เมื่อผมทดลองเล่น micro:bit 30 นาที เปิดโลกเล็กๆของผมอีกนิดหน่อย
“ถ้ามีเด็กๆมาถามว่า อยากเริ่มเขียนโปรแกรม หรือ สร้างหุ่นยนต์ คุณจะให้คำแนะนำพวกเขาอย่างไร ?”
กาลครั้งหนึ่ง เมื่อ 1 เดือนก่อน
อาจารย์ : “คุณว่างไหมวันจันทร์-พุธหน้า ผมจะให้มาช่วยสอน micro:bitให้อาจารย์โรงเรียนมัธยมหน่อย ต้องการผู้ช่วยสอนหน่อย”
ผม : “มันคืออะไรครับ ? แต่ผมดันไม่ว่างเลยครับ ผมเรียนทั้งวัน ทั้ง 3วันเลยครับ”
หลังจบประโยคนั้น ผมก็ไม่ได้ยินชื่อของเจ้า micro:bit แต่ตอนนี้ผมไปทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่งซึ่ง….เขาสอน micro:bit ให้แก่เด็กๆ แถมเพื่อนๆรอบตัวผมก็นั่งเล่น micro:bit ช่วยอาจารย์สอน มันมาอีกแล้ว แฟชั่นของโปรแกรมเมอร์…… แต่ตัวผมก็ยังไม่ได้สนใจ จนกระทั่ง….
วันนี้อยู่ดีๆเห็น พี่แมนแห่ง Chiangmai Maker Club โพสลิ้ง micro:bit ผมลองเข้าไปดูขำๆ https://microbit.org/
แล้วก็ลองเข้าไปลากวางเล่นๆขำๆ เออวะ มันก็เอาเรื่องพอตัวนะเนี่ยมี simulator ให้เห็นด้วย เข้าท่าดี เพราะปกติผมจะอยู่แค่กับ arduino esp32 esp8266 raspberry pi ที่เวลาอยากจะเห็น output ต้องเขียนโปรแกรมให้เสร็จๆ แล้วมาวัดดวงว่ารันได้ถูกต้องไหม พอตกช่วงเย็นๆของวันนั้น เลยไปขอยืมบอร์ดเพื่อนที่มีอยู่ เลยลองเล่นกับมัน 30 นาที รู้อะไรไหม…. โครตสนุกเลย
ข้อดีของมันที่ผมชอบมากๆคือ
- คุณไม่ต้องรู้ syntax ภาษาอะไรมาเลย ลากวาง จบเลย
- หากยังอยากเขียนโค้ดอยู่ (ใจมันรัก) ก็ยังมีโหมดเขียนโค้ดให้อยู่ดี (js es6 นะจ้ะ)
- ไม่ต้องกลัวจะต่อสายพังอีกต่อไป ไม่มี tx rx D0 A0 slp pow ให้ต้องกังวลอีกต่อไป
- ง่ายต่อการเรียนรู้
ข้อเสียที่มันยังพอมีอยู่บ้าง
- หากเขียนโค้ดในโหมด js แล้วมากดหน้า block จะพบว่ากลายเป็นโค้ด js
- หากต้องการเบิร์นโค้ดยังต้องลากวางไฟล์ลงไป (เหมือน stm32) ทำให้ไฟล์ที่โหลดมารกๆหน่อยนะ
แต่ข้อดีของมันก็ยังกลบข้อเสียไปได้อยู่ดี แล้วนี้คือ 30 นาทีของผม
- พยายามดู community ของ micro:bit ทำให้พบว่า ของเล่นเยอะมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก (พวกชอบเล่นต้องมาโดนจริงๆ)
2. ทดสอบเล่นบอร์ดแบบไม่รู้ spec ของมันเลย
แม่เจ้า มี gyro ในตัวจ้า ทำให้มีอะไรสนุกๆเล่น (ขอแค่มีไอเดีย)
ลองเล่นการแสดงผลของ LED บนตัวอุปกรณ์
ทดสอบการ random number ที่เลขมันทะลุจอ LED ไป ปรากฏว่า ตัวอักษรไหลให้จ้า เกือบร้องไห้ ทำไมจอ LCD ของพวก arduino ไม่ทำบ้างงงงงงงง T^T
โค้ด JS ของมันก็ไม่ยุ่งยากมาก มองออกง่ายดีมาก
ทีนี้ ลองมาเล่นท่ายากกันบ้าง โดยการเช็คว่าปุ่มที่กดเป็นปุ่มอะไร โดยตอนแรกผมก็งงๆเห้ย จะใส่ if else if เพิ่มยังไงเนี่ย ปรากฏว่ามีปุ่มให้กด แล้วลากเพิ่มได้เลย สบายมากๆ ลากวางทุกๆอย่างเลย แหะๆ
ได้เวลาทดสอบว่าผลลัพธ์มันจะถูกต้องหรือไม่
สรุปผลการทดลอง
ตอนนี้ผมเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมเหมาะแก่คนที่สนใจการเขียนโปรแกรม เขียนหุ่นยนต์ แต่ยังไม่รู้จะเริ่มยังไง ต้องการฝึกพื้นฐาน ซึ่งเจ้า micro:bit มันตอบโจทย์มากๆ ถ้ามีน้องๆหลานๆมาถามผมว่า อยากจะทำหุ่นยนต์ ฝึกเขียนโปรแกรม ลอจิค ยังไง ผมจะให้แนะนำให้เขาลองเล่นเจ้า micro:bit อย่างแน่นอนครับ
Let’s Fun : https://makecode.microbit.org/
Official Website : https://microbit.org/
Project : https://microbit.org/ideas/
ป.ล. บทความหน้าเป็น ASP.NET MVC นะครับ แหะๆ Data sci ขอพับไว้ก่อนนะ