ความสัมพันธ์ระหว่าง Story point และ Time estimation เป็นเรื่องที่ผมสับสนมาก ตอนที่เริ่มนำ Scrum เข้ามาใช้กับการพัฒนา Software ความสัมพันธ์ของตัวเลขทั้งสองนี้คืออะไร จำเป็นหรือไม่ที่ต้องมีทั้งสองค่า อะไรสำคัญกว่ากัน ช่างซับซ้อนยิ่งนัก
หลังจากที่เริ่มมาวิ่งอย่างจริงจัง ก็เริ่มเข้าใจความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนนี้ ผมขออนุญาต ลองเล่าความสัมพันธ์นี้ด้วยการซ้อมวิ่งของผมครับ
สนามวิ่งซ้อมประจำของผมคือสวนลุมพินี โดยปกติแล้ว 2 รอบสวนลุมจะมีระยะทาง 5 กิโลเมตร โดยผมและเพื่อนมักจะซ้อมกันที่ pace 7 (7 นาที ต่อ กิโลเมตร) ดังนั้น 2 รอบสวนลุม เรามักจะวิ่งกันประมาณ 35 นาที
วันไหนที่ผมไม่ฟิต ผมมักจะวิ่ง pace 8 ในขณะที่เพื่อนยังวิ่ง pace 7 เช่นเดิม ดังนั้น 2 รอบสวนลุม ผมจะใช้เวลา 40 นาที ในขณะที่เพื่อนใช้ 35 นาทีเช่นเดิม
ไม่ว่าผมจะใช้เวลาวิ่งเท่าไร ระยะทาง 2 รอบสวนลุมไม่เคยเปลี่ยนแปลง
2 รอบ = 5 กิโลเมตร เป็น size, 2 รอบใช้ 35 นาที เป็น effort
ไม่ว่าใครจะใช้ effort ในการวิ่งเท่าไร size ของสวนลุมไม่เคยเปลี่ยนแปลง
ไม่นานนัก ผมเจอเส้นทางซ้อมวิ่งใหม่ คือเส้นทาง สวนลุม-สวนเบญจ เส้นนี้ได้ระยะซ้อมใหม่ของผมพอดี ซึ่งมีระยะประมาณ 4 รอบสวนลุม ซึ่งเท่ากับประมาณ 10 กิโลเมตร
ผมประเมินเส้นทางใหม่ โดยการเทียบขนาดกับขนาดของสิ่งที่ผมรู้อยู่แล้ว วิธีนี้เรียกว่า relative estimation
ผมลงซ้อมเส้นทางนี้ครั้งแรก ด้วย pace ประจำ (pace 7) ผมประเมินแล้วว่าผมน่าจะใช้เวลาวิ่ง (effort) ซัก 70 นาที เริ่มวิ่งเพลินๆไปซักพัก คุณลุงวิ่งแซงผมไป ผมยกนาฬิกาดูพบว่าความเร็วผมตกเป็น pace 11 ผมเหลือระยะทางวิ่งอีก 7 กิโลเมตร ตอนนี้ผมวิ่งไปแล้ว 25 นาที ถ้ายังวิ่งต่อ ผมต้องใช้เวลาอีก 77 นาที (ด้วย pace ณ ตอนประเมิน) วิ่งจบไม่ทันนัดกินหมูกระทะกับเพื่อนๆแน่ เนื่องจากเรื่องกินสำคัญกว่า ผมจึงกลับตัวเลิกวิ่ง ไปอาบน้ำเตรียมตัวไปกินหมูกระทะดีกว่า ผมกำลัง re-estimate effort ที่ผมใช้อยู่
อุตส่าห์ใช้นาฬิกาที่บอก effort ในการวิ่งได้ ถ้าเราไม่ได้ใช้ประโยชน์จากข้อมูลนี้แล้ว สู้ไม่ใส่นาฬิกาดีกว่า
