พา Nissan Note (E12) ออกทริปครั้งแรก

Suphalerk Boonsiri
2 min readSep 4, 2018

--

หลังจากที่ใช้งาน Nissan Note E12 มาสักพัก กับการใช้งานในเมือง ก็เรียกได้ว่าตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองได้พอสมควร กับ Function ที่ค่อนข้างครบ และภายในที่กว้างขวาง เครื่องยนต์ที่ว่ากันว่าอืด ก็เพียงพอกับการใช้งานรถติดในเมือง (จริงๆแล้ว ถ้ารุ่นใหนอืดกว่านี้ก็คงไม่มีปัญหาอยู่ดี กับถนนในกรุงเทพฯ)

เส้นทางที่ใช้เดินทางจากจุดเริ่มต้นจนถึงที่พัก

เริ่มเดินทางออกจากบ้านตั้งแต่ 7.30 เพื่อไปรับเพื่อนแฟนแถวพระราม 9 โดยมาเติมน้ำมัน E20 เต็มถังตรงเรียบทางด่วนรามอินทรา Reset มาตรวัดต่างๆก่อนออกรถ หลังจากรับเพื่อนแฟนมาสองคนก็มุ่งหน้าสู่โคราชกันเลย

สำหรับการขับ ใช้ความเร็วประมาณ 80–120 โดยพยายามคุมน้ำหนักเท้าให้อัตราการกินน้ำมันขึ้นเลขให้เยอะที่สุด ใช้วิธีเร่งให้ถึงความเร็วที่ต้องการ แล้วค่อยๆผ่อนน้ำหนักเท้าลงมาก่อนเร่งขึ้นไปใหม่อีกนิด เพื่อรักษาความเร็วใว้ และให้เกียร์ปรับอัตราทดให้พอเหมาะกับความเร็วตอนนั้น

หลังจากถึงที่พัก อัตราการกินน้ำมันในหน้าจอขึ้นมา 19 กว่าๆ กิโลเมตรต่อลิตร สิ่งนึงที่ตระหนักได้คือ “รถมันอืดจริงๆ” ถ้าขับธรรมดาไม่มีปัญหา แต่ถ้าช่วงที่ต้องการความเร็วนี่ ต้องเผื่อเวลาในการเร่งพอสมควรเลย

เส้นทางจากที่พัก ขึ้นเขาใหญ่จนกลับกรุงเทพฯ

วันรุ่งขึ้นหลังจาก Party กันจบแล้ว ก็ออกเดินทางไปเที่ยวต่อ (ที่พักไม่ตรงปกอย่างแรง แต่ไปกันเยอะ ก็เลยกลบๆข้อนั้นไปได้อยู่) ก็ไปแวะที่วัดพระขาว และขึ้นเขาใหญ่ต่อเลย

ข้อเสียของ Note ก็มาออกอาการอีกครั้งในทางขึ้นเขาที่ค่อนข้างมีความชันเยอะ เรียกว่าเหนื่อยกว่าปกติพอสมควรเลยกับการลากสังขารมันขึ้นไป แต่ใครอย่าบอกว่า Eco-car ขึ้นเขาไม่ใหวนะ ถ้ามันยังคงเป็นทางลาดยาง ทางเรียบ ไม่ใช่ทางฝุ่น ยังไงก็ขึ้นใหว ทุกรุ่นนั้นแหละ

การขับขึ้นเขาใหญ่ จะใช้ รอบเครื่องยนต์ อยู่ที่ 2000–4000 รอบต่อนาที เกียร์ใช้ Mode sport ผสมกับ เกียร์ L ในบางจังหวะ ทั้งขึ้นและลง พยายามใช้เกียร์ให้เหมาะกับมุมของถนน ชันไม่มากก็ Sport ชันมากก็ลง L ไม่ว่าจะขึ้นหรือลง ใช้เบรคให้น้อย ไม่ควรเลียเบรค (หลายคันเลยที่เจอในเขาใหญ่ ใช้เบรคกันเยอะมากๆๆ จนน่ากลัว)

จะมีบางจังหวะที่ชันมากๆ เกียร์ L แล้วก็ยังเริ่มตื้อ ผมเหมือนเคยอ่านผ่านๆมาว่า เกียร์ตัวนี้จังหวะขึ้นเขาถ้าแรงหมด ให้ถอนคันเร่งออกมาแล้วกดเข้าไปใหม่ อัตราทดจะลดลงอีก (หรือเกียร์ CVT ทั้งหมดต้องทำอย่างนี้ก็ไม่รู้ เพิ่งเคยขับ CVT ขึ้นเขาครั้งแรก) ก็ได้ผลและผ่านไปได้ด้วยดี

แต่ด้วยความที่รถมันอืด พอเริ่มจับอาการเครื่องยนต์ได้ ก็เลยใช้วิธีขับให้เร็วขึ้นกว่าเดิมแทน ได้มีแรงส่งจะหวะขึ้นเนินมากขึ้น สาวๆในรถก็ออกอาการกรี๊ดกัน

หลังจากลงจากเขาใหญ่มา เลขอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยก็ลดลงไปเหลือ 17 กิโลเมตรต่อลิตร กันเลยทีเดียว หลังจากนั้นก็ขับกลับกรุงเทพฯ ต่อทันที โดยขากลับความเร็วเฉลี่ยอาจได้น้อยกว่าเดิม เพราะเป็นเย็นวันอาทิตย์ คนกลับกรุงเทพฯ ค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว จนบางช่วงรถติด

หลังจากกลับมาถึงกรุงเทพ และเข้าเติมน้ำมันปั๊มใกล้ๆ ปั๊มที่เติมมาวันแรก ก่อน Reset ผลตามมาตรวัดก็ออกมาดังนี้

ลงจากเขาใหญ่มา Avg เหลือ 17 กว่าๆ ขับจากกรุงเทพ ก็เพิ่มกลับขึ้นมา
เติมกลับเข้าไปเต็มถังอีก 27.18 ลิตร

แต่ๆๆๆ ยังไม่จบ เชื่อมาตรวัดอย่างเดียวอาจจะไม่ได้ ต้องลองวัดด้วยตัวแปรอื่นด้วย จากข้อมูลที่เรามีทั้งหมด Google maps บอกเราว่าเราวิ่งไปกลับทั้งหมด 577 กิโลเมตร และเติมน้ำมันกลับเข้าไป 27.18 ลิตร ทำให้ได้อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 21.22 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งทั้งกิโลเมตรที่ขับไป และ อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมัน ต่างกันอยู่ถึง 10% เลยทีเดียว ซึ่งส่วนตัวผมว่าค่อนข้างมาก

สรุปการเดินทางทริปแรกของ Note E12 ก็มีทั้งข้อประทับใจและ ข้อติ(ที่รู้อยู่แล้วว่ามันจะเป็น)

ข้อดี คือ กว้างขวางนั่งสบายกับการเดินทาง ขนของเยอะ พื้นที่เหลือเฟือมากๆ และ อัตราการกินน้ำมันที่ประหยัดสุดๆ (บางคนอาจขับได้ประหยัดกว่านี้หรือเปลืองกว่านี้ อยู่ที่ น้ำหนักบรรทุก วิธีการขับ สภาพการจราจร และเงื่อนไขอื่นๆ)

ข้อเสีย จริงๆทุกคนที่ขับ Note หรือดู Review Note มาบ้างแล้ว ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องกำลังเครื่อง ที่น้อยจริงๆ แต่สุดท้ายแล้ว มันก็ไม่ได้น้อยจนใช้งานไม่ได้ มันยังคงพอเพียบกับการใช้งานแบบ Home use ทั่วไปอยู่ดี ………

--

--