ถ้าหากเรากำลังจะลงทุนทำอะไรซักอย่าง เราคงต้องคิดว่ามันจะคุ้มทุนมั้ย ส่วนใหญ่ก็จะมานั่งคิดต้นทุนต่างๆทั้งค่าของค่าแรง รวมถึงรายได้ เบ็ดเสร็จ เราก็จะได้ค่ามาค่านึงว่าจะมีเงินเหลือหรือกำไรมั้ย แต่ชีวิตจริงไม่ได้ a แล้วจะไป b ต่อเสมอ ยังมีปัจจัยอื่นๆที่มากระทบได้มากมายทำให้ไอค่าที่เราคิดไว้ตอนแรกอาจไม่ตรงก็ได้
ถ้างั้นเราลองคิดต้นทุนใหม่โดยปรับตัวเลขต่างๆอีกครั้งดีมั้ย แล้วก็ดูผลลัพธ์ว่ามีโอกาสเป็นอะไรบาง แบบที่ Dr.strange ไปดูอนาคตกว่า 14 ล้านครั้งเพื่อสู้กับ Thanos
ผมจึงขอนำเสนอแบบจำลองเพื่อสามารถจำลองการลงทุนของเราในอนาคตได้ เพื่อจะดูผลลัพธ์ว่าเรามีโอกาสคุ้มทุนขนาดไหน แต่คงไม่ต้องถึง 14 ล้านครั้งนะครับ จะกี่ครั้งก็ได้แล้วแต่เราจะป้อนข้อมูล (หลายรอบก็รอนานหน่อยนะ)ลองไปใช้เล่นกันดูครับ
https://tanakanchua.shinyapps.io/financialmodel/
ส่วนวิธีกรอกผมจะยกตัวอย่างว่า สมมติถ้าภรรยาผมจะเปิดร้าน ชานมไข่มุกโดยซื้อแฟรนไชน์ยี่ห้อนึงมาจะคุ้มทุนมั้ย (จริงๆจะเป็นการลงทุนอะไรก็ได้นะครับใช้ได้หมด) เริ่มจากผมลองใส่ไป 100 ครั้งเพื่อดูว่าถ้าเราเปิดร้านไป100 ครั้ง ผลลัพธ์จะเป็นยังไงบ้าง
ในส่วนสีเขียวคือรายได้(ยังไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆนะ)ของเรา จะมีให้กรอกเป็น 2 ส่วนใหญ่คือช่วงที่รายได้สูงคิดเป็นกี่% (ผมใส่ไป30% ที่น่าจะขายดีคิดมาจาก ช่วงขายดีน่าจะเป็นวันหยุดคิดเป็น 30%ของเดือน) และในช่วงขายดี หรือขายปรกติ เราจะได้รายได้อยู่ในช่วงประมาณเท่าไรอีก (ผมใส่ช่วงขายดีน่าจะได้ถึง 4แสนถึง5 แสน ต่อเดือนจากการคาดการว่าจะขายได้300 ถึง 400 แก้วต่อวัน และช่วงขายปรกติน่าจะแสนกว่า หรือซัก 100 แก้วต่อวัน)
ส่วนสีแดงจะแบ่งเป็นต้นทุนผันแปร และต้นทุนคงที่
ต้นทุนผันแปร concept การกรอกเหมือนรายได้เลยมันจะล้อตามกันครับถ้าเราขายดีต้นทุนส่วนนี้ก็สูง (ตอนกรอกผมคิดที่ 30% ของรายได้จากการสอบถามเจ้าของแฟรนไชน์มา ว่าแก้วนึงต้นทุน30%)
ต้นทุนคงที่จะเป็นพวกค่าแรง ค่าเช่าสถานที่ แล้วแต่จะใส่กันครับ แต่ค่าแรงผมแอบใส่ค่าแรงเราไปด้วยครับ
ส่วนสุดท้ายเป็นเงินลงทุนและพวกดอกเบี้ยต่างๆที่เราจะกู้หรือไม่ ร้านชานมนี้ต้องใช้เงินบวกค่าแฟรนไชน์ประมาณ ล้านบาท(ผมว่าค่อนข้างสูงทีเดียวสำหรับร้านชานม Hahaha) แล้วตอนนี้ทางแบงค์ต่างๆเค้ามีเงินกู้แฟรนไชน์นะครับ ผมไปดูข้อมูลมากู้ได้สูงสุด 80% โดยดอกเบี้ยประมาณ 7% ถึง 10% ผมก็กรอกตามนี้ไปครับ( ใครใช้เงินสด100% ก็ใส่ slidebar เป็น 0 ไปนะครับ)
สุดท้ายแล้วก็กดปุ่ม predictionเพื่อให้แบบจำลองไปดูอนาคตมา 100 ครั้ง ผลลัพธ์ออกมาว่าผมมีโอกาส 11ครั้ง ที่จะใช้เวลาคืนทุนประมาณ 48 เดือน ถ้าดูจากกราฟแท่งก็อยู่ราวๆนี้บวกลบ และก็มีโอกาสคืนทุนไวสุด 21 เดือน ช้าสุด 84 เดือน แต่แค่1ครั้ง จากการลองเปิดร้านไป 100 ครั้งนะ สุดท้ายก็แล้วแต่การยอมรับความเสี่ยงของแต่คนไปนะครับ แต่ดูกราฟกำไรช่วงแรกนี่ล่อแล่เหมือนกัน(แต่อย่าลืมตอนใส่ข้อมูลเรามีใส่เงินเดือนเราไปแล้วนะถึงจะใส่ไว้นิดเดียวก็เถอะ haha) แต่ก็ถือว่าโตขึ้นเรื่อยๆยิ่งปีหลังที่เราจ่ายเงินกู้มาหมดแล้วก็ได้รายได้เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
ชีวิตจริงก็คงต้องปิดความเสี่ยงโดยหาวิธีว่าจะทำยังไงให้เราได้ไปถึงโอกาส 1 ครั้งที่เราจะคืนทุนเร็วสุด
ส่วนนี้เป็นสมมติฐานของแบบจำลองครับ
- แบบจำลองอ้างอิงการเสีบภาษีตามกฎหมายไว้แล้ว
- ค่า payback period คิดแบบปรกติ ไม่ได้คิดแบบลดต่ามค่าเงิน
- การจ่ายเงินกู้ คิดแบบจ่ายปรกติทุกเดือน ไม่มีการโปะระหว่างงวด
4.ถ้าเอาหลักการหน่อยก็ต้องอ้างการสร้าง model โดยใช้หลัก Monte Carlo Simulation ง่ายๆคือ ตัวแปรต้นมันมีความหลากหลายในตัวมัน ถ้าเราใส่เข้าไปแล้วจะคำนวณหาผลลัพธ์ได้ยากมากๆๆ เค้าจึงใช้ใส่เข้าไปในแบบจำลองแล้วทำซ้ำหลายๆรอบแล้วก็จะทำให้ได้ output ที่ได้มาหลายๆค่า แล้วก็นำมาสรุปผลทางสถิติ
