คิดคะแนนตามหลัง
มนุษย์ไม่เก่งเรื่องคาดเดาอนาคต แต่พวกเราเก่งเรื่องระลึกความหลัง
ประมาณว่า …
“ผมว่านะเราน่าจะได้ยอดขาย 25 ล้านบาทภายในสองเดือนนี้ครับ”
ผ่านไปสองเดือน
“ครับ ผมรู้ครับว่าทำไมเราขายได้แค่ 12 ล้าน เพราะคู่แข่งตัดราคาเรา แถมมีอีกรายที่ออกโปรดักท์ก๊อบปี้เราเลย นี่ยังไม่นับว่ารถขนของเราเสียไปสามคันพร้อมๆกันอีก …”
การประเมินระยะเวลาของโปรเจกต์ก็ไม่ต่างกัน ประมาณว่า … “งานนี้เดือนเดียวก็เสร็จครับ” กับ “ครับ ตอนนี้ดีเลย์มาสองเดือนแล้วก็จริง แต่งานก็คืบหน้าไปเกิน 70% แล้วนะครับ เราเจอปัญหาเยอะครับ มีคนลาป่วยยาว งานก็ซับซ้อนกว่าที่คิดมาก”
ในเมื่อเราไม่เอาไหนเราคาดเดา ในเมื่อเรามีความสามารถในการอธิบายเรื่องราวในอดีตได้เป็นวรรคเป็นเวร … เราจะเสียเวลามากมายเพื่อการคาดเดาไปทำไม
ไม่ต้องเดาจะดีกว่ามั้ย … “ถ้ามีเวลาให้ผมหนึ่งเดือน ผมก็ทำงานให้ได้เท่านี้ครับ เรียงตามลำดับนะครับ”
รวมถึง … “โอเค จบไซเคิ่ลแล้ว ผมบอกได้เลยว่างานนี้ยากหวะ ให้ 8 แต้ม งานนี้ง่ายกว่าหน่อย 5 แต้มน่าจะโอเค”
รวมถึงการให้พ้อยท์ย้อนหลังด้วย เวโลซิตี้มีไว้เพื่อชี้นำและชี้แนะ มันไม่ใช่กฎเกณฑ์ที่ต้องเคารพ รอบที่แล้วได้ 23 รอบนี้ต้อง 23 หรือมากกว่า … อันนี้ไร้สาระ
การมองย้อนหลังอย่างละเอียดเพื่อได้ภาพสะท้อนที่ชัดเจนกับงานที่ทำนั้นมีค่ากว่าการคาดเดาแบบมั่วซั่วตอนต้นมากนัก ถ้าเลือกประเมินได้แค่ครั้งเดียว … ทำตอนท้ายเมื่อมีข้อมูลครบถ้วนจะดีกว่า