาสของอวตาร์ และช่องการใส่ของขลัง (Relic slot) โดยในตอนนี้พวกเราจะขอพูดถึงมันเพียงเล็กน้อยก่อนนะ ว่ามันมีส่วนสำคัญอย่างไรในเกม
พวกเราขอเริ่มจาก การกระจายธาตุที่แตกต่างกันก่อนดีกว่า ทุก ๆ ดาวเคราะห์จะมีสัดส่วนการกระจายธาตุที่แตกต่างกันออกไป ระหว่างธาตุ ดิน, น้ำ, ลม และ ไฟ ถ้าให้ลองยกตัวอย่าง สัดส่วนธาตุของดาวเคราะห์ก็จะประมาณว่า มีธาตุไฟ 21%, ดิน 22%, ลม 24% และ น้ำ 33% โดยสัดส่วนของธาตุนั้นจะถูกตรึงไว้ตั้งแต่ดาวเคราะห์นั้น ๆ ได้เกิดขึ้นมา และในการที่จะได้มาซึ่งดาวเคราะห์ที่มีสัดส่วนการกระจายธาตุที่เจ๋งแจ๋วนั้น คุณอาจจะจำเป็นต้องซื้อพวกมันจากตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยนที่ถูกผลิตออกมาจากกระบวนการ Celestial Conjunction อีกที
สัดส่วนการกระจายธาตุนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ โดยไม่เพียงแค่มันจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะเปลี่ยนรูปแบบการเล่นเกมพระเจ้านี้ แต่ละดาวเคราะห์จะมีปริศนาให้แก้ที่แตกต่างกันออกไป รวมถึงมีเซ็ตสกิลของอวตาร์ที่แตกต่างกันออกไปด้วย โดยคุณควรจะพยายามทำให้ดาวเคราะห์ของคุณมีการกระจายธาตุเข้าใกล้ความบริสุทธิ์ที่สุด เพราะหากการกระจายธาตุของดาวเคราะห์มีธาตุใดธาตุหนึ่งเหลืออยู่เพียงธาตุเดียวแล้ว คุณจะสามารถปลดล็อค สกิลอัลติเมตของธาตุนั้น ๆ ได้ ซึ่งเป็นพลังที่สุดแจ๋วเลยล่ะ!
นอกเหนือจาก สัดส่วนการกระจายธาตุแล้ว ดาวเคราะห์แต่ละดวงยังมีเซ็ตลักษณะพิเศษเฉพาะ หรือ Traits อีก โดยแต่ละ Trait นั้น จะมอบพลังเสริมทางกายภาพ และพลังแฝง รวมถึงโบนัสเครื่องประดับอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น The Fertile Fields, Trait ระดับทั่วไป ซึ่งจะมอบอัตราการเจริญเติบโตของดู๊ด ขณะที่ The Olympus Mons, Trait ระดับ Epic จะมอบสกิลพิเศษ Towering Shield ให้กับร่างอวตาร์ ซึ่งหากคุณบรีดดาวเคราะห์ที่เพอร์เฟคออกมาได้แล้วนั้น คุณก็จำเป็นที่จะต้องให้ความสนใจกับ Trait ของมันด้วย!
แต่ละดาวเคราะห์ ตัวมันเองจะมีคลาสอวตาร์ที่สอดคล้องกันไปอย่างเป็นเอกลักษณ์ โดยดาวเคราะห์ดวงหนึ่งอาจจะมีร่างอวตาร์เป็นคลาสนักรบ โดยขณะที่ดาวเคราะห์ดวงอื่น ๆ อาจมีร่างอวตาร์เป็นคลาสนักเวท หากนำทั้งคู่มาบรีดกัน Trait ของทั้งคู่และคลาสของอวตาร์ มีโอกาสที่จะถูกถ่ายทอดไปยังรุ่นลูกรุ่นหลานได้ ดังนั้น หากคุณมีโชคที่ดี คุณจะสามารถผลิตดาวที่คุณต้องการได้ผ่านการพยายามบรีดไปเรื่อย ๆ อย่างช้า ๆ
และอย่างท้ายที่สุด ดาวเคราะห์แต่ละดวงจะมีจำนวนช่องใส่ของขลังที่แตกต่างกัน ซึ่งในแต่ละช่องนั้น คุณสามารถใส่ NFT ของขลังที่มาจากดาวเคราะห์ดวงอื่น ๆ ได้ ซึ่งมันมอบโอกาสให้คุณสามารถนำสิ่งก่อสร้างบนที่ไหน ๆ ก็ตาม นำไปใช้กับดาวเคราะห์ดวงอื่น ๆ ดวงไหน ๆ ก็ได้
โดยดาวเคราะห์เบบี๋นั้นจะมีช่องใส่ของขลังเพียง 1 ช่องเท่านั้น ในขณะที่ดาวเคราะห์วัยรุ่น หรือดาวที่แก่กว่า จะมีจำนวนช่องใส่ของขลังที่มากขึ้น แล้ว.. ถ้าอยากที่จะใส่ของขลังจำนวนมากใส่ดวงดาวที่เพิ่งเกิดมาใหม่ล่ะ? คำตอบก็คือ.. ในเคสนี้เราต้องพึ่งพาพิธี Chronomerging ซึ่งเป็นพิธี ที่จะบูชายัญดาวเคราะห์ดวงหนึ่งให้กับดาวเคราะห์อีกดวงหนึ่ง ซึ่งพิธีการนี้จะมอบอายุขัยดาวที่ถูกบูชายัญให้กับอีกดาว ซึ่งทำให้ดาวเคราะห์เบบี๋นั้นมีช่องใส่ของขลังที่มากขึ้น!
ดังนั้น โดยสรุปแล้ว ดาวเคราะห์แต่ละดวงนั้นจะเป็น NFT ที่เป็นเอกลักษณ์ โดยมีสัดส่วนการกระจายธาตุ, Traits และ คลาสของอวตาร์ที่แตกต่างกัน ซึ่งทั้งหมดนั้นสามารถปรับปรุงลักษณะได้จากการบรีดดาวหรือพิธี Celestial Conjunctions นั่นเอง โดยหากคุณสามารถสร้างดาวเคราะห์ที่สมบูรณ์แบบได้แล้ว คุณจะสามารถนำร่างอวตาร์ของดวงดาวของคุณ เข้าไปผจญภัยในดันเจี้ยนที่ท้ายทายที่สุดในโลกของ PVE ได้ หรือจะนำไปไต่แรงค์ใน Galactic Arena (PVP) เพื่อเป็นสุดยอดแห่งพระเจ้าในเทวจักรวาลก็ย่อมได้ โดยหากคุณได้ดาวเคราะห์ที่เพอร์เฟค ถูกใจใช่เลยแล้วล่ะก็ คุณก็สามารถนำดาวดวงอื่น ๆ ที่คุณบรีดมาได้นั้นไปขายในตลาดได้อีก ทุกอย่างคุณเป็นผู้ควบคุมและตัดสินใจเองเลย!
และจากที่เราตระหนักถึงอนาคตของเหล่าดาวเคราะห์ พวกเราจะทำงานอย่างหนักหน่วงเพื่อให้ได้ร่วมงานกันกับแบรนด์ต่าง ๆ ทำงานกันอย่างบูรณาการในโลก Metaverse ซึ่งจะทำให้สินทรัพย์ของเกมต่าง ๆ สามารถนำมาใช้เป็นสกินของดาวเคราะห์ ร่างอวตาร์ของดาว กระทั่งดู๊ดที่อาศัยอยู่บนดาวนั้น ๆ โดยในท้ายที่สุดแล้วนั้น พวกเราหวังว่าการทำงานร่วมมือกันนี้จะเป็นมากกว่าแค่เครื่องประดับหรือสิ่งตกแต่ง เราหวังว่าผู้เล่นจะสามารถมีสกิลที่พิเศษใช้ในการเล่นเกมผ่านการร่วมมือของแบรนด์ที่ได้ร่วมมือกัน โดยในตอนนี้ จักรวาล Apeiron เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น
นี่เป็นทั้งหมดสำหรับตอนนี้แล้วล่ะ! ตั้งใจเฝ้าคอยและติดตามข่าวสาร จากพวกเราเหล่า Apeiron team ได้จากการกดติดตาม Twitter เหมือนกับที่พวกเราตั้งใจผลักดันและพัฒนาเกมพระเจ้าเกมแรกบนโลก Blockchain ล่ะ!!