บทบาทเเละหน้าที่ ที่ได้ทำในช่วงฝึกงาน

ช่วงโปรเจคเเรก

การทำscrumช่วยให้คนในทีมเเต่ละคนรู้หน้าที่ว่าจะต้องทำงานในส่วนไหน ช่วงเเรกๆก็เลือกทำในส่วนที่ตัวเองคิดว่าทำได้ เเต่พอลองทำดูเเล้วจริงๆ มันไม่เป็นอย่างที่เราคิด สิ่งที่ว่าทำได้กลับไม่เป็นไปตามที่เราคิด เเล้วมันก็จะมีอัฉริยะอยู่ในกลุ่มเราคนหนึ่ง มันจะทำงานทุกอย่างด้วยความรวดเร็ว พริบตาเดียวงานที่อยู่เต็มกระดานก็หายไปหมดเเละ พอถึงจุดนั้นก็รู้สึกตัวว่างานDevน่าจะไม่เหมาะกับเรา ที่นี้ลองไปทำหน้าบ้านดู มันก็จะมีคนที่ทำได้เร็วและดีกว่าเราอีก ผมนี่กุมขมับเลย เเล้วมันจะเหลืออะไรให้เราทำว้าาาา

พองานเสร็จไปได้ประมาณหนึ่ง ยังมีหน้าที่ที่ยังไม่มีใครทำ นั้นคือ Tester ผมได้รับบทบาทในการเป็นเทสเตอร์ เทสเตอร์จะเทสหน้าเว็บที่เขียนเสร็จเเล้วประมาณ 1–2 feature โดนใช้เครื่องมือที่ชื่อว่า Robot Framework

Robot Framework

ทีนี้ผมจะมาเล่าว่า robot framework คืออะไร เริ่มจากสิ่งที่เรียกว่า Manual Test manual test คือ การเทสทั่วๆไปโดยใช้มือเราในการคลิ๊ก ในการพิมตัวอักษร เพื่อทดสอบfunctionการทำงานในหน้าเว็บนั้น เเต่สิ่งที่ผมทำอยู่เรียกว่า Automate Test automate test คือ การเขียน robot ตัวหนึ่งขึ้นมาโดยใช้ภาษาpython ตัวframework ก็จะมี Library ของมันที่ใช้เขียน test case ที่ใช้ทดสอบ feature ที่อยู่บนหน้าเว็บหรือในเเอพพิเคชั่นก็ได้ โดยrobotที่เราเขียนขึ้นนั้นจะมาเทสเเทนเราที่ตอนเเรกใช้มือทำ มันจะเร็วกว่าการใช้มือทำ เเละการเทสในเคสซ้ำๆก็ง่าย เเค่เราเขียนรอบเดียวก็ใช้เทสได้หลายครั้ง เพื่อสั่งRun มันสะดวกสบายมาก ทำให้งานที่ต้องเทสเสร็จเร็วขึ้น

Library

library คือ ชุดkey workที่ใช้ในการเขียนrobot test เปรียบเสมือนหนังสือที่เก็บชุดคำสั่งต่างๆเอาไว้ libraryมีหลายตัว เเต่ละตัวใช้งานต่างกัน เช่น Selenium2Library เป็น libraryที่ใช้เขียนrobot testในการเทสเว็บ เเละ AppiumLibrary เป็นlibraryที่ใช้เขียนrobot testในการเทสapplication

ในโปรเจคนี้ ผมใช้ Selenium2Library ในการเขียนเทส หลักการในการคิดtest case มี2เเบบ คือ test case เเบบ good test กับแบบ bad test

Good test คือ test caseที่ถูกต้องตามข้อมูลที่มีในdata base การเทสแบบนี้เพื่อต้องการทดสอบว่าfeatureที่อยู่บนเว็บทำงานตามที่เราต้องการหรือไม่

Bad test คือ test caseที่เขียนให้เกิดerror อาจพังดูแปลกๆ เเต่การเขียนเทสเเบบบนี้เขียนเพื่อทดสอบว่า ถ้าเราทำเเบบนี้เเล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับหน้าเว็บเรา เพื่อที่จะได้บอกDevว่าถ้าเราใส่ข้อมูลเเบบนี้เเล้วระบบมันจะลวนๆนะ Devจะได้เขียนแก้ได้ทัน

สุดท้ายนี้ ถ้าเส้นทางที่เราเลือกนั้น มันไม่ใช่สำหรับเรา ออกมาเถอะครับ ต่อให้พยายามเท่าไร ถ้ามันไม่ใช่ก็คือไม่ใช่อยู่ดี เสียเวลาเปล่า