รีวิวอร่อยๆ Microsoft Training Thailand++ Data Migration Discovery Day: End of Support for SQL Server 2012

Sai Mai Tong
4 min readAug 14, 2022

--

สวัสดีค่า วันนี้จะมาเล่าเรื่องราว และความรู้ key takeaways (และอาหารที่อร๊อยอร่อยดีดี บรรยากาศดี คุณพี่ๆจัดงาน และอาจารย์ ดีงามมาก แจกเสื้อเท่สุดคูลมาด้วย แถมด้วย Training + สนับสนุนให้สอบใบ Cer ฟรีเพื่อความรู้อีกต่างหาก) จากการเข้าร่วมกิจกรรม Data Migration Discovery Day เตรียมความพร้อมในการสิ้นสุดการสนับสนุนสำหรับ SQL Server 2012 งานนี้จัดเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2022 ที่ผ่านมานะคะ

เหมาะสำหรับใครที่อยากมีความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ

  • Data Migration Tools (SQL) และ Process นะคะ
  • หรือ หากใช้ SQL Server 2012 ต่อไปหลัง Microsoft เลิกสนับสนุน จะมีข้อดี ข้อเสียยังไง
  • หรือ การ Migrate ขึ้น Cloud นะคะ โดย หลักๆจะเป็น Products ของทาง Microsoft ที่มาทำให้สะดวกง่ายขึ้น แต่หลายตัวก็สนับสนุน Open Source หรือการทำงานร่วมกับ Product เจ้าอื่นนะคะ

เริ่มแรกเลยจะบอกว่าเจอ กิจกรรมนี้จาก เพจใน Facebook ชื่อ Spark Techs นะคะ เป็นเพจที่ update ข้อมูล และกิจกรรมต่างๆที่น่าสนใจ ฟรี และมีสิทธิ์ได้สอบใบ Certificate ฟรี จาก Microsoft ด้วยนะคะ

มาเริ่มกันเลยดีกว่าาา งานนี้จัดแบบ Offline ที่ชั้น 38 Microsoft Thailand ตึกใน All Season เดินมาจาก BTS เพลินจิต ได้ ใครสมัครแล้วมางานช่วงนี้ได้ก็โชว์ผลตรวจ ATK ตอนลงทะเบียนหน้างานเพื่อเข้างานด้วยนะคะ!!!

เกิดอะไรขึ้นเมื่อเลิกสนับสนุนจากบริษัท!!!??? ทำไมต้องทำอะไรต่อด้วย

มีความเสี่ยงด้านต่างๆเกิดขึ้น หากยังคงใช้ SQL Server 2012 โดยไม่ทำอะไรเพิ่มเติม ยกตัวอย่างเช่น

  • ความเสี่ยงด้านช่องโหว่ความปลอดภัยจาก Patch ความปลอดภัยที่ล้าสมัยที่ไม่มีการอัพเดทเพิ่มเติม
  • ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทที่จำกัด ทั้งจาก Hardware Platform, Operating System และ Application ต่างๆ
  • ไม่ได้รับฟังก์ชันที่มีเพิ่มเติมใหม่ในรุ่นล่าสุด จึงอาจไม่ได้ใช้ส่วนนี้เพื่อเพิ่มโอกาสในธุรกิจ

ดังนั้นจึงเห็นว่าหลายๆบริษัทมีการ Migrate ข้อมูลจากที่นึงไปอีกที่นึง เพื่อความปลอดภัย + Function ใหม่ และรองรับการทำธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วววว หลายที่เริ่มย้ายจาก On-Premise ไป Cloud ~~ ซึ่งปกติการ Migrate ก็ต้องมีการทำ assessment และขั้นตอนต่างๆ migrate , test แล้วจึง cut-over ซึ่งเป็นงานที่สามารถ automate และลดขั้นตอน ได้จาก tools ของ Microsoft ~~ ไม่อย่างนั้นก็ต้องทำกันเหนื่อยหน่อยย หรืออาจมีวิธีอื่นที่ทางลูกค้าสามารถที่จะใช้ได้ที่เหมาะสมกับธุรกิจค่ะ

จากทางด้านวิทยากรแนะนำหนทางมาว่า มี 3 ทางที่จะหา Solutions ให้กับลูกค้าได้เพื่อให้ลดข้อเสีย/ความเสี่ยงดังที่กล่าวมาข้างต้นดังนี้ นะคะ

Option 1: Move to Azure (Cloud) as PaaS (Platform as a Service) ซึ่ง PaaS ค่าใช้จ่ายจะถูกกว่า Option 2 แต่จะมีข้อจำกัดไม่สามารถใช้งานบางอย่างได้ เช่น Backup Restore Snapshot ตั้ง Job ต่างๆไม่ได้ Option นี้คือ การนำ Schema ไปฝากที่ PaaS เหมาะกับการใช้ข้อมูลโดยตรง เช่น Web Service, Native Cloud App

Option 2: Move to Azure Stack HCI (Cloud) — move SQL Server to be on Virtual Machine on Azure Stack HCI ตัวนี้ก็จะต้องมีค่า License ต่างๆเพิ่มขึ้น แต่สามารถทำได้หลายอย่างที่เป็นข้อจำกัดของ Option 1 โดยที่ไม่ต้องมีการแก้ application ใดๆ สามารถใช้ 2012 ต่อไปได้

Option 3: Upgrade On-Premises to Latest Version เพื่อความปลอดภัย และ Function ใหม่ แต่ Option นี้ทางลูกค้าก็อาจจะต้อง Maintain เอง ดูแลเอง เยอะหน่อยเนื่องจากอยู่บน On-Premise

โดยทั้ง Option 1&2 จะมี 3 More Free Extended Years for Security Updates

จากนั้นทางคุณวิทยากรก็เล่าถึงเรื่องการ Migration โดยทั่วไปถ้าจะ migrate ไป Cloud ค่ะ~

ก็จะเป็นขั้นตอน

Pre-migration

  • มีการประเมิน Assess ดูว่าที่ Source Database เป็นอย่างไร พร้อม migrate มั้ย ทีมต้องทำอะไรบ้าง เตรียมพร้อมยังไง
  • Convert ข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบและประเภทที่จะใช้งานได้ใน Business ในอนาคตที่ Target Database

Migration

  • Migrate Schema, Data & Objects
  • Data Sync ว่าจาก Source database ไป Target database แล้วข้อมูล ครบถ้วน สมบูรณ์ และ up-to-date แล้วนะ
  • Cut-over คือ switch ไปใช้ข้อมูลจาก Target database ที่ที่เราย้ายข้อมูลไปแล้ว

Post-migration

  • Run and Test
  • Optimize

ซึ่งตอนนี้ก็แอบมาบอกเล่าถึง Tools ของ Microsoft ว่า ที่ปกติอาจจะต้อง Assess กันเอง ตอนนี้มีเครื่องมือทำให้แล้วนะ (โดยจะ test เป็น Extension 3 ตัวของ Azure Data Studio ได้แก่

  1. Azure SQL Migration
  2. SQL Assessment
  3. SQL Server Dacpac )

ซึ่ง Tool ก็จะมี Report ออกมาให้เลยว่า Source Database พร้อม Migrate / Compatibility เป็นยังไง ด้านไหน ต้องเตรียมอะไรบ้าง ซึ่งก็ดูสะดวกมากขึ้นเยอะเลยค่ะ

มีการเปิดโปรแกรม Azure Data Studio ที่ใช้ในการ migrate มาทดลอง test ให้ดูค่ะ

มีการสาธิตให้ดูว่า ลอง assess มาแล้วออก Report ออกมาเป็นยังไง เป็นรายละเอียดลงด้านความพร้อมทาง technical

หลังจากนั้น ก็ทดลอง migrate ให้ดูโดย extract ออกมาแบบไฟล์ .dac ซึ่งคือ ไฟล์ที่ compressed ออกมาเฉพาะ schema ของ database และ deploy ให้ดู

จริงๆมี 2 แบบคือ

  1. ไฟล์ DACPAC = only schema compressed (ไม่มี data จาก table/ view)

Use case: สำหรับต้องการใช้แค่สร้าง schema เพื่อ development, test, production environment

2. ไฟล์ BACPAC = schema + data compressed ไฟล์ที่ extract & compressed ออกมาทั้ง schema และข้อมูล ของ database ใช้เพื่อ migrate database จากที่ database หนึ่งไปอีกที่นึง

จากนั้นก็รอ deploy…..ๆๆๆๆ รอไป ระหว่างรอก็พักเบรคค่ะ จะมีเบรคช่วงเช้า กับช่วงบ่าย ช่วงเช้าก็ surprise มาก เพราะเป็น Mc Burger ใหญ่เบิ้มมม แมคไก่ชีส + พายข้าวโพด และกาแฟให้กดของแบรนด์ไทย อร่อยดีค่าาาาา กำลังพอดี อิ่มมากๆๆๆเลยค่าาา >_< ถ้าไม่กลัวโควิด ก็จะไปนั่งทานพร้อม networking มากกว่านี้แล้ว

จากนั้นก็วิทยากรก็ deploy , test ต่างๆเล่า พวก Technical ให้ดูจากนั้นก็พักเที่ยงนะคะ

หลังจากนั้นช่วงบ่ายก็จะเป็นขั้นตอนทางเลือกให้การ migrate ไปและเจาะลึกแต่ละ option ว่ามีข้อดีข้อเสียยังไงดังที่พอกล่าวไปข้างต้นนะคะ และทำยังไง แต่จะเป็นส่วนที่ค่อนข้างลึก คิดว่าหากสนใจใช้งานจริง จะสามารถไปหา document เองค่ะ หรือติดต่อทาง Microsoft ค่ะ

ช่วงบ่ายจะมีเจาะเพิ่มเติมว่า SQL Server รุ่นใหม่มี function อะไรมาช่วย ธุรกิจ ลูกค้า บ้าง

  • A must ที่ควรจะลองใช้ — เปิดใช้งาน Query Store เพื่อดูว่า query อะไรแบบยังไง ใช้เวลาเท่าไหร่ เพื่อเผื่อมาดูแล้ว optimize ได้
  • ที่น่าสนใจบ้าง
  • ใหม่ล่าสุดกำลังจะมี SQL 2022 ล่าสุดที่พัฒนาต่อจาก Intelligent Query Processing ต่อจะมีการคำนวณ predict เลือก query ที่ประมวลผลเร็วและดีสุด แต่ก็จะมีรายละเอียดแนว technical ที่เถียงกันอยู่ เป็นไปได้ว่าถ้าคิดเก็บคำนวณทำนาย predict คาดเคลื่อน ก็จะทำให้ได้ query สุดท้ายที่ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุด ซึ่งยังไม่ทราบว่าความคลาดเคลื่อนเท่าใด ซึ่งตัวนี้อาจารย์วิทยากร ดูมี passion และตื่นเต้นมาก ก็เลยฟังเพลินเพราะแบบนี้ 555+

กับ พูดเรื่อง Azure Cosmos + Synapse ซึ่งจะไม่ค่อยเกี่ยวกับ migration แล้ว โดยจะเป็น การเก็บข้อมูลพวก Big Data ที่มีคนใช้งานพร้อมกันเยอะๆ เช่น เกมส์ที่คนเล่นพร้อมกัน 10ล้านคนพร้อมกัน SQL server รับไม่ไหว จึงต้องใช้ Azure Cosmos เก็บข้อมูลและใช้งานแทน ส่วน Synapse จะเกี่ยวกับ data analytics / data warehouse ที่มีขนาดใหญ่มาก ทำ pipeline เชื่อมไป spark และทำให้สะดวกมากแบบ one-stop-service แต่ราคาค่อนข้างแพงมาก

และ product อีกตัว คือ Microsoft Purview ซึ่งเกี่ยวการการ implement data governance ว่าเจ้าของ data owner คือใคร ใครมีสิทธิ์อะไร เกิดอะไรขึ้น

ที่อาจสำคัญมากขึ้นในอนาคต แต่ตอนนี้ในไทยยังไม่ค่อยมีใช้ค่า แต่พี่อาจารย์วิทยากรพูดว่ากำลังมาา

และ Microsoft มีการใช้ blogchain ในการเก็บ log history — ledger ด้วยใน SQL Server 2022 มาดูว่าใครทำอะไร database ไว้ มีใน mssql 2022

และเบรคบ่ายจะเป็นซาลาเปาาา + ขนมจีบหมู จาก HUA SENG HONG อร่อยม้ากก กาแฟกดแบรนด์ไทย จำชื่อไม่ได้ ;-; เช่นเดิม คุณภาพดีค่า ฟินมาก

จากนั้น ก็จะเป็นช่วงถาม-ตอบ migration และข้อมูล product อื่นๆ ก่อนจบ

ตอนก่อนจบมีการมาบอกต่อว่ามี Training (ลงทะเบียนฟรี ให้ทันละกัน First come first serve) อื่นๆเพิ่มเติมด้วยในครั้งถัดไป หากเข้าร่วมมีสิทธิ์สอบ DP-900 Microsoft Data Fundamental ฟรีด้วยนะ!! กว่า $55 ไว้ติด resume ไม่มีวันหมดอายุด้วยนะ !

และแจกเสื้อโปโล MS SQL Server คุณภาพดีเท่ๆ 1 ตัว ด้านหลังติดกับปก เป็นโลโก้ Microsoft ด้วยค่า :-) เหลือตัว s ตัวสุดท้ายพอดี

ขอบคุณมากๆๆนะคะ Enjoy มากเลยค่า Full of knowledge

--

--

Sai Mai Tong

an IT Business Analyst ☺, now learning and practicing to code more with passion & curiosity #LifeLongLearning #DataMigration #DataHub #Cloud #SQL #SDLC #BigData