6 ข้อที่บ่งบอกว่าเรากำลังคลั่งไคล้ใน Productivity
Productivity หรือที่แปลเป็นไทยว่า “ผลิตภาพ” ครั้งแรกที่ได้รู้จักกับคำนี้ก็ถึงกับต้องตั้งคำถามในใจว่า มันคืออะไร !? พอได้ค้นลึกลงไปก็พบว่า มันหมายถึง การวัดค่าเฉลี่ยของประสิทธิภาพการผลิต แล้วการผลิตที่ว่านี่จริงๆแล้วก็คือ สามารถเป็นไปได้ทุกสิ่งทุกอย่างเช่น ความสุข เงิน สินค้า งาน แต่ในบทความนี้ผมจะขอพูดเจาะจงเฉพาะ งาน เท่านั้นครับ
อย่างที่เราเองก็ทราบกันอยู่แล้วว่าเราอยู่ในยุคที่ทุกอย่างจะต้องรวดเร็ว ผลงานต้องมี และต้องใช้เวลาน้อยที่สุด เราจึงต้องพยายามทำทุกๆวันที่ใช้ชีวิตอยู่ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อที่จะนำมาซึ่ง Productivity แต่ทว่าการ “ พยายาม ” ที่จะ Productivity มากเกินไปก็มักส่งผลเสียมากกว่าดี
ความคลั่งไคล้ใน Productivity นั้นเป็นเรื่องที่มีจริง ยกตัวอย่างเช่น เวลาที่เราต้องการจะทำงานใดๆสักหนึ่งอย่าง เรามักจะหาหนทางทำมันออกมาให้ได้เร็วที่สุด และได้เนื้องานมากที่สุด หรือแม้แต่กับเรื่องความสัมพันธ์ เราก็พยายามที่จะทำให้มันคืบหน้าไปในทางที่ดีมากเท่าที่จะมากได้ แบบประหยัดเวลา ประหยัดแรง แน่นอนหากเราทำแบบนั้นไปเรื่อยๆ ความสัมพันธ์ไม่เพียงแต่จะแย่ลงๆ มันอาจถึงขั้นต้องยุติความสัมพันธ์นั้นๆลง เริ่มจะมองเห็นสิ่งเลวร้ายที่จะตามมาแล้วใช่ใหมครับ ทีนี้เรามาลองพิจารณาดูที่ตัวเราเองเพิ่มเติมดีกว่าว่า มีนิสัยข้อใดบ้างที่ไกล้เคียงกับคำว่า
“คลั่งไคล้ใน Productivity”
- คุณรู้สึกเสียเวลาอยู่ตลอดและพยายามทีี่จะผลักดันตัวเองเพื่อไม่ให้ตัวเองไม่รู้สึกแย่เพราะการเสียเวลาใช่หรือไม่ ?
- คุณเชื่อมั่นและยึดติดในการใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยให้คุณสามารถบริหารจัดการเวลาได้ดีกว่าเดิมใช่หรือไม่ ?
- หัวข้อการสนทนาอันดับ 1 ของคุณมักเป็นการสาธยายเรื่อง “ช่วงนี้ฉันยุ่งมากแค่ไหน” และคุณชอบ “ความเร่งรีบ” มากกว่า ในขณะที่ “การทำน้อยๆ” หมายถึงความขี้เกียจ ใช่หรือไม่ ?
- คุณเป็นทาสของ Mail Box ของตัวเองใช่หรือไม่ ? หรือคุณเริ่มรู้สึกว่าโทรศัพท์มือถือเป็นเหมือนส่วนหนึ่งของร่างกาย ที่ใช้ทำงานอื่นๆ เพิ่มเติมจากแขนของคุณ หรือไม่ ?
- คุณรู้สึกผิดมากที่จะ Skip สิ่งที่วางแผนที่จะทำไว้บน To do List ของคุณ หรือมีอาการตื่นอนกลางดึกเพราะอาการเครียดจากงาน บ้างใหม ?
- คุณรู้สึกอิจฉานิดๆเมื่อได้ยินว่าเพื่อนได้ทำงานในส่วนใหม่ๆของ Project และก็พยายามหาเหตุผลเข้าข้างตนเองว่าที่คุณไม่ได้ทำมันก็เพราะว่าคุณยุ่งมาก
หากว่าคุณตอบว่าใช่ แม้แต่เพียง 1 ข้อ ก็ถือว่าคุณเข้าข่ายแล้ว
ซึ่งจริงๆก็ถือเป็นเรื่องดี เพราะเราจะได้รู้วิธีรับมือกับมัน ซึ่งจะการมีความสุขมากยิ่งขึ้นและไม่กดดันตัวเองมากจนเกินไป สำหรับวิธีการปฎิบัติหลังจากนี้ ผู้เขียนจะนำเสนอในบทความถัดไปครับ
Source : https://psychcentral.com/blog/6-signs-youre-a-productivity-addict/
