การเรียนรู้ในห้อง VS การเรียนรู้นอกห้อง (โปรแกรมเมอร์)

Mr.P L
mmp-li
Published in
2 min readSep 12, 2018

เมื่อมาถึงยุคที่สื่อการเรียนรู้ในอินเตอร์เน็ตมีจำนวนมากและสดใหม่กว่าความรู้ในห้องเรียน เรายังจำเป็นต้องเข้าเรียนอีกไหม ?

เป็นปัญหาสำหรับผมที่กำลังเรียนอยู่เทอมสุดท้าย ที่ต้องเข้าเรียนวิชายิบๆย่อยๆ ทั้งๆที่ตัวเองมีงานประจำทำงานแล้ว รับงานฟรีแลนซ์บ้าง แต่ยังต้องเข้ามาเรียนวิชาที่ตัวเองทำงานอยู่แล้ว ….. จึงเกิดความคิดที่ว่า ถ้าเกิดเราไปบอกเด็กปี 1 ให้น้องๆศึกษาแต่ความรู้นอกห้อง งั้นเราจะเรียนไปอีกทำไม แต่ผมก็มาคิดได้ว่า ความรู้ในห้องมันก็สำคัญนะ แต่บางคนยังไม่รู้สึกตัว เอาละผมจะมาเล่าให้ฟัง ถึงข้อดีข้อเสียของทั้ง 2 อย่างนี้จากที่ผมเคยเจอมากับตัวเอง

ป.ล. ความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ เกิดจากปัญหาที่เจอจริงๆในชีวิตประจำวัน

การเรียนรู้ในห้อง ข้อดี

  1. ฝึกพื้นฐานของเรา

ปฏิเสธไม่ได้เลยวิชาพื้นฐานทั้งหลาย โปรแกรมมิ่ง ดาต้าสตรัค ดาต้าเบส จะทำให้เรามีพื้นฐานที่แน่น ทำให้ต่อยอดได้ บางคนพอได้เรียนวิชาโปรแกรมมิ่งก็ฉายแสงเลย ผ่านแบบสบายๆ เอาความรู้ไปต่อยอดได้อีก กลายเป็นเทพเจ้าในรุ่นไปเลยก็มี

สภาพตอนเขียนโค้ดตอนปี 1 ใหม่ๆ 55555

2. มีคนคอยให้คำแนะนำปรึกษา

เป็นอีกข้อดีของคนที่เรียนในห้อง คือมีอาจารย์คอยให้คำปรึกษา เวลาเรามีเรื่องที่สนใจ เราลองเอาเรื่องนั้นๆไปปรึกษากับอาจารย์ของเรา ก็จะได้คำแนะนำ ไกด์ทางให้เราอีก

3. ทำให้รู้ว่าตัวเองชอบอะไร

มีผลแค่กับบางคนเท่านั้นสำหรับหัวข้อนี้ สำหรับผมมันได้ผล คือการที่เราลองเรียนวิชานั้นๆ แล้วพบว่า เห้ย มันสนุกนะ เราอยู่กับมันได้ทั้งวัน ไม่มีเบื่อ นั้นเหละคือเราเจอสิ่งที่ชอบแล้ว ทำให้ต่อยอดได้ง่ายดาย เพราะเราสนใจมันจริงๆ

4.ได้ทำโปรเจ็ค

และข้อนี้มีผลแค่กับบางคนเท่านั้น สำหรับหัวข้อนี้บางคนพอได้ทำโปรเจ็คที่ตัวเองชอบเท่านั้นเหละ เขาจะหมกหมุ่นกับสิ่งที่เขาทำ จนผลงานมันออกมาดีมาก ดีจนชนิดที่เรียกได้ว่า เอาออกมาใช้งานได้จริงๆออกมาเป็นผลิตภัณท์เลยก็มี

การเรียนรู้ในห้อง ข้อเสีย

  1. ถ้าความรู้ที่สอนเป็นความรู้เก่าละก็….พัง

สำหรับคนที่อยู่ในกลุ่มสมาคมโปรแกรมแห่งประเทศไทย จะรู้ดีว่าเทรนมันไปเร็วขนาดไหนโดยเฉพาะสายเว็บ …. js es6 มีการสอนในห้องสำหรับวิชาเขียนเว็บหรือยัง ? Go lang ก็น่าสนใจ /Dart + Flutter ก็กำลังมา แล้วทั้งหมดเรียนในคาบหรือเรียนรู้ด้วยตนเอง ? #อัพเดทกันแทบไม่ทัน

คนที่เรียน c อยู่ก็เซงไป

2. ทำให้รู้ว่าตัวเองเกลียดอะไร

มีรักก็มีเกลียด

ประโยคคู่กันจริงๆ ถ้ารู้ว่าตัวเองชอบอะไรแล้ว ก็ต้องรู้ว่าตัวเองเกลียดอะไรแน่นอน ผมเห็นมาเยอะแล้วละ “เกลียดหน้าจอ terminal สุดๆ” “เกลียดวิชาคำนวณ” “เกลียดการเขียนเว็บ”

3.ทำโปรเจ็ค

สำหรับคนส่วนมาก โปรเจ็คคือนรกของพวกเขา หลายๆคนเรียนไม่จบเพราะโปรเจ็คนี้เหละ ได้แต่คิดในใจ ถ้าไม่มีโปรเจ็ค ป่านนี้จบไปนานแล้ว พูดแล้วก็เศร้า :(

4.บางความรู้ไม่ได้เอามาใช้งานจริง

มีแน่นอน อย่างเช่น แคล…. บางคนก็ไม่ได้เอามาใช้งานเลย แต่ถ้าใครทำงานสายคำนวณเนี่ย เจอแน่นอน แต่ใช่ว่าทุกคนจะทำงานสายนี้สะหน่อย

รอต่อไปนะ

การเรียนรู้นอกห้อง ข้อดี

1.ได้ความรู้ที่สดใหม่

ความรู้นอกห้องมีอยู่มากมาย สดใหม่ตลอดเวลา แถมเดียวนี้โปรแกรมเมอร์หลายคนเริ่มหันมาสนใจเรื่องการแชร์ความรู้กันแล้ว อย่างคนที่ผมดูประจำก็คนนี้เลย

2. เลือกเรียนในสิ่งที่สนใจได้ อิสระที่แท้จริง

ต่อจากหัวข้อตะกี้เลย เลือกได้เลยว่าจะเรียนอะไร ไม่เรียนอะไร มี path ให้เดินมากมายในสายโปรแกรมเมอร์ แถมยังเลือกในสิ่งที่อยากเรียนได้อีก ไม่มีใครมาบังคับเรา สบายๆชิวๆ ยกตัวอย่างเช่น อยากเรียน react แค่พิมพ์ใน youtube สอน react ก็ขึ้นมาให้ดูเยอะแล้วครับ แถมเราจะดูเวลาไหนก็ได้ อิสระกันสุดๆ

react ก็เป็นอีกเทรนที่น่าสนใจมาก

3. ได้เจอประสบการณ์แปลกใหม่ รับงานฟรีแลนซ์ งานเสริมบ้างไรบ้าง

บางทีการเรียนรู้ที่ดีอาจมาจากการทำงานจริง การเรียนรู้นอกห้องบางครั้งมาในรูปแบบการทำงาน เช่น พวกฟรีแลนซ์ งานเสริมพิเศษ และงานพวกนี้ก็เสริมประสบการณ์และเพิ่มความรู้ได้สุดๆไปเลย

การเรียนรู้นอกห้อง ข้อเสีย

  1. ถ้าคุณขี้เกียจ การเรียนนอกห้องไม่ได้ช่วยอะไรคุณเลย

ดาบสองคมจริงๆกับการเรียนรู้แบบนี้ ถ้าเกิดเราขี้เกียจขึ้นมา การเรียนรู้นอกห้องก็ไม่เกิดประโยชน์ขึ้นมาเลย เพราะไม่มีใครมาบังคับคุณให้เขียนโปรแกรม หรือบางคนก็แค่ดูคลิปสอน พอจบคลิปก็ลืม ไม่ก็ก็อปโค้ด รันให้ผ่านๆไป ไม่ได้คิดจะต่อยอดจากที่เรียนไป (บางทีก็แอบเสียดาย)

2. ฟรีแลนซ์ในวัยเรียน อาจเหนื่อยกว่าที่คิด

ปี 1–2 ถ้าคิดว่าเหนื่อยแล้ว ปี3–4 คือนรกดีๆนั้นเอง โปรเจ็คก็ต้องส่ง ตัวที่เรียนก็โหด ดันไปรับงานฟรีแลนซ์มาอีก (ก็อยากได้เงินอะะะะะะ) พรุ่งนี้ต้องสอบแล้ว แต่ลูกค้าจะเอางานวันนี้เลย แถมเขาไม่ได้สนใจด้วยว่าเราติดเรียน หรือติดสอบอะไร

“งานคืองาน” ไม่เกี่ยงวัยและเวลาที่แท้จริง

วันนี้นั่งปั่น asp.net อีกวันมีสอบ กลศาสตร์ โครตเยี่ยม……

บทสรุป

ไม่ว่าจะการเรียนรู้แบบไหนก็ล้วนมีข้อดีข้อเสีย คนเรียนในห้องจนประสบความสำเร็จก็มี คนที่ไม่เคยตามตำราเรียนแต่เป็นเทพก็มี ทั้งสองแบบไม่มีใครผิดแปลกแน่นอนครับ อยู่ที่ว่าคุณจะชอบแบบไหน เพราะแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนเก่งมากกับเรียนนอกห้อง บางคนเรียนตามตำราถึงจะเข้าใจ สุดท้ายนี้ผมเชื่อว่าไม่ว่าแบบไหนก็สามารถผลิตโปรแกรมเมอร์เก่งๆออกมาได้ครับ :)

และสุดท้ายนี้….

“คำว่าพยายาม ไม่เคยทำร้ายสักคนที่ตั้งใจ” By BNK48

--

--

Mr.P L
mmp-li
Editor for

Lifestyle of Programmer & IoT (Node-RED|Blynk) & Data Science (ML,DL,NLP) and Whatever I want to do | cat can coding too | Ph.D. -> VISTEC -> IST