นี่ไม่ใช่สิว นี่มันซีสต์! แชร์ไว้เป็นประสบการณ์ เจอก้อนซีสต์ที่หน้าอกครั้งแรก!

Nutto55
Abbon Corporation
Published in
2 min readFeb 19, 2023

สวัสดีนักอ่านทุกท่านค่ะ วันนี้อยากมาเขียนบทความเพื่อแชร์ประสบการณ์ตรงจากการเป็นซีสต์ที่หน้าอกครั้งแรกในชีวิตค่ะ หลายคนที่ผ่านเข้ามาอาจมาพร้อมความสงสัยว่า “เอ๊! คลำเจอก้อนแปลกๆ ที่หน้าอกเป็นแค่ซีสต์หรือเป็นเนื้องอกหรือเป็นอะไรกันแน่นะ?” ถ้าคุณเปิดอินเทอร์เน็ตเพื่อตามหาคำตอบนั้นในโลกออนไลน์แล้วล่ะก็… อย่าหาทำค่ะ ไปหาหมอให้มันจบๆ!

source: Mayoclinic

จุดเริ่มต้นของเรื่องราว

สวัสดีค่ะ นัทค่ะ เป็นโปรแกรมเมอร์ต่างจังหวัด ก่อนวันเกิดเหตุมีสถานะเป็นวัยรุ่นจบใหม่ไฟแรงเหมือนไฟไหม้ค่ะ (ฮา) ชีวิตช่วงนั้นเหมาะกับสโลแกนว่า นอนน้อยแต่นอนนะ กับ ทำงานเหมือนติดหนี้ ได้เลยค่ะ ด้วยความที่เป็นเด็กจบใหม่ไฟแรงและมีอะไรที่ต้องเรียนรู้อีกหลายอย่างเลยทำให้เรากระตือรือร้นในการหาอะไรมาทำทั้งทำงานประจำ และทำงานฟรีแลนซ์ไปด้วยกันค่ะ

ผลลัพธ์คือ เราไม่มีการออกอำลังกายใดๆ ทั้งสิ้น ออกกำลังกายมากที่สุดคือการเดินไปหน้าบ้านซึ่งไปกลับก็แค่ประมาณ 40 ก้าวเดินค่ะ เรานอนไม่พอ ช่วงที่มีงานพีคๆ คือเราเลิกงานตอนตี 4 ตลอดเลยค่ะ ซ้ำเรายังมีอาการ Revenge Bedtime Procrastination ที่ทำให้เวลานอนเราเช้าขึ้นไปอีกขั้น แต่ข้อดีคือเงินในบัญชีเราก็งอกเงยขึ้นเรื่อยๆ นะคะ เพราะเราไม่มีเวลาใช้นั่นเอง (ฮา) แล้วพอเรามีเวลาปุ๊บ เรื่องน่ากลัวจะเกิดขึ้นทันทีค่ะ นั่นคือ เราใช้เงินเหมือนวันพรุ่งนี้จะไม่มีวันให้ใช้เงิน และเรื่องที่ทำให้เราใช้เงินมากที่สุดคือเรื่องของการกินค่ะ เราจะหาเวลาบินไปหาพี่เราที่กรุงเทพฯ ทุกครั้งที่มีโอกาสเพื่อพากันไปกินของอร่อยๆ ร้านเด็ด ร้านลับ ต่างๆ เช่น ชาบู ปิ้งย่าง ไก่ทอดเกาหลี ฯลฯ จุดสังเกตคือ อาหารที่เราชอบมักเป็นอาหารมันๆ เลี่ยนๆ หรือ ของทอดค่ะ

ก่อนวันเกิดเหตุไม่กี่เดือนเราหมดไฟกับการทำงานค่ะ เราไม่มีความสุขที่มีเงินเยอะๆ แต่ไม่มีเวลาเหมือนเราเผาไฟเราตลอดจนมันจะมอด เราเลยตัดสินใจลางานกับพี่ฟรีแลนซ์แล้วทำแต่งานประจำค่ะ ความสุขเราเริ่มกลับมาบ้างเพราะเราเริ่มมีเวลามากขึ้น แต่ไลฟ์สไตล์ยังเหมือนเดิม และอาจจะหนักมากกว่าเดิมค่ะ เพราะเรามีเงินที่เก็บไว้จากการทำงานมาตลอดกับเวลาที่เพิ่มมากขึ้น เราก็มีเวลากินมากขึ้นเพราะเป็นสิ่งที่เราทำแล้วมีความสุขและมันช่วยฟื้นเราจากการหมดไฟค่ะ (พี่สาวเราถึงขั้นทักว่าเรากินผิดปกติเลยนะคะ) สรุปไลฟ์สไตล์เราสั้นๆ คือ ทำงาน กิน นอน วนไปค่ะ เราใช้ชีวิตอย่างนี้มาได้ปีกว่าๆ เลยจนกระทั่ง…

วันเกิดเหตุ

และแล้ววันนี้ก็มาถึง เรามีสิวขึ้นที่หน้าอกค่ะ น้องมาแบบเป็นแก็งค์กระจายตัวบนหน้าอกเราหลายๆ เม็ด และเราไม่ชอบเราเลยแกะน้องออกเป็นช่วงๆ ข้อสังเกตคือน้องสิวพวกนี้ต่างจากสิวทั่วไปที่บีบแล้วจะมีหนองไหลออกมา แต่สิวที่หน้าอกบีบแล้วน้องจะหลุดออกเป็นเม็ดๆ ค่ะ

จนกระทั่งวันหนึ่ง ก็มีน้องที่แปลกไปจากน้องสิวเม็ดอื่นขึ้นมา น้องเหมือนสิวที่เม็ดใหญ่และไม่มีหัว เราพยายามจะแงะน้องออกแต่น้องไม่ออก เราเลยเริ่มคลำๆ ขนาดของน้องที่หน้าอก…

อุ้ย ตาเถร! มันไม่ใช่สิวมันคลำได้เป็นก้อนใหญ่เลยเว้ย! มะเร็ง มะเร็งแน่ๆ! เพราะแม่เราก็เป็นมะเร็งเต้านมด้วยเราก็มีโอกาสเป็นเหมือนกัน ในหัวเราคิดไปล้านแปดอย่างเลยเพราะเราเคยเห็นแม่เราเป็นมาก่อน ทั้งผ่า ทั้งตัด ทั้งทำคีโม มันทรมานนะคะกว่าท่านจะเสีย อายุเราเท่านี้เอง 😭

ได้เวลาหาหมอ

เครียดอยู่ซักพักเราก็เอาเรื่องนี้ไปปรึกษาพี่สาวเราค่ะ พี่เราก็ตกใจ แต่โชคยังดีอยู่ที่พี่เรารู้จักโรคสาวๆ มากกว่าเราค่ะ พี่เราบอกให้เราใจเย็นๆ เพราะอาจจะเป็นอย่างอื่นๆ ก็ได้ และแนะนำให้ไปหาหมอค่ะ แต่เราเป็นผู้หญิงบอบบางไปเปิดหน้าอกที่มีสิวมีรอยให้หมอดูเราก็เขินค่ะ เน้นว่าเขินมากๆ ไม่กล้าไปคนเดียว พี่เราเลยชวนไปหาหมอที่โรงพยาบาลวิภาวดีกรุงเทพฯ เพราะคุณหมอเป็นผู้หญิงแล้วพี่เราจะได้ไปด้วยได้ พอพี่เราพูดจบปุ๊บก็โทรนัดหมอให้เสร็จสรรพเลยค่ะ

วันแห่งการเตรียมใจหมดไป วันหาหมอก็มาถึง เราแต่งตัวด้วยการใส่เสื้อที่ถอดง่ายๆ จะได้สะดวกเวลาคุณหมอขอตรวจค่ะ มีการรอคิวเล็กน้อยก่อนเข้าตรวจ ทริคเราคือไปก่อนเวลานัดซัก 1 ชั่วโมงค่ะจะได้คิวต้นๆ และรอไม่นาน พอถึงคิวเราคุณหมอก็สัมภาษณ์เล็กน้อยแล้วให้เราขึ้นเขียง เอ้ย! ขึ้นเตียงแล้วคุณหมอก็คลำๆ ที่หน้าอกเราค่ะ หากใครอยากลองคลำตรวจเองก็สามารถทำได้ง่ายๆ แบบนี้ค่ะ

source: Bangkok hospital Pattaya

คลำไปซักพักคุณหมอวินิจฉัยว่า เรามีน้องซีสต์ที่หน้าอกขนาด 0.5 เซนติเมตร และก็มีน้องซีสต์ที่กำลังจะวิวัฒนาการกระจายตัวอยู่ทั่วหน้าอก ใช่ค่ะ น้องๆ ที่เราคิดว่าเป็นสิว คือน้องซีสต์ทั้งหมดค่ะ คุณหมอทักทันทีเลยค่ะว่า “เราชอบกินของมันของทอดใช่มั้ย?” เป็นคำถามที่ไม่เกรงใจไก่ทอดชุงxที่เรากินเมื่อคืนก่อนเลยค่ะ (ฮา) เคสของเราคล้ายกับผู้ป่วยอีกท่านหนึ่งที่ชอบกินหมูกระทะทุกอาทิตย์แล้วมีอาการแบบเดียวกันเลยค่ะ คุณหมอเลยรู้

จะหายได้ยังไง?

วิธีรักษาง่ายมากค่ะ ไม่ต้องกินยา ไม่ต้องผ่าอะไรทั้งสิ้น แต่งดของมัน ของทอด นอนให้เป็นเวลามากขึ้น ออกกำลังกายให้มากขึ้น แล้วคุณหมอจะนัดมาติดตามอาการใหม่อีกครั้งในเดือนถัดไป ถ้ายุบแสดงว่าน้องไม่ร้ายแรง แต่ถ้าไม่ยุบก็อาจต้องแสกนหน้าอก และต้องผ่าเอาออกค่ะ บอกตามตรงตอนนั้นเราเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งว่าทำแค่นั้นจะหายจริงๆ แต่เรากลัวตายค่ะ เราเลยเริ่มหักดิบจากการลดอาหารที่เราชอบ หันมากินผักผลไม้มากขึ้น กับนอนให้เป็นเวลามากขึ้น (แต่ยังไม่มีเวลาออกกำลังกายเหมือนเดิม ฮา) น้องก็ค่อยๆ ยุบลงค่ะ จนถึงปัจจุบันน้องก็หายหน้าหายตากันไปแล้ว เหลือไว้แต่รอยอารยธรรมที่เราแกะทิ้งไว้ค่ะ แต่เราต้องห้ามประมาทเพราะน้องสามารถแวะเวียนกลับมาหาเราได้อีกถ้าเรากลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมนะคะ

บทสรุป

ถ้าทุกคนอ่านมาถึงตรงนี้แล้ว เชื่อว่าหลายคนคงจะสรุปว่าปัจจัยสำคัญที่ทำให้เราเป็นซีสต์เกิดจากการนอนไม่เพียงพอ การกินอาหารเลี่ยนๆ มันๆ และการไม่ออกกำลังกาย ซึ่งมันก็จริงค่ะ แต่เรากลับคิดว่าสาเหตุสำคัญจริงๆ มันคือ การที่เราไม่รักตัวเองค่ะ เพราะเราปล่อยปละละเลยชีวิตตัวเอง ปล่อยให้ชีวิตมีแต่การ กิน นอน ทำงาน ทำให้เราเป็นแบบนี้ค่ะ

วันที่พี่เรารู้ว่าเรามีก้อนในหน้าอกครั้งแรก สิ่งแรกที่พี่เราพูดคือ “ทำไมถึงปล่อยตัวเองให้เป็นได้ขนาดนี้” เราจุกไปเลยนะคะ พี่เรากลัวเสียเราไปเหมือนแม่เราค่ะ ดังนั้น ทุกคนคะ วันที่เราแย่ไม่ได้มีแค่เราเองที่เสียใจนะคะ ถ้าคุณกำลังเกิดเหตุการณ์คล้ายๆ กันอยู่ ไปหาหมอเถอะค่ะ คุณหมอเห็นนมมาทุกรูปแบบก่อนที่จะมาเจอคุณแล้วค่ะ ไม่ต้องเขิน!

--

--

Nutto55
Abbon Corporation

Developer who interested in sexy code and the things out of it.