1 ปี โปรแกรมเมอร์
1 min readSep 1, 2016
- เข้าใจ command line มากขึ้น ล่าสุดใช้สั่งปิด/เปิด wifi
- สามารถใช้ Vim ขั้นพื้นฐานได้
- ได้เขียน blog เชิง technical สองเรื่อง 1, 2
- อัพไฟล์ลง github
- เขียน gist เพื่อจดบันทึก code สิ่งที่ตัวเองทำ เผื่อให้คนที่ติดปัญหาเดียวกัน ประหยัดเวลา
- เข้าใจการรับส่งข้อมูลของ web service
- เข้าใจวิธีอ่าน JSON
- เข้าใจการใช้ git
- เข้าใจ RegEx ภาษาที่ช่วยจับ pattern ข้อความ
- ชอบ programming ในแง่มุมที่วัดกันที่รู้กับไม่รู้ เจอเหตุการณ์หลายครั้งที่แก้ไขปัญหาโดยเขียน code เพิ่มแค่ไม่กี่บรรทัด
- สามารถซึมซับเรื่อง programming ได้รวดเร็วขึ้น เนื้อหาที่เคยเรียนด้วยตัวเอง ราว ปีกว่า ถ้าเทียบเป็นเรียนตอนนี้คงใช้เวลาแค่ 3 เดือน
- อย่ามัวเสียเวลาคิด code ใหม่ ถ้ามี library ที่แก้ไขปัญหาของเราได้ อย่างน้อยที่สุด bug ก็น้อยกว่าของเราทำแน่นอน
- ได้จับ Mac และหลงรักมันไปแล้ว
- เปิดโลกกว้าง ได้เห็น open source หลายโครงการ และเข้าใจว่าก่อนหน้านี้ เราถูก Microsoft สร้างกำแพงไม่ให้เห็น software ในมุมอื่น
- เข้าใจเนื้อหาที่เคยไม่เข้าใจมาก่อน อย่าง ReactiveX เคยอ่านหลายรอบมาก แต่อ่านยังไงก็ไม่เข้าใจ หรือ Unit Test ก็เป็นอีกเรื่องที่เคยไม่เข้าใจ
- และพบว่าเทคนิคที่ ReactiveX ใช้ ก็ถูกผนวกเข้ากับภาษาใหม่ๆอย่าง kotlin, swift แล้ว
- ย้อนกลับไปอ่านเนื้อหาที่เคยรู้สึกว่าเข้าใจยาก อย่างการใช้ Fragment กลับรู้สึกว่าไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่เคยเป็น
- เริ่ม get มุก programming ที่เคยเห็นในสมัยก่อน เช่นพวก
- บันเทิงจากการอ่านเรื่อง programming บางที นั่งอ่าน java 8 vs kotlin
- ไม่คิดจะไปเปลี่ยนไปทำอาชีพอื่น หรือไม่มีแผนจะเปลี่ยนอาชีพในระยะเวลาสั้นๆนี้
- ทุกครั้งที่ย้อนกลับไปดู code เก่าๆ ที่เคยเขียน รู้สึกอยากแก้ใหม่ทุกครั้ง คงเพราะรู้เทคนิคใหม่ที่ประหยัดบรรทัด code ลด boiler plate ได้มากกว่า
- แก้โครง Expense Lister มาตลอด และล่าสุด คิดว่าแก้ไม่ไหวแล้ว เริ่มใหม่ง่ายกว่า
- เนื้อหาที่นึกมาได้มักเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงหลัง หรือเป็นเรื่องที่ประทับใจ
- Medium นี่มันพิมพ์เพลินดีนะ ใส่ link ง่ายมาก ยกให้เป็นแหล่งสำหรับพิมพ์ยาวๆ แห่งปี 2016