จุดที่ 18 :: อย่ากลัวที่จะฝัน…
ช่วงนี้เป็นเทศกาลประกาศผล admission สำหรับน้องๆ ที่กำลังจะก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย
หลายๆ คนตื่นเต้นดีใจ สมหวังที่จะได้เรียนในคณะและมหาวิทยาลัยที่ตัวเองฝันไว้
และในเวลาเดียวกันก็มีอีกหลายๆ คนผิดหวัง และต้องเรียนรู้ที่จะผ่านบทเรียนชีวิตอีกบทหนึ่งไปให้ได้…
มันทำให้ผมหวนคิดถึงเรื่องราวในเมื่อครั้งผมอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัย และ ได้ทำกิจกรรมของคณะ โดยการสอนน้องๆ มัธยมปลายจากทั่วประเทศเพื่อเตรียมตัวสอบเอ็นทรานซ์ (ไม่ต้องคำนวณนะครับว่ากี่ปีแล้ว… ยังไม่ได้เปลี่ยนเป็น admission เลย ^^” )
ผมได้คิดการทดลองขำๆ ขึ้นมาอย่างหนึ่ง โดยมีน้องๆ พันกว่าคนเป็นคนช่วยหาคำตอบ …
คุณจำเวลาตอนก่อนเข้ามหาวิทยาลัยกันได้ไหมครับ? เวลาที่มีคนถามว่า… เราอยากเข้าคณะอะไร … หรือโตขึ้นอยากจะเป็นอะไร
คนที่มีฝัน … ก็น่าที่จะดวงตาเป็นประกาย แล้ว ตอบอย่างกระตือรือร้น…
ส่วนคนที่ยังไม่ได้คิดอะไร … ดูคำถามนี้น่าจะเป็นอะไรที่กระอักกระอ่วนชวนตัดบทแล้วโดดหนีไปจากวงสนทนาจริงๆ
… ครับ … แต่ในความเป็นจริงมันโหดร้ายกว่านั้น
ต่อหน้าน้องพันกว่าคน … ผมถามคำถามง่ายๆ ขึ้นมาว่า
“ใครอยากเข้า หมอ หรือ วิศวะ บ้างครับ ยกมือขึ้น”
(ผมเลือกที่จะใช้สองคณะนี้ เป็นหลักนะ เพราะผมอยู่วิศวะ และวิชาสายที่ติวก็คือ เลข ฟิสิกส์ เคมี .. ไม่ได้แปลว่าคณะอื่นไม่สำคัญนะครับ ^^ )
… มีน้องไม่กี่สิบคน ที่ยกมือขึ้นสูง …
… แต่นั่นไม่ใช่จุดประสงค์ของผม …
ผมยิงคำถามต่อไปทันที
“ ครับ … พี่ขอถามอีกทีนะ … คราวนี้ ใครที่อยากเข้า หมอ หรือ วิศวะ แต่คิดว่า หัวอย่างกู ไม่มีปัญญาสอบติดแน่ๆ ยกมือขึ้น!!” (ขออนุญาตใช้เสียงในฟิล์ม)
เชื่อมั้ยครับ … น้องยกมือกันพรึ่บพรั่บ ระคนไปด้วยเสียงหัวเราะ กะด้วยสายตาคร่าวๆ ยังไงก็เกินครึ่ง…
… เห็นอะไรจากคำถาม และคำตอบตรงนี้ไหมครับ ? …
… วันนั้น ผมสอนน้องๆ ว่า สำหรับคนที่ “เชื่อ” ว่าเราทำได้ กับคนที่นั่งบอกตัวเองทุกวันว่าเราคงทำไม่ได้หรอก … น้องคิดว่าคนไหนที่มีเปอร์เซ็นต์จะคว้าฝันของตัวเองได้มากกว่ากัน ..
ในขณะที่คนนึงอ่านหนังสือทำข้อสอบเพื่อที่จะเก่งขึ้น แต่อีกคนนึงทำแบบฝึกหัดไม่ได้แล้วนั่งโทษตัวเองว่าเป็นเพราะตัวเองโง่ … ใครกันที่จะสอบติด …
… วันนั้น ผมสอนน้องๆ ว่า อย่ากลัวที่จะฝัน และต้องกล้าที่จะก้าว … อะไรบางอย่างที่เราทำไม่ได้ จริงๆ แล้วมันเป็นเพราะเราแค่ “คิดว่า” เราทำมันไม่ได้ต่างหาก
ผมสอนน้องๆ ว่า ในเมื่อเวลายังเหลืออยู่ ทำไมไม่ลองหาจุดที่เรายังบกพร่อง แล้วแก้ไขตัวเอง เพื่อพัฒนาความรู้จนกระทั่งอยู่ในระดับที่น่าจะสอบได้
เรื่องนี้ … เป็นเรื่องที่ผมใช้สอนตัวเองเสมอมาจนถึงปัจจุบัน …ว่าไม่ใช่แค่น้องๆ มัธยมปลายหรอกครับที่ติดกับดักแบบนี้ พวกเราเองที่เป็นผู้ใหญ่ ที่บอกตัวเองว่าเราโตแล้ว ดูแลตัวเองได้แล้ว ก็มักจะติดปัญหาแนวคิดแบบเดียวกัน …
- เมื่อวันที่เราอยากจะทำงานในบริษัทใหญ่ๆ ที่เราฝันไว้
- เมื่อวันที่เราเห็นช่องทางทำธุรกิจแล้วต้องเริ่มลงมือทำอะไรสักอย่าง
- เมื่อวันที่เราอยากเรียนรู้ภาษาใหม่อีกภาษาหนึ่ง (หรือแค่เอาภาษาอังกฤษให้รอด)
- เมื่อวันที่เราอยากไปเรียนเมืองนอก แต่เราไม่มีทุนในมือมากพอที่จะไป
- เมื่อวันที่เราอยากเปลี่ยนสายงาน เลื่อนตำแหน่ง ไปในที่ๆ สูงขึ้น ค่าตอบแทนมากขึ้น
… เมื่อนั้น … เรายังบอกตัวเองอยู่ไหม
… ว่าคนอย่างเรา “ทำไม่ได้หรอก”
If you think you can, you can.
If you think you cannot, you can’t.
ขอให้ทุกคนสนุกกับความฝัน และไล่ตามความฝันของตัวเองนะครับ
.
Follow ติดตามอ่านบทความดีๆ และพูดคุยกันได้ที่
https://www.facebook.com/ConnectTheDot.in.th/
อ่านบทความทั้งหมดได้ที่
https://medium.com/@walkingtrail
ขอบคุณภาพดีๆ จาก https://www.pexels.com