Sitemap
MemoSmile :D

บันทึกการเดินทาง แบ่งปันเรื่องราวที่ดีต่อใจและจิตวิญญาณ :D — Inner Self Supportment ❤

[Review] “Me, Myself and I” — Art Exhibition and Emotional Event

--

“Exhibition Event” ที่ทั้งหัวเราะและเสียน้ำตา ปล่อยอารมณ์หลุดไปอีกโลกชั่วขณะ

“Me, Myself and I” คือ ?

“Me, Myself and I” คือ Art Exhibition and Emotional Event หรืองานศิลปะการแสดงแบบ EXCLUSIVE ที่ให้ทุกคนแยกเข้าไปในงานคนเดียว ผ่านคอนเส็ป ไปรษณีย์สุดเก๋ “ME, MYSELF AND I POST OFFICE” ที่มีผู้ก่อตั้งคือ Richard) เพื่อให้ทุกคนได้พัก ได้หายใจ และได้คิดถึง เรื่องราวต่างๆของตัวเอง….

โดยมี Copy ของ Post Office ว่า

‘CUZ WE BELIEVED THAT YOURSELF IS WORTH REMEMBERING OF!

LET US CAPTURE THE REAL YOU FOR YOU.

เปิดทำการตั้งแต่ 8–12 พฤษภาคม 2562 (มีเพิ่มรอบ 15–19 พค.)
และตอนนี้เพิ่มอีก 12–16 มิถุนายน และ 19–23 มิถุนายน
เปิดส่งไปรษณีย์เป็นรอบทุกชั่วโมง ตั้งแต่ 18:00 น. ถึง 22.00 น.
รอบละ 6 คน เท่านั้น!!!

งานนี้จัดโดย RHYTHMthinker

*ใครที่อยากข้ามส่วนการเกริ่นจิปะถาไปช่วงเกี่ยวกับอีเว้นท์ ข้ามไปตรง Review ได้เลยจ้าา

Big Picture Review [No Spoil]

เราว่าเราค่อนข้างโชคดี ที่หลายๆครั้ง เรามักจะพาตัวเองไปอีเว้นท์ต่างๆ เพราะแค่รู้สึกว่ามันน่าสนใจ แต่ไม่ค่อยได้อ่านรายละเอียดอะไรจริงจัง ทำให้การไป Exhibition Event ครั้งนี้ เราได้อยู่กับบรรยากาศ และอารมณ์ตรงนั้นเต็มๆ โดยที่ไม่มีการสปอยใดๆมาก่อนเลย มันเลยทำให้ความรู้สึกทุกอย่างมันสุดและใหม่มาก

ตามชื่อที่บอกว่า “Me, Myself and I” มันคือการที่ทำให้เราได้อยู่กับตัวเอง เป็นตัวเองได้เต็มที่ ซึ่งคอนเส็ปของงาน ก็ทำให้ดึงเราที่เป็น Extrovert แล้วไม่ค่อยได้อยู่กับตัวเองเท่าไหร่ ได้มีเวลาคิดและอยู่กับตัวเองในช่วงเวลา ประมาณ 20 นาที

แล้วยิ่งด้วยจังหวะของชีวิตเราตอนนี้ ที่เรารู้สึกว่า เราเป็นอะไรก้ไม่รู้ ชีวิตมันเหนื่อยจัง จากที่เคยมีพลัง ยิ่งเจอคนเก่งๆยิ่งมีพลัง แถมเรายังเป็นคนที่หลายๆคนบอกว่าเราส่งพลังบวกให้เค้าได้ กลายเป็นคนที่ไม่มีพลัง พลังจากคนอื่นที่ส่งมาก็ดูจะมีผลกับเราน้อยกว่าที่ควรจะเป็น หรือเผลอๆให้ผลลบกับตัวเรา ให้เราคิดลบกับตัวเองเข้าไปอีก เรารู้สึกว่าเราเหนื่อยมาก อธิบายออกมาไม่ถูก ซึ่งพอไปอีเว้นท์นี้ ความรู้สึกทุกอย่างมันพรั่งพรูออกมา มันเหมือนค่อยๆปูมาจากความงงๆ ดึงออกมาแค่บางเรื่อง แต่มันทำให้เราไหลเข้าไปความรู้สึกตรงนั้นได้เร็วมาก ในตอนจบ

เราคิดว่า เตย (คนจัดงาน)เอง พอเห็นเรา เค้าคงรู้สึกได้ ถึงเดินเข้ามากอด วินาทีนั้น กอดนั้นของเตยมันอบอุ่นมากเลยแหละ แล้วการที่เราได้นั่งคุยกับเตยต่อ ว่าเตยคิดยังไง ทำไมออกมาเป็นอีเว้นท์นี้ มันเหมือนเราเห็นตัวเอง ในส่วนที่อ่อนแอของเตย เราอยากขอบคุณเตย ที่จัดการครั้งนี้ขึ้นมา :D อยากให้จัดอีกกก ถ้ามีอีก ไม่พลาดแน่ๆ

REVIEW — Exhibition Event [Spoil]

PART 1 : กิจกรรมชั้นล่าง

พอไปถึงที่ Rhythm of ARTS Creative Space ก็จะมีป้ายให้อ่านเพื่อปรับจูนกติกาก่อนเข้างานกันเล็กน้อย แปะไว้อยู่ตรงประตู (นี่เปิดเข้าไปแบบงงๆ ว่าใช่งานอีเว้นท์มั้ยนะ จนลืมถ่ายรูป) พอเปิดประตูเข้าไป เหมือนเราหลุดไปอีกโลกนึง ทีมงานก็จะให้เบอร์เลข พร้อมเหรียญให้เล่นเกมในชั้นล่าง

กิจกรรมในชั้นล่าง จะมีทั้งหมด 3 กิจกรรมให้เลือกเล่น
1. มีแม่หมอดูดวง ให้เสี่ยงเซียมซี
2. มี Color ให้ปาสี
3. ให้เป่ายิงฉุบ

ภาพบรรยากาศงานชั้นล่าง (CR. 2 รูปขวาจากเพจ RHYTHMthinker)

อันนี้เราว่า ทางทีมต้องการ Ice Breaking คนที่มา เพื่อปรับมู้ด จูนอารมณ์ก่อน และจะได้มีอะไรทำ ในระหว่างที่รอคนดูในรอบนั้นๆมาให้ครบ ซึ่งมันเวิร์คนะ สำหรับเราที่กำลังหม่นๆในชีวิต พอเปิดประตูเข้าไป เหมือนเราหลุดไปอีกโลกนึง Energy ทุกคนส่งมาแรงมากก เหมือนกึ่งๆ Try out ละคร Improvise สด หรือหลุดไปในโลกอะไรซักอย่าง ได้ทำอะไรบ้าบอ แล้วแต่ตามที่อยากจะทำ

  • เซียมซีที่เราได้ ก็ค่อนข้างตรงกับความรู้สึกและชีวิตเราตอนนี้ เชือกผูกข้อมือพร้อมคำอวยพร มันก็เป็นอะไรที่ให้กำลังใจ ให้พลังเราได้ไม่น้อยเลย
  • ปาสี ก็เหมือนได้ปล่อยอะไร ใส่แรงการปาตรงนั้นไป ก็ทำให้รู้สึกโล่งขึ้นได้นิดหน่อย

PART 2: Post Office ชั้น 2

หลังจากเล่นกิจกรรมเสร็จ ก็จะมีคนมาเรียกให้เตรียมตัวพร้อมขึ้นไป Post Office ที่อยู่ชั้น 2 ซึ่งหลักๆคือ

  • จ่าหน้าซองจดหมายถึงตัวเอง
    จะมีซองจดหมายทั้งหมด 6 ซองให้ทุกคนได้จ่าหน้าซองจดหมายส่งถึงตัวเอง
  • ทำความรู้จัก Richard เจ้าของ Me, Myself and I Post Office ความเป็นมาของบริษัทและทำความรู้จักประวัติบรรพบุรุษของ Richard
นี่คือหน้าตาของ Richard และรูปคู่ร่วมกับดาราที่ใช้บริการ Me Myself and I Post Office แปะเต็มกำแพง — List เพลงให้เลือก
  • เล่นเกมส์ ตอบคำถามกับ Richard
    Richard ก็จะชวนทุกคนในห้อง เล่นเกมส์ และตอบคำถามจิตวิทยาต่างๆนาๆ หรือทำความรู้จักกันไป เช่นว่า คิดว่าทะเลเป็นสีอะไรดี ถ้าเห็นไข่ตรงหน้า คิดว่าเป็นไข่อะไร และหนึ่งในคำถามเหล่านั้น ก็คือ ให้เลือกเพลงที่ตรงกับตัวเอง หรือเพลงที่ชอบมา 1 เพลง จากทั้งหมด 5 เพลงที่ให้มา เราชอบหมดเลยทั้ง 5 เพลง แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจเลือกเพลง TRY

ระหว่างเล่นเกมส์กันไป ทางทีมงานก็จะเรียกแต่ละหมายเลขตามคิว ขึ้นไปข้างบนชั้น 3 เพื่อทำกิจกรรมส่งจดหมายหาตัวเองต่อไป

PART 3: Me, Myself & I Rooms & Activities ชั้น 3

กิจกรรมในชั้น 3 นี้จะแบ่งเป็นทั้งหมด 4 ห้อง ห้องละประมาณ 5 นาที โดยที่ในแต่ละห้อง จะมีจดหมายวางอยู่ ที่จะให้เปิดอ่าน และทำตามข้อความข้างในของแต่ละห้อง

ห้องที่ 1 — Pride

เข้าไปห้องแรก รู้สึกเหมือนถูกดึงไปอยู่ในภาวะของความเป็นเด็ก ด้วยลายเส้นวาดรูปบนกำแพง และรูปการ์ตูน คาแรคเตอร์ต่างๆในกระดาษที่วางกองๆรวมกันเป็นเนิน พร้อมมีโทรศัพท์แก้วกระดาษที่ร้อยเชือกวางอยู่ที่ด้านขวามือ เต็มไปหมด

ห้องนี้เป็นห้องที่ให้พูดถึงเรื่องที่ตัวเองภูมิใจ ซึ่งเอาจริงๆ สำหรับเรา มันแอบยากนิดนึง โดยเฉพาะยิ่งในภาวะที่ตัวเองรู้สึกไม่ค่อยมีพลังแบบนี้ ก็รู้สึกแอบมีความกดดันนิดหน่อย ว่าจะเล่าอะไรดี แต่สุดท้ายก็เลือกมาเรื่องนึง ที่มัน Pop up ขึ้นมาพอดี ซึ่งพอเล่าๆไป ก็แอบทำให้มีน้ำตาคลอเหมือนกันแฮะ หลังจากเล่าๆเสร็จ ก็ได้รูปวาดตัวเอง ที่เกี่ยวกับเรื่องราวที่เล่า ติดไม้ติดมือกลับออกมาด้วย

ห้องที่ 2— Forgiveness

เปิดประตูมาห้องนี้แว้บแรก คือดีมากก ทั้งเพลง ทั้งการจัดทุกอย่างในห้อง มู้ดทุกอย่างมันเอื้อให้ดึงส่วนเศร้าออกมาได้ดีมากเลย ยิ่งอ่านข้อความในจดหมาย ที่ให้เลือกเขียนเรื่องที่รู้สึกแย่ หรือเรื่องที่ติดค้างในใจและอยากให้อภัยตัวเองลงในกระดาษ แล้วเอาไปใส่ในเรือ ลอยในอ่าง หรือเอาไปลงชักโครก มันเป็นคอนเส็ปที่ดีมากเลย ที่ให้เราได้เขียนเรื่องระบายอะไรออกไป ซึ่งเรื่องที่เราเขียนก็แทบจะไม่ได้พูดให้ใครรู้เท่าไหร่ แล้วมันก็ติดค้างมานาน ทำให้เขียนไป มีน้ำตาไหลไปอยู่เหมือนกันส่วนสำหรับบางคนที่ไม่ได้ Emotional หรือมีเรื่องค้างในใจหนักๆแบบเรา เราว่าก็น่าจะดีมากเหมือนกัน ที่ได้ยกเรื่องที่อาจจะมีติดค้างในใจในชีวิตประจำวัน ออกไปบ้าง

ห้องที่ 3 — Future & Dream

หลังจากอยู่ในมู้ดห้องที่ 3 เราถูกดึงกระชากอารมณ์ให้เบาขึ้น ด้วยเสียงเพลงสบายๆเบาๆ พร้อมการตกแต่งห้องแบบมุ้งมิ้งที่เหมือนเราอยู่ในเมฆ ซึ่งห้องนี้ก็จะเป็นห้องที่ให้เรา หยิบ Quote ที่เราชอบ ที่แปะอยู่ตามกำแพง ประทับรอยนิ้วมือ และนำมันกลับบ้าน เผื่อไว้ติดให้กำลังใจตัวเอง ห้องนี้แอบมีเวลาเหลือเยอะนิดนึง ก็เลยได้โอกาสตั้งกล้องถ่ายรูปตัวเอง (ที่เป็น Cover content นี้) เก็บไว้ 55

ห้องที่ 4— Live Music At Ease

ห้องนี้ไม่มีชื่อ หรือ Theme ที่ชัดเจน แต่เราตั้งเอาเอง จากบรรยากาศการตกแต่งห้อง ที่มุมนึงเป็นโซฟาน่านั่งสีขาว มีผ้าสีขาวและของตกแต่งสีขาว ส่วนอีกมุมหนึ่ง ถ้านั่งโซฟามองไป ก็จะเห็นเปียโนหลังหนึ่ง พร้อมผู้หญิงผมยาวชุดขาว กำลังนั่งเล่นเปียโนอยู่ (ห้องนี้ห้ามถ่ายรูป เลยไม่มีรูปมาให้ดู แต่บรรยากาศดีมากก จนเราก็ไม่อยากเอามือถือขึ้นมาถ่าย และอยากเสพย์โมเม้นต์ตรงนั้นให้สุดๆเหมือนกัน)

เราเป็นคนที่ชอบเปียโนและเสียงร้องเพลงมากก ซึ่งพอเดินเข้าห้องนี้มา ด้วยบรรยากาศห้องที่เราบอก พร้อมเสียเปียโน Intro ของเพลง Try ขึ้นมา มันดึงอารมณ์เราให้ Deep ไปกับโมเม้นตรงนั้นสุดๆ รู้ตัวอีกที ก็นั่งอยู่โซฟา น้ำตาไหลพราก อินไปกับเพลงที่ตัวเองเลือกซะแล้ว มันเหมือนเพลงกำลังบอกเรา เป็นเพื่อนเราให้กำลังใจเรา และเตือนสติเราไปด้วย เราหลุดอยู่กับตรงนั้นได้เต็มที่ อยู่กับตัวเองได้เต็มที่ โดยไม่ต้องกลัวใคร Judge หรือไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้น มันเหมือนสิ่งที่เรารู้สึกหนักมากๆ ได้ถูกปล่อยออกมาในช่วงเวลานึง (ที่อยากจะได้เวลานานกว่านี้อีกหน่อย 55 เพราะพออยู่ตรงนั้นได้แปปนึงก็จะต้องรีบดึงตัวเองกลับมา เพราะถ้าออกจากห้องด้วยอารมณ์นั้น คนน่าจะช็อคแน่ๆ)

Conversation with Toey

หลังจากจบอีเว้นท์ เราได้มีโอกาสคุยกับเตย คนที่เป็นเจ้าของไอเดียอีเว้นท์ครั้งนี้ มีหลายอย่างที่เตยพูด แล้วทำให้เรารู้สึกว่าเรามีคนเข้าใจ มีคนพูดในสิ่งที่เราไม่รู้ว่าเราจะอธิบายออกมายังไง

เตยบอกว่า เตยโชคดีที่เป็นคนที่รูจักตัวเองดีมากๆ ทำให้ไม่ค่อยเป็นทุกข์ และมีความสุขมาก (อันนี้ทำให้เราอิจฉาเตยมากเลยแหละ) แต่ถึงอย่างงั้นก็เถอะ เตยรู้สึกว่าช่วงนี้เตย Lost พลังบวกที่เคยมี มันไม่มีเท่าเดิม เตยรับพลังลบมาเยอะ เป็นแรงบันดาลใจให้เตยทำอีเว้นท์นี้ ให้คนได้มีเวลาคุยกับตัวเอง อยู่กับตัวเองมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโลกที่เราเสพย์ชีวิตด้านดีของคนอื่นเต็มไปหมดใน Social Media หรือแบกอะไรหลายๆอย่างไว้โดยที่ไม่รู้ตัว และไม่ค่อยได้คุยหรือทำความรู้จักตัวเอง

อยากขอบคุณเตยที่ทำอีเว้นท์นี้ขึ้นมา ให้เราได้มีเวลาอยู่กับตัวเองจริงๆ ด้วยสภาพแวดล้อมที่เตยสร้างขึ้นมา และทำให้เราได้พลังบางส่วนของเรากลับมาบ้าง เรารู้สึกว่าอีเว้นท์ของเตย มันช่วยเรามากๆในช่วงชีวิตแบบนี้ของเรา มันเป็นจังหวะที่ดีมากๆ

ขอบคุณ :D

ส่วนใครที่อยากติดตาม เราไม่แน่ใจว่าเตยจะได้มีโอกาสทำอีเว้นท์แบบนี้อีกมั้ย แต่เราเชื่อว่าเดี๋ยวน่าจะมีอีเว้นท์ดีๆมาอีกเรื่อยๆ ยังไงก็ติดตาม เพจ RHYTHMthinker ได้เลย

ปิดท้ายด้วยรูปนี้ ที่แม้กระทั่งเข้าห้องน้ำ ยังมี Quote ให้กำลังใจเลย ;p

--

--

MemoSmile :D
MemoSmile :D

Published in MemoSmile :D

บันทึกการเดินทาง แบ่งปันเรื่องราวที่ดีต่อใจและจิตวิญญาณ :D — Inner Self Supportment ❤

Aae Rossana
Aae Rossana

Written by Aae Rossana

An ordinary girl who tries to be her better version and like sharing things with others :D

No responses yet